
นายพายุ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพว่า ในอีกไม่กี่วันครั้งหน้าจะมีพิธีเปิดซีเกมส์ ที่ประเทศไทยได้เกียรติเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง หลังไม่ได้เป็นเจ้าภาพมายาวนานกว่า 18 ปี ซึ่งเท่ากับว่า เยาวชนรุ่นปัจจุบันยังไม่เคยรับชมการแข่งขันซีเกมส์ในประเทศไทย โดยแทนที่จะใช้โอกาสนี้ในการสร้างความภาคภูมิใจ และแรงบันดาลใจหลาย ๆ ด้าน การบริหารจัดการของรัฐบาลปัจจุบัน ที่ได้รับไม้ต่อจากรัฐบาลเพื่อไทย ซึ่งรัฐมนตรีคนปัจจุบันกับลื้อทุกอย่างที่รัฐบาลเพื่อไทยเตรียมการไว้ สำหรับงานนี้ และเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุผลบางอย่าง
นายพายุ กล่าวอีกว่า จากที่สังคมได้เห็นตามดรามาต่างๆ โซเชียลมีเดีย เช่น ไฟสนามที่ไม่พร้อม, ความผิดพลาดระบบตั๋วที่นั่ง, อุปกรณ์ที่ไม่ได้รับมาตรฐาน, การว่าจ้างที่ไม่สมราคา และความไม่ชัดเจนในเรื่องของโลโก้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้พิสูจน์ได้ว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น ไม่ได้ทำให้งานดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย แต่กลับสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่ล้มเหลว ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ว่า งานระดับชาติเช่นนี้ จะมีความบกพร่อง หรือการจัดการที่ตกหล่นอยู่บ้าง ก่อนที่จะถึงวันจริง แต่ที่เราได้เห็นไม่ได้เกิดจากเหตุสุดวิสัย แต่เกิดจากความสะเพร่า และการบริหารจัดการของผู้จัด
โดยสิ่งเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ทั้งสิ้น หากเรานำบุคลากรที่มีความเป็นมืออาชีพเข้ามาจัดการตั้งแต่ต้น แต่พวกท่านกลับไม่ทำด้วยเหตุผลบางอย่าง จนงานซีเกมส์ที่ต้องแสดงศักยภาพด้วยทรัพยากรที่มีคุณภาพของประเทศไทย เพื่อจะได้เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศชาติ กลายเป็นงานหยาบที่ทำให้เราดูเป็นตัวตลกของภูมิภาค เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่พวกท่านต้องให้ความสำคัญกับการแก้ไข มากกว่าการแก้ตัว และในประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ แม้พวกท่านอาจจะพยายามแก้ตัว ลดทอนความผิดพลาด และมองปัญหาต่างๆ เหมือนกับเป็นเรื่องเล็กๆ เช่น ความล้มเหลวในการบริหารจัดการเรื่องอื่นภายในประเทศของรัฐบาลนี้ แต่ครั้งนี้ชาวโลกจะได้เห็นร่วมกันด้วย และเชื่ออีกว่า กว่าจะถึงพิธีปิดซีเกมส์ เราเห็นความผิดพลาดที่เราเอาใบบัวกี่ใบปิดก็ไม่มิด
นายพายุ ย้ำว่า ซีเกมส์ครั้งนี้คือ ของชาติ ไม่ใช่ของรัฐบาลชุดใดชุดหนึ่ง ถ้าจะแก้ไขก็ต้องทำ ไม่ใช่รอหลังพิธีปิด แล้วรอโทษใคร หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะจากนี้ไปโลกจะจับตามองว่า ไทยจะสามารถพลิกสถานการณ์ หรือจะกลายเป็นตัวเจ้าภาพตัวตลกสายชุ่ยของภูมิภาคจริงๆ
ส่วนกรณีการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อออกแบบโลโก้ Ai พบว่า ลงวันที่ 7 ธันวาคม ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อเช้าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ก็บอกว่า เพิ่งเข้ามาได้แค่ 2 เดือน ต้องมาแก้ไขปัญหาที่หมักหมมมานาน นายพายุ กล่าวว่า การที่จะมาโยงว่า อยู่ในสมัยของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ก็ต้องมาดูว่า ใครเป็นคนที่เซ็นตรงนั้น และการจะบอกแค่ช่วงระยะเวลาอย่างเดียวจะเป็นอะไรที่กว้างเกินไป เพราะว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงก็คือ การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เท่าที่เห็น ไม่ใช่แค่กระดาษใบเดียวที่เซ็นจัดจ้างวันนั้น แต่ต้องดูในภาพใหญ่ที่เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐมนตรีคนใหม่เข้ามาทำงานแล้ว ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังได้รับเหตุผลว่า เหตุใดถึงเปลี่ยนบุคคลที่รับผิดชอบดูแลมาตั้งแต่ต้น แต่กลับเข้ามาเปลี่ยนช่วงโค้งสุดท้าย
ด้านนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะต่อให้มีการเซ็นจัดซื้อจัดจ้างในช่วงรัฐบาลเดิม แต่พรรคที่กำกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในเวลานี้ต้องเป็นคนที่ใส่ใจดูในรายละเอียด เพราะการบริหารจัดการสัญญาเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต่อไปที่ต้องเข้ามาจัดงานให้มีประสิทธิภาพ ทั้งการเตรียมงานซีเกมส์ได้มีการเตรียมมาหลายปี จนเกือบจะพร้อม แต่สุดท้ายคนที่เข้ามาจัดการในตอนนี้คือ คนที่ต้องรับผิดชอบจริงๆ ที่ล้มเหลวเช่นนี้
เมื่อถามว่า งบฯ เต็มในการจัดแข่งขันซีเกมส์จำนวน 2 พันกว่าล้านบาท แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวฯ คนปัจจุบันบอกว่า เพิ่งได้รับอนุมัติเงินมา 450 ล้านบาท จึงทำให้การจ่ายเงินล่าช้า ทำให้ตั้งข้อสังเกตถึงรัฐบาลเดิมว่า ได้มีการอนุมัติงบฯ มาก่อนหรือไม่ นายศึกษิษฏ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประจำนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ที่กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยืนยันว่า มีการเตรียมงบประมาณไว้แล้วอย่างเพียงพอ ซึ่งเดิมทีตั้งใจว่า จะจัดที่สนามหลวงด้วยซ้ำ แต่เพื่อความปลอดภัย จึงย้ายมาใช้ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน แต่ขอยืนยันว่า เรื่องการเตรียมการได้มีการเตรียมมานานแล้ว แต่พอไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะไปใส่ใจดูในรายละเอียดว่า
สุดท้ายการนำงบประมาณไปใช้ตามแผนเป็นอย่างไร ซึ่งมันล้มเหลวตรงนี้ที่เราทำแผนไว้หมดแล้ว เตรียมงบประมาณไว้หมดแล้ว แต่รัฐบาลปัจจุบันมาบริหารไม่ได้ ซึ่งมีตั้งแต่ค่าเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา ที่ปัจจุบันก็มีปัญหาอยู่ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเปลี่ยนรัฐบาลกลับมีปัญหา แต่ทั้งนี้ก็เข้าใจว่า หน้างานอาจจะมีการทำงานติดขัด เนื่องจากมีการย้ายสถานที่จากจังหวัดสงขลา มาที่กรุงเทพมหานคร และชลบุรี ซึ่งก็เห็นใจรัฐบาล แต่ภาพที่ออกมามันแย่กว่า ซึ่งไม่เกี่ยวกับการย้ายสถานที่จัดจากจังหวัดสงขลา แต่กลับเป็นภาพที่เกิดขึ้นกับป้ายคบเพลิง ที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับการจัดมหกรรมนานาชาติได้
Advertisement