
วันที่ 27 ธ.ค. 68 ที่โรงแรมชาเทรียม จันทบุรี พล.อ.อ.ประภาส สอนใจดี ผู้ช่วย ผบ.ทอ. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ให้สัมภาษณ์ ภายหลัง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม และพล.อ.เตีย เซ็ยฮา รมว.กลาโหม ลงนามใน ถ้อยแถลงผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) ว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ จะมีการสื่อสารผ่านทางสายด่วน กับประเทศกัมพูชา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและหาทางออกด้วยความสันติวิธี โดยจะมีทั้งทูต AOT รวมถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้ง 2 ประเทศ และประเทศไทยจะนำหลักฐานทุกสิ่งอย่างไปใช้ในเวทีนานาชาติ เพื่อยืนยันว่า ประเทศไทยไม่ใช่ฝ่ายเริ่มยิงก่อน
ทั้งนี้ผลการลงนาม มีการยืนยันว่า หยุดยิงเป็นเวลา 72 ชั่วโมง โดยมองว่าเป็นตัวเลขที่เหมาะสม เพราะเป็นตัวเลขระดับมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก แต่ถ้าหลังจากนั้น ทางกัมพูชาละเมิดข้อตกลง เดี๋ยวเปิดฉากปะทะอีกครั้ง กองทัพไทยก็จะใช้มาตรการเดิมในการตอบโต้ ที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล และพร้อมจะเปิดหลักฐานในเวทีโลก เพื่อให้ประชาคมโลกเห็นข้อเท็จจริง
พล.อ.อ.ประภาส กล่าวต่อว่า หากหยุดยิงครบ 72 ชั่วโมงตามข้อตกลง ไทยก็จะส่งเชลยศึก 18 นาย กลับคืนสู่ประเทศ เพื่อแสดงความจริงใจ และอยากให้กัมพูชาดูเรื่องมนุษยธรรม เพราะยังมีคนไทยในปอยเปตที่ต้องการจะกลับไทย ซึ่งจะมีการพูดคุยเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ แต่ถ้าหากส่งคืนเชลยศึกแล้ว กัมพูชาละเมิดข้อตกลง กองทัพก็จะตอบโต้เหมือนเดิม เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง โดยจะหมดเลยไปที่การดูแลความปลอดภัยของประชาชน และจะนำข้อเท็จจริงทั้งหมดไปสื่อสารกับประชาคมโลกให้ทุกคนเห็นว่าประเทศไทย ตอบโต้ตามมาตรฐานสากล และเปิดทางที่จะใช้การเจรจาอย่างสันติภาพด้วยความจริงใจแล้ว ต้องการทำให้ทุกคนเห็นว่าเราพยายามต่อสู้กับคนที่ไม่ได้เคารพกติกา ถึงแม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลา ใช้กระบวนการในเวทีนานาชาติแต่ขอให้มั่นใจว่าเราต่อสู้ด้วยความจริง กองทัพไม่มีหยุดปีใหม่ เตรียมพร้อมที่จะรับใช้ชาติตลอดเวลา
พล.อ.อ.ประภาส กล่าวอีกว่า สำหรับชาวบ้านกว่า 400,000 คน ที่อพยพมาอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว รัฐบาลและทุกภาคส่วนยืนยันว่าจะดูแลอย่างเต็มที่ มีมาตรการเยียวยาตามข้อเท็จจริง พร้อมทั้งขอบคุณคนไทย ที่ส่งของจำเป็นบริจาคมาอย่างต่อเนื่อง แต่การจะกลับเข้าพื้นที่นั้นขึ้นอยู่กับการประเมินของทหารหน้างานในแต่ละพื้นที่ ตอนนี้ก็ทราบว่าหลายๆพื้นที่ต่างก็ทยอยกลับกันบ้างแล้ว และตนก็คาดหวังความจริงใจจากกัมพูชาเช่นเดียวกันว่าจะไม่ละเมิดข้อตกลงใดๆ อีก
สำหรับปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชานั้น เกิดขึ้นที่บริเวณแนวชายแดนเท่านั้น ส่วนจุดอื่นภายในประเทศยังอยู่ในเหตุการณ์ปกติ ดังนั้นขอให้ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศไม่ต้องกังวล ขอแค่ไม่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ก็พอ
Advertisement