
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 6/2568 ว่า เมื่อน้ำลดสิ่งที่ต้องทำคือการบูรณาการความช่วยเหลือทุกภาคส่วน เพื่อฟื้นฟูชีวิตประชาชนกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งมาตรการช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟู ได้แก่
1.การลดภาระหนี้ สินเชื่อผ่านความร่วมมือของธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันการเงินของรัฐ และสถาบันการเงินภาคเอกชน
-ช่วยเหลือด้วยการพักชำระหนี้เงินต้นยกเว้นดอกเบี้ยไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย เป็นระยะเวลาหนึ่งปี ดอกเบี้ย 0 %
-สินเชื่อ เยียวยา ลูกหนี้เดิมภายใต้วงกู้เดิม กู้ได้ 100,000 บาท ดอกเบี้ยต่ำ 0% 1 ปี
-สินเชื่อฟื้นฟู ดอกเบี้ยต่ำ 0% หนึ่งปี ไม่เกิน 1 ล้านบาท
-เอสเอ็มอี ผู้ประกอบการจะมีซอฟต์โรน เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ มีบสย.ค้ำประกันเพื่อประกอบธุรกิจได้
2.การเพิ่มเงินในกระเป๋าส่งเงินให้ประชาชนได้มีเงินในกระเป๋า
-เยียวยา 9,000 บาทพรุ่งนี้ จะมีงบกลางเข้าที่ประชุมครม.หลังเข้าครม. ก็จะเบิกจ่ายโดยเร็ว
-ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขยายเงินทดลองเพื่อนำมาใช้จ่ายต่าง ๆ จำนวน 100 ล้านบาท เพื่อช่วยประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่ ทั้งการจัดครัวจัดอาหารให้กับประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว
-ประกัน สินทรัพย์ที่เสียหาย คปภ.จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามการเสียหายที่เกิดขึ้นจริงไม่เกิน 20,000 บาท ร้านค้าต่าง ๆ ผู้มีประกัน 30,000 บาท ส่วนรถยนต์เคลมเร็ว โดยให้ถ่ายรูปรถยนต์ให้เห็นทะเบียน ระดับน้ำ เพื่อให้เคลมรถยนต์ได้ทันที
-กระทรวงแรงงานได้มีการพบกับผู้ประกอบการโดยการจะช่วยเหลือแรงงานที่ไม่มีรายได้ เงินนำส่งประกันสังคมขอให้ขยายตัวเวลาเงินนำส่งประกันสังคมทั้งหมด
-ลูกจ้างจะจ่ายทดแทนกรณีว่างงาน ร้อยละ 50 ของค่าจ้างเป็นเวลา 180 วัน
-สินเชื่อ เพื่อการจ้างงานให้กับผู้ประกอบการ ลูกจ้างไม่เกิน 200 คนกู้ได้ไม่เกิน 15 ล้านบาท
3.ลดภาระค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะสินค้าราคาถูก ธงฟ้าเยียวยา
-ขยายเวลาชำระภาษีทั้งหมด ผู้ประกอบการขอให้ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
-ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับซ่อมแซมทรัพย์สินตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 100,000 บาท
-ลดหย่อนภาษีซ่อมแซมรถตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท
-สำหรับผู้ประกอบการมีค่าใช้จ่ายซ่อมแซมทรัพย์สิน 2 เท่า
-ผู้บริจาคช่วยผู้ประสบภัยสามารถลดหย่อนภาษีได้
-ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะทำรายการธงฟ้า
และ 4.ทำให้พื้นที่ประสบภัยฟื้นฟูกลับมาเข้มแข็ง
ขณะเดียวกัน นายเอกนิติ ระบุอีกว่า นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการถอดบทเรียน โดยจะให้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการถอดบทเรียน ทั้งการแก้ปัญหาระยะสั้นระยะยาว และการเตรียมความพร้อม ให้กระทรวงการต่างประเทศจะขอความช่วยเหลือจากประเทศญี่ปุ่น ที่ประสบปัญหาภัยพิบัติ เพื่อมาวางระบบที่จะดูแลผู้ประสบภัยหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก จะสามารถนำบทเรียนนี้มาแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น ระยะยาว ไม่ให้เกิดแบบปัญหาเดิม
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังมอบหมายให้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยการจัดสัมมนา พื้นที่น้ำท่วม หลังฟื้นฟู โดยให้หน่วยราชการต่าง ๆ จัดสัมมนาเพื่อให้กระตุ้นการท่องเที่ยว
ด้าน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ จะดำเนินกาาร 3 ระยะการ โดยระยะแรกทำทันที ทำไปแล้ว และยังทำอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน คือการส่งสินค้าอุปโภค บริโภค โดยเฉพาะพวกวัตถุดิบอาหาร เช่น ไข่ไก่ ข้าวสาร อาหารต่างๆ ลงไปเป็นวัตถุดิบที่โรงครัว ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นเพราะทุกคนต้องได้รับการดูแลในเรื่องอาหารทันที และมีการส่งเข้าไปต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับทางเอกชน และห้างต่างๆ ให้ช่วยกันลงไป และมีการส่งเงินลงไปช่วยตรงนั้นด้วย นี่คือการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนนอกเหนือจากการควบคุมราคาสินค้าให้ไม่แพงเกินไป และไม่ให้มีการกักตุนสินค้า สามารถมีสินค้าที่เพียงพอในการใช้งานในพื้นที่
ระยะที่ 2 เป็นช่วงที่เรากำลังเริ่มทำอยู่ขนานกันไปกับการเยียวยา โดยดูว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการซ่อมแซมบ้าน ยานพาหนะ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับไฟฟ้า ที่จะต้องใช้งาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์จำเป็น ก็มีการประสานกับทางห้างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กซี โลตัส แม็คโคร รวมไปถึงห้างเฉพาะกิจ อย่างเช่น โฮมโปร เมกะโฮม ไทวัสดุ เมกะเฮ้าส์ ซึ่งจะร่วมลดราคาสูงสุด 80% เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินค้าเหล่านี้ ไม่ขาดแคน มีอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นสำคัญ เช่น เบรคเกอร์ สายไฟ หรือหัวเทียน และมีการร่วมมือกับทาง SCG ในการนำเอาอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน และช่างต่างๆ เข้าไปในพื้นที่ที่จะช่วยให้ได้
ระยะที่ 3 คือ มหกรรมธงฟ้า ซึ่งจะเป็นลักษณะพิเศษ โดยจะเน้นในเรื่องอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นสำคัญ นอกจากสิ่งอุปโภคบริโภคแล้ว จะมีการจัดจุดเคลื่อนที่เพื่อความสะดวกของประชาชน อีกทั้งมีการนำผู้ประกอบการที่เป็นลักษณะแฟรนไชส์ ลงไปเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ สร้างอาชีพ โดยที่กระทรวงพาณิชย์จะประสานกับกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยสนับสนุนเงินค่าแฟรนไชส์บางส่วนด้วย
ขณะเดียวกัน ยังมีการเสริมสร้างการหาโอกาสให้เข้าถึงแหล่งทุน โดยที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีการทำงานร่วมกันกับ SME เพื่อให้ผู้ประกอบการเล็ก สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะอำนวยความสะดวกในเรื่องของการขอใบรับรอง การจดทะเบียนบริษัท การขอใบอนุญาตต่างๆ เพื่อความรวดเร็ว โดยจะให้จังหวัดทำงานร่วมกับพาณิชย์ส่วนกลาง ในการให้ความสะดวกสบายกับผู้ประกอบกิจการทั้งหลาย เพื่อฟื้นฟูกิจการกลับมาทำการค้าได้อีก
Advertisement