
(22 ธ.ค. 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับ นายเติ้ง ซีจวิน ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศจีน และนายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อหารือถึงสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค โดยใช้เวลาในการนานกว่า 1.30 นาที
โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินมาส่งเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และทูตพิเศษจีน ที่ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนคณะผู้แทนจีนจะเดินทางกลับ ท่ามกลางการจับตาจากทั่วโลกถึงการขยับของจีน ที่ส่งตัวแทนเดินทางเยือนกัมพูชาและจีนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายยุติสถานการณ์โดยเร็วที่สุด
ต่อมาเวลา 13.45 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับ นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และนายเติ้ง ซีจวิน ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศจีน ถึงกรณีสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตนได้หารือในเรื่องของความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งทูตพิเศษของจีนเขาก็ไปคุยกับทางฝ่ายกัมพูชามาแล้ว ก่อนมาพบกับทางเรา ในรายละเอียดด้วยความที่จีนดำรงสถานะเป็นประเทศที่เป็นกลาง จึงไม่อยากเห็นความขัดแย้งในภูมิภาคนี้
เมื่อถามว่าเบื้องต้นทางเราได้มีการตอบตกลงอะไรหรือไม่ นายอนุทิน เขาไม่ได้บอกให้เราตกลงหรืออะไร แค่อยากให้มีการสร้างสันติภาพ ซึ่งไทยเราก็มีจุดยืนชัดเจนอยู่แล้วว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยความต้องการและเงื่อนไขของประเทศไทยว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ทราบอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงเนื้อหารายละเอียดที่คุยกัน นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องขอไว้เป็นเรื่องที่เราไม่ควรนำมาเปิดเผย เพราะเป็นเรื่องการพูดคุยกันระหว่างตัวแทนของรัฐบาล แต่ก็เป็นเรื่องที่เรารับทราบสถานะและเราก็มีจุดยืน มีแนวทางที่เรากำลังดำเนินการอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ได้ผิดแปลกอะไร และไม่ได้มีอะไรที่เป็นเซอร์ไพรส์
เมื่อถามว่าอยากสื่อสารอะไรให้ประชาชนที่เป็นห่วงถึงสถานการณ์การสู้รบ นายอนุทิน ระบุว่า ทางกองทัพไทยก็ทำการปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างสุดความสามารถ ทุ่มเทเสียสละ เป้าหมายที่ทางกองทัพไทยได้คาดการณ์ไว้ ได้วางแผน วางปฏิบัติการไว้ เรามีต้นทุนที่เราเสียไป แต่เป้าหมายก็ยังคงอยู่ ก็ขอให้ประชาชนเป็นกำลังใจให้กับนักรบแนวหน้าของเรา ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทเสียสละ ไม่มีความเกรงกลัวภยันอันตรายใดๆ ตนขอให้คำยืนยันว่าตนลงพื้นที่ชายแดนหลายครั้ง และยังเห็นประชาชนในแถบนั้นให้กำลังใจกับบรรดาทหาร เจ้าหน้าที่ ที่ปกป้องแผ่นดินของเราอยู่ นอกจากนี้ยังให้ความร่วมมือในการที่จะร่วมกันมาอยู่ในสถานที่พักพิงที่เราจัดไว้ เพื่อความปลอดภัยของพวกเขา ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารสามารถปฏิบัติการได้โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
เมืออถามถึงเรื่องการพูดคุยที่เวทีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ ในวันนี้จะมีเรื่องการเจรจาด้วยหรือเปล่า นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกำลังประชุมอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย โดยคืนนี้จะเดินทางกลับมา ตนก็ขอรับฟังรายงานจากก่อน
ส่วนแนวทางจากเจ้าหน้าที่ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้บอกว่าให้ยืนยันจุดยืนอย่างไรบ้าง นายอนุทิน เผยว่า ยืนยันว่าปัญหาของไทย-กัมพูชา เป็นปัญหาทวิภาคี
เมื่อถามถึงกรณีที่มีประชาชนส่วนมากต้องการกลับไปที่บ้าน จะทำอย่างไรให้เขารู้สึกว่าเขายังคงต้องอยู่ที่ศูนย์อพยพ และทำให้เขาเชื่อมั่น นายอนุทิน ระบุว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รัฐมนตรี และใครก็ตามที่ลงไปในพื้นที่ ก็ไปให้ขวัญกำลังใจและไปทำให้ประชาชนเหล่านั้นได้รับทราบ ว่าการอยู่ที่นี่คือสิ่งที่ปลอดภัยสูงสุดสำหรับเขาและครอบครัว และที่สำคัญที่สุดทำให้ความกังวลของผู้ที่ปกป้องอธิปไตยของเรา ปกป้องแผ่นดินของเราอยู่ ไม่ต้องมีความกังวลเกี่ยวกับครอบครัวของเขา และให้เหตุให้ผลทุกอย่าง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ได้ปล่อยให้เหตุการณ์เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทางกองทัพก็ทราบดีว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรให้สถานการณ์กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
เมื่อถามว่าอาสาสมัครกับ ชรบ. เราจะดูแลเขาและเยียวยาอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ในเรื่องของการเยียวยาเราเยียวยาอยู่แล้ว ที่ผ่านมาในรอบที่แล้วเราก็เยียวยาพี่น้องประชาชนซึ่งไม่ใช่ประเด็น อย่างไรก็ต้องเยียวยา เรื่องนี้รัฐบาลพร้อมที่จะเสนอการใช้งบกลางในส่วนนี้ให้กับ กกต. ได้พิจารณา มั่นใจว่า กกต.เข้าใจถึงสภาพควาทเป็นอยู่
เมื่อถามอีกว่าในขณะที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง แต่สถานการณ์ชายแดนยังไม่จบ ในเรื่องการหาเสียงผู้สมัครแต่ละพรรคเป็นอุปสรรคอย่างไรบ้างในพื้นที่ 7 จังหวัด นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าผู้สมัครแต่ละคนเขาก็มีความพร้อมในพื้นที่ของพวกเขาอยู่แล้ว เรื่องสถานการณ์ชายแดนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การกำหนดวันเลือกตั้งก็เป็นอำนาจของ กกต.และเป็นเรื่องที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญด้วย เพราะฉะนั้นในขณะนี้เราก็ทำตามบทบัญญัติ ส่วนสถานการณ์ในอนาคตจะเป็นอย่างไรเราก็ต้องพยายามทำให้ข้อพิพาท และการดำเนินการเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างประเทศให้มีข้อสรุปโดยเร็ว
เมื่อถามต่อว่าหากถึงเวลานั้นความขัดแย้งยังมีปัญหาอยู่ ทางรัฐบาลกับ กกต.ต้องมาคุยกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องคุยกันอยู่แล้ว รัฐบาลให้ความร่วมมือกับ กกต.ในทุกกรณีอยู่แล้ว
Advertisement