Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
พรรคภูมิใจไทย โชว์วิสัยทัศน์ด้านสังคม"ซาบีดา"มุ่งแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำ"

พรรคภูมิใจไทย โชว์วิสัยทัศน์ด้านสังคม"ซาบีดา"มุ่งแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำ"

24 ธ.ค. 68
13:42 น.
แชร์

พรรคภูมิใจไทย โชว์วิสัยทัศน์ด้านสังคม"ซาบีดา"มุ่งแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำด้วย"Skill Bridge"สะพานเชื่อมทักษะแรงงานสู่โลกอนาคต เปิดตัว"Learning Passport"

วันที่ 24 ธ.ค. ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ชั้น 3 นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย แถลงนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง 2569 ด้านสังคม ว่า ทุกท่านในที่นี้เคยได้ยินใช่หรือไม่ว่าประเทศไทยจะเป็นเสือตัวที่ 5 ตนได้ยินคำนี้ตั้งแต่เรียนชั้นประถมแต่ผ่านไปกว่า 30 ปีเสือตัวที่ 5 ของเอเชียก็ยังไม่เกิดขึ้น ประเทศไทยยังไม่สามารถก้าวข้ามกับดักประเทศรายได้ปานกลางได้ ซึ่งหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศให้หลุดพ้นจากกับดักนี้คือการเพิ่มทักษะให้กับแรงงานควบคู่กับการใช้เทคโนโลยี แต่จะเกิดไม่ได้เลยถ้าไม่มีการลงทุนในมนุษย์อย่างจริงจัง

และประเทศจะสามารถไปต่อได้คือการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียม แต่ยังพบความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในกลุ่มครอบครัวที่มีมีรายได้น้อย ขณะเดียวกันนักเรียนนักศึกษาหรือว่าคนทำงาน คนที่ต้องการทักษะใหม่ๆ ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการเรียนรู้ยิ่งเป็นการซ้ำเติมช่องว่างระหว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้กว้างขึ้นยิ่งกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้หากปัญหาการศึกษาเชิงโครงสร้างยังไม่ถูกแก้ไขประเทศไทยก็ยากที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงพรรคภูมิใจไทยจึงเสนอแนวคิดการศึกษาเท่าเทียมพลัสเพื่อทำให้เรียนฟรีมีจริงเรียนฟรีมีงานทำเรียนฟรีได้ทุกที่ทุกเวลา

นโยบายการศึกษาเท่าเทียมพลัส ที่ 1 พรรคภูมิใจไทยเราเสนอที่จะสร้างแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ฟรีหรือ1 แพลตฟอร์ม 1,000,000 ความรู้ร่วมความรู้ที่ทันสมัยรวมทั้งความรู้ที่ครอบคลุมการศึกษาทุกระดับทุกคนสามารถเข้าไปเรียนผ่านแพลตฟอร์มนี้ได้ฟรีและที่สำคัญระหว่างการใช้แพลตฟอร์มนี้นั้นจะไม่ถูกคิดค่าอินเตอร์เน็ตแล้วก็ยังเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

นโยบายการศึกษาเท่าเทียมพลัสที่ 2 คือ Skill Bridge คืออะไรคะก็คือสะพานที่จะพาคนไทยข้ามไปสู่อนาคตที่ดีกว่า โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมากและทักษะที่เราเคยเรียนในอดีตไม่สามารถใช้ได้กับโลกปัจจุบันระบบการเรียนที่ที่ผ่านมามีลักษณะเหมือนเป็นการยัดเยียดผู้เรียนไม่สามารถเลือกได้ว่าฉันต้องการจะเรียนทักษะอะไรเด็กไทยส่วนใหญ่จึงขากทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการ โดยพรรคภูมิใจไทยมีทางออก Skill Bridge โดยจะพัฒนาแพลตฟอร์มอัพสกิลแห่งชาติ เป็นแพลตฟอร์มของรัฐที่มีการยกระดับทักษะของคนในประเทศ โดยเน้น 3 แกนหลักคือ ทักษะ เน้นงาน และมีรายได้ สิ่งสำคัญคือหลักสูตรบนแพลตฟอร์มนี้จะมีบริษัทชั้นนำจากภาคเอกชนจากหลากหลายอุตสาหกรรมจะมาร่วมกันออกแบบร่วมกับสถาบันการศึกษาและมีตัวอย่างของประเทศเพื่อนบ้านที่มีความประสบความสำเร็จในเรื่องของการศึกษาแล้วนั้นก็คือประเทศสิงคโปร์ที่ใช้แพลตฟอร์มสฟิวเจอร์ซึ่งเป็นการเรียนทักษะเพิ่มเติมแบบ ใช้เป็นใบเบิกทางในการหางานใหม่ในการเปลี่ยนสายงานแล้วก็สามารถที่จะยกระดับรายได้

นโยบายการศึกษาเท่าเทียมพลัสที่ 3 คือ learning Passport หรือ ธนาคารหน่วยกิต เป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้เด็กไทยได้เรียนรู้ในหลากหลายสาขาวิชาแบบไม่ถูกตีกรอบโดยนโยบายนี้สถาบันการการศึกษาจะนำเนื้อหาวิชาไปใส่ในแพลตฟอร์มออนไลน์เมื่อคุณสอบผ่านคุณก็สามารถที่จะสะสมหน่วยกิตเอาไว้ที่ธนาคารหน่วยกิตนี้ เมื่อเก็บหน่วยกิตครบตามที่กระทรวงอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม กำหนดก็จะมีการออกวุฒิการศึกษา

นางสาวซาบีดา ยังแถลงถึงนโยบายสูงวัยพลัส พรรคภูมิใจไทยตระหนักถึงความสำคัญต่อการรับมือกับสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ จึงขอเสนอนโยบายสูงวัยพลัส

1.มาตรการและการจ้างงานผู้สูงอายุในภาคเอกชนสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ถึงสองเท่าสูงสุด 30,000 บาทตามอัตราที่จ้างจริง ซึ่งนอกจากบริษัทเอกชนจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้วยังจะนำมาซึ่งการจ้างงานผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

2.มาตรการสำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปรายได้ไม่เกิน 1,500,000 บาทต่อปี พรรคภูมิใจไทยจะผลักดันให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้รับสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีสูงสุด 50% ซึ่งมาตรการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุจำนวนมากเนื่องจากข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติได้มีการบ่งชี้ว่าผู้สูงอายุ2ใน3 ของประเทศไม่มีเงินเก็บไม่มีเงินออกซึ่งมาตรการการลดหย่อนภาษีนี้จะเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและทำให้ผู้สูงอายุมีเงินออมมากขึ้นสามารถนำเงินเหล่านี้ไปใช้จ่ายในด้านอื่นๆ ที่มีความจำเป็นมากยิ่งขึ้น

3.นอกจากนี้พรรคภูมิใจไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการดูแลผู้สูงอายุและหญิงตั้งครรภ์ภายใต้มาตรการสูงวัยพลัสหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งพยาบาลอาสาซึ่งจะเป็นมาตรการจ้างผู้ที่จบการศึกษาไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ วิทยาศาสตร์การกีฬา ด้านพยาบาลหรือวุฒิอื่นๆที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้สูงอายุและหญิงตั้งครรภ์ได้ซึ่งจะมีจำนวนอัตรา 100,000 อัตรา กำหนดค่าตอบแทนเดือนละ 15,000 บาทสัญญาจ้างขั้นต่ำ4 ปี โดยพยาบาลอาสานั้นจะเป็นกลไกในการดูแลผู้สูงอายุที่ติดเตียงและติดบ้านรวมทั้งหญิงตั้งครรภ์โดยการทำงานเชิงรุกแบบเคาะประตูบ้านทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ

4.มาตรการสุดท้ายเป็นการดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอย่างครบวงจร พรรคภูมิใจไทยมีความมุ่งมั่นที่จะดึงศักยภาพของภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศให้มีส่วนร่วมในการสร้างระบบนิเวศในการดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจรมาตรการนี้คือการสร้างศูนย์ดูแลผู้สูงอายุให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อให้เพียงพอต่อการรองรับแล้วก็ดูแลผู้สูงอายุที่มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พรรคภูมิใจไทยจะจึงเอาศักยภาพที่รัฐมีการนำที่ดินที่รัฐถือครองทุกประเภทเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนที่มีความสุขสนใจมาลงทุนสร้างศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจรในระยะยาว มาตรการนี้นอกจากจะช่วยลดต้นทุนให้ภาคเอกชนแล้วก็ยังส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้สูงอายุนั้นลดลงอีกด้วย ถือว่าเป็นการส่งเสริมการลงทุนและก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น เชื่อมั่นว่านโยบายทั้ง 4 มาตรการนี้จะทำให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทำงานได้เพิ่มขึ้นและยิ้มได้มากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

นางสาวซาบีดา ยังกล่าวถึงนโยบายหนึ่งอำเภอหนึ่งศูนย์บำบัดยาเสพติดท่านหัวหน้าพรรคได้พูดถึงการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดซึ่งหมายถึงว่าการสร้างรั้วเพื่อป้องกันการลักลอบยาเสพติดเข้าสู่ประเทศส่วน ภายในประเทศเราก็ต้องมีมาตรการการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ที่ติดยาเสพติดเราจะไม่เรียกเขาว่าผู้เสพแต่เราจะเรียกเขาว่าผู้ป่วย ดังนั้นพรรคภูมิใจไทยจึงมีนโยบายในการตั้งศูนย์หนึ่งอำเภอหนึ่งศูนย์บำบัดยาเสพติดเพราะการบำบัดไม่ควรอยู่ใกล้บ้านพรรคภูมิใจไทยเรารู้ดีว่าปัญหายาเสพติดไม่ใช่เรื่องตัวต้องเจ็บต้องทนต้องแก้กันลำพังมานานแต่วันนี้พรรคภูมิใจไทยจะไม่ปล่อยให้พี่น้องประชาชนต้องสู้เพียงลำพังอีกต่อไป เราจึงเสนอนโยบายนี้เพื่อที่จะนำการรักษาไปไว้ใกล้บ้านให้คนที่พลาดได้กลับคืนสู่ครอบครัว ได้กลับคืนสู่สังคมทำให้เขามีความรักและมีความหวังอีกครั้ง

นางสาวซาบีดากล่าวทิ้งท้ายว่า นโยบายที่ได้พูดมาทั้งหมดนี้นะคะไม่ใช่แค่นโยบายหาเสียงแต่เป็นนโยบายที่พูดแล้วทำ พลัส เป็นนโยบายที่จะนำพาประเทศไปสู่อนาคตที่สดใสและมีความยั่งยืนต่อไป

Advertisement

แชร์
พรรคภูมิใจไทย โชว์วิสัยทัศน์ด้านสังคม"ซาบีดา"มุ่งแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำ"