
(9 ธ.ค. 2568) เวลา 09.30 น. ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดการปะทะอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ส่งผลให้ชุมชนพื้นที่ชายแดนต้องเฝ้าระวังสูงสุด โรงเรียนจำนวนมากได้รับผลกระทบโดยตรง ต้องหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรในสังกัด โดยข้อมูลล่าสุดพบว่า สถานศึกษาที่สั่งปิดเรียนชั่วคราวมีทั้งสิ้น 990 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สระแก้ว อุบลราชธานี และตราด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ใกล้แนวปะทะและเสี่ยงต่อสถานการณ์ความไม่สงบ
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ตนได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดต่างๆ เปิดโรงเรียนเป็นศูนย์พักพิงให้แก่บุคลากรทางการศึกษา รวมถึงเด็กนักเรียนและประชาชนในพื้นที่แล้วรวม 22 แห่ง สามารถรองรับประชาชนได้สูงสุด 14,280 คน ซึ่งทุกศูนย์มีการเตรียมพร้อมเครื่องนอน อาหาร น้ำดื่ม ระบบไฟฟ้า ห้องสุขา และพื้นที่ดูแลเด็กเล็กอย่างเต็มที่
ศ.ดร.นฤมล กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงศึกษาธิการได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่บูรณาการร่วมกับฝ่ายความมั่นคง อปท. และภาคีเครือข่ายในทุกระดับ เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพนักเรียนและครูอย่างใกล้ชิด รวมถึง ศธ.ได้เตรียมระดมทรัพยากรไปสนับสนุนโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยง ทั้งอาหาร เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ฉุกเฉิน ตลอดจนทีมดูแลด้านจิตใจให้เด็กและครู เพื่อบรรเทาความเครียดจากสถานการณ์ และสร้างความมั่นคงด้านสวัสดิภาพในระยะยาว
"ดิฉันขอขอบคุณครู-อาจารย์ และบุคลากรการศึกษาทุกท่าน ที่ยังคงทำหน้าที่ดูแลนักเรียนและประชาชนในศูนย์พักพิง แม้ในสถานการณ์ยากลำบาก ก็ยังคงยืนหยัดเพื่อเด็กๆ ขอให้ทุกคนรักษาความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เราจะสนับสนุนทุกด้านอย่างเต็มที่ และขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่กำลังปฏิบัติหน้าที่แนวหน้าเพื่อความปลอดภัยของประชาชน" ศ.ดร.นฤมล กล่าว
เมื่อถามว่า ทางโรงเรียนต้องประเมินสถานการณ์ด้วยหรือไม่ว่าจะปิดกี่วัน ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า ต้องฟังความเห็นของฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ด้วย ซึ่งมีการประชุมกันอยู่ตลอดกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และทางอาชีวะเองก็เข้าไปช่วย ซึ่งเดิมเราเอาทีมอาชีวะไปช่วยทางภาคใต้ แต่ขณะนี้เหตุการณ์เริ่มดีขึ้นแล้ว เราจึงขนทีมไปทางจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อตั้งครัวอาชีวะคอยดูแลประชาชนที่อยู่ในศูนย์อพยพ
นางนฤมล ยังกล่าวเรียนการสอนช่วงที่โรงเรียนปิด ว่ามีแผนชดเชยอยู่แล้วทั้งการสอนที่เป็นใบงานแบบฝึกหัด (On Hand) กับการเรียนการสอนแบบทั่วไป (On Site) แต่ถ้าทำไม่ได้ก็จะเปลี่ยนเป็นเรียนระบบออนไลน์
เมื่อถามว่าแนวทางการเรียนระบบออนไลน์จะเป็นลักษณะเรียนรวมหรือไม่นั้น ศ.ดร.นฤมล ระบุว่า แต่ละโรงเรียนมีแพลตฟอร์มที่เตรียมไว้อยู่แล้ว อีกทั้ง สพฐ. ได้เตรียมจัดถุงการเรียนรู้เอาไปให้เด็กๆ ในศูนย์พักพิงเพื่อไม่ให้ตกหล่นเรื่องของการเรียนด้วย
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการตั้งแต่เดือนที่ผ่านมาให้ สพฐ. เตรียมความพร้อมไว้ ซึ่งขณะนี้ก็ได้ทำตามแผนแล้ว
Advertisement