นายกฯ อนุทิน พร้อมคุย “ทรัมป์” แต่ยันเป็นเรื่องคู่กรณี 2 ประเทศ
"อนุทิน" พร้อมคุย "ทรัมป์" หากต่อสายโทรหา ย้ำระดับผู้นำคุยกันต้องผ่านกต.แต่ยันเป็นเรื่องคู่กรณี 2 ประเทศ ปัดตอบ จบก่อนปีใหม่หรือไม่
วันที่10 ธันวาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะต่อสายพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา ว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้การประสาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามย้ำว่าแบบนี้ เหมือนว่าประธานาธิบดีทรัมป์ พูดไปฝ่ายเดียวหรือไม่นั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติเวลาจะมีการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำจะเป็นมีการนัดกัน ส่วนจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้นัดหมายหรือไม่นั้น นายอนุทิน ยืนยันว่าปกติจะมีช่องทางอยู่
เมื่อถามว่าหากมีการติดต่อแล้วมีการเจรจาเราจะยอมพูดคุยหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า การโทรศัพท์มาพูดคุยระหว่างผู้นำประเทศ ระดับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โทรมาเราก็ต้องรับสาย และพูดคุย ซึ่งเราก็ต้องอธิบายให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เข้าใจ เพราะประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่มีทางที่จะรับทราบข้อมูลหรือรายละเอียดสถานการณ์มากกว่าตัวของตน ซึ่งก็ต้องอธิบายให้ฟัง
เมื่อถามว่าประธานาธิบดีทรัมป์ โทรหานายกรัฐมนตรีของไทยแล้วจะให้ทุกอย่างจบตอนนี้ไม่ได้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มันคนละเรื่องกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างคู่กรณี 2 ประเทศ แต่ความปรารถนาดีของผู้นำประเทศอื่นๆ ที่ต้องการเห็นการเกิดสันติภาพ แต่ก็ต้องอธิบายว่ามันมีปัญหาอะไร แล้วทำไมมันต้องเป็นเช่นนี้ ถ้าเกิดว่ามีการนัดกัน ไม่ใช่ระดับผู้นำคุยกันอยากจะโทรก็กดโทร ซึ่งต้องมีการนัดกัน และมีประเด็น เพราะฉะนั้นเรายังมีเวลาที่จะเตรียมประเด็นต่างๆ และการพูดคุยกันจะต้องเกิดขึ้น ซึ่งต้องเชิญ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและถ้าจำเป็นต้องเชิญผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซึ่งการทำทุกอย่างต้องตรงไปตรงมา
เมื่อถามว่านอกจากสหรัฐฯมีประเทศอื่นเช่น จีน ติดต่อเข้ามาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่มี โดยการติดต่อจะต้องเป็นการติดต่อผ่านช่องทางทางการทูต ซึ่งเมื่อมีการติดต่อเรียบร้อยแล้วกระทรวงการต่างประเทศจึงจะแจ้ง แจ้งให้นายกฯรัฐมนตรี ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่าบทเรียนที่ผ่านมาที่มีภาพการไปลงนามเอ็มโอยูของรัฐบาลที่แล้ว จะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มันไม่ใช่บทเรียน มันเป็นสิ่งที่เราอยากจะทำ เพื่อให้เกิดสันติภาพในภูมิภาคนี้ และเราก็มีเงื่อนไขที่จะต้องปฏิบัติกันทั้งสองฝ่ายแต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ปฏิบัติแต่ฝ่ายเราปฏิบัติครบ เพราะฉะนั้นเวลาเราอธิบายกับใครมันง่าย เพราะเราปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกอย่าง เราไม่มีผิดแม้แต่ข้อเดียว ตอนนั้นจะแถมเรื่องปล่อยเชลยศึกด้วย อย่างเชลยศึกจะขอทำฟัน ตนยังอนุมัติให้ทำฟันเลย ทั้งอยากให้ทำเกินด้วย
เมื่อถามว่าหากประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องการ ให้เรากลับไปสู่จุดที่เจรจา นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ประธานาธิบดี ต้องฟังคำอธิบายคำชี้แจง เรื่องสถานการณ์จากตนก่อน
เมื่อถามย้ำว่า นายกรัฐมนตรี ให้ทหารดำเนินการตัดสินใจหลายๆ อย่างใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในเรื่องของการรบต้องเป็นเรื่องของทหาร โดยตนได้ยกตัวอย่าง อาจารย์ท่านหนึ่งที่ออกมาท้วงติงว่าเรื่องการรบ นายกฯโยนให้ทหาร ซึ่งตนก็ยืนยันว่าไม่ได้โยน แต่เป็นการมอบหมาย พร้อมบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาที่คนไทยทุกคนควรจะให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
เมื่อถามว่าการจะไปเจรจาอะไรก็ตามเราต้องดูทหารเป็นหลักใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี บอกว่าเราต้องดูสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้น ตอนนี้มีการสู้รบกันขนาดนี้ ซึ่งการสู้รบเกิดมาจากประเทศกัมพูชา โจมตีประเทศไทย ทำร้ายทหารไทยก่อน ไม่ปฏิบัติตาม Joint Declaration
เมื่อถามว่าตอนนี้ประเทศไทยจะหยุดที่จุดไหน จะสู้รบกันไปแบบไม่มีจุดสิ้นสุด จะเอาชนะกันไปข้างหนึ่งหรือไม่ นายกรัฐมนตรี บอกว่าเรื่องนี้บอกไม่ได้ เป็นเรื่องของความมั่นคง ไม่สามารถให้ความเห็นใดๆได้ เรารักษาอธิปไตยของประเทศเรา รักษาดินแดนของประเทศ รักษาประชาชนของเรา เรามีเป้าหมายของเรา ส่วนจะจบก่อนปีใหม่หรือไม่บอกไม่ได้
Advertisement
