
เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 14 ธ.ค. ที่ จ.บุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมด้วย พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านในศูนย์อพยพ โดยเมื่อเดินทางถึงมีประชาชนเข้ามาทักทายและสวมกอดนายอนุทิน
จากนั้นนายอนุทิน ได้เดินมาที่เต็นท์โซนโรงครัวของศูนย์อพยพ โดยได้ทำหอยทอดทะเลให้กับผู้อพยพในศูนย์ รวมถึงได้ตำส้มตำปลาร้าอีกด้วย
นอกจากนี้ นายอนุทินยังได้เดินไปยังเต็นท์ปฐมพยาบาล ทักทายพูดคุยกับทีมแพทย์ เดินชมร้านอาหารฟู๊ดทรัคที่มาบริการประชาชน ซึ่งระหว่างเดินทักทายประชาชน ได้เดินมาที่จุดพักผ่อน ซึ่งเป็นจุดที่มีการร้องเพลง
โดยนายอนุทินได้ร่วมร้องเพลง “คนสุดท้าย”ของอัสนี-วสันต์ และเพลง "ซมซาน" ของเสก โลโซ กับนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สร้างรอยยิ้มให้กับชาวบ้านในศูนย์อพยพ โดยนายกฯได้กล่าวภายหลังให้กำลังใจชาวบ้าน ว่าให้คนเข้ามาการันตีเรื่องความปลอดภัย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้นายกฯไม่ได้แจ้งกำหนดการให้สื่อมวลชนได้ทราบ แต่มีการไลฟ์สดการลงพื้นที่ผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งปรากฎว่ามีชาวกัมพูชาเข้ามาคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการดูแลผู้อพยพในศูนย์พักพิง ว่าเที่ยวนี้การบริหารจัดการศูนย์พักพิงดีมาก เพราะเราเคยปฏิบัติการในการดูแลพี่น้องประชาชนมาแล้ว ฉะนั้นสามารถการันตีเรื่องความปลอดภัยได้ ขณะเดียวกันเรื่องดังกล่าวก็จะทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจในพื้นที่สามารถตอบโต้และปกป้องอธิปไตยของเราได้อย่างเต็มที่
พร้อมย้ำว่า ตนทราบดีว่าทุกคนคิดถึงบ้านของตนเองกันหมด แต่ถ้าให้เลือกว่าอยากจะกลับบ้านหรือไม่ ทุกคนอยากกลับบ้านหมด ดังนั้นเราก็ต้องพยายามอธิบายให้เข้าใจว่าการอยู่ในศูนย์อพยพนี้จะมีความปลอดภัยสูงสุด โดยเราจะระดมอาหารการกิน เครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ประจำวันมาที่นี่ เพื่อให้เขารู้สึกว่าการอยู่ที่นี่ไม่ได้ห่างบ้านมา อีกทั้งยังมีจิตอาสามากมาย ที่ต้องชื่นชมสรรเสริญ มีเอกชน ห้างร้าน บริษัทต่างๆ นำของใช้มาให้ ซึ่งเราก็พยายามที่จะมีมาตรการดูแลในทุกศูนย์พักพิง และใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้จังหวัดมีงบประมาณในการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนได้มีการพูดคุยกับหลายๆคน ว่าให้มีความอดทนอดกลั้น เพราะการเข้าไปในพื้นที่นั้น ยังอันตราย จึงขอให้อยู่จนกว่ารัฐบาลจะมั่นใจได้ว่า ในพื้นที่มีความปลอดภัยแล้ว จากนั้นเราก็จะให้ประชาชนได้กลับเข้าพื้นที่ แต่หากสถานการณ์ยังอันตรายอยู่ ขอให้อยู่ที่ศูนย์พักพิงจะดีกว่า
Advertisement