Logo site Amarintv 34HD
Logo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
รมช.อุตฯ ลั่น รัฐต้องฟังเอกชน "ไม่อย่างนั้นจะเป็นรัฐที่หูหนวกและตาบอด"

รมช.อุตฯ ลั่น รัฐต้องฟังเอกชน "ไม่อย่างนั้นจะเป็นรัฐที่หูหนวกและตาบอด"

25 พ.ย. 68
09:53 น.
แชร์

รมช.อุตฯ รับนโยบายเอกชน ย้ำรัฐต้องฟัง "ข้อมูลต้นน้ำ" สู้ศึกการค้าโลก ลั่นรัฐที่ไม่ฟังคือรัฐที่ "หูหนวกและตาบอด" เร่งยกระดับมาตรฐานสินค้าเป็นโมเดลชาติ 

วันที่ 25 พ.ย. 68 จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม ลงพื้นที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เขตสาทร กรุงเทพฯ เพื่อรับฟังข้อเสนอเชิงนโยบายจากกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ โดยมองว่าเสียงของภาคเอกชนคือ “ข้อมูลต้นน้ำ” ที่จำเป็นต่อการยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้แข่งขันได้จริงในยุคสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงทั่วโลก 

ในการประชุมครั้งนี้ มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมรับฟังอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นางสาวภาดาท์ วรกานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการฯ นายพีรวัส สมวงศ์ เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ และคณะที่ปรึกษา พร้อมด้วยนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมฯ ให้การต้อนรับ

จ่าเอก ยศสิงห์ กล่าวว่า “วันนี้ไม่ใช่วันที่กระทรวงอุตสาหกรรมมามอบนโยบาย แต่เป็นวันที่เรามารับนโยบายจากภาคเอกชน นี่คือสิ่งที่จำเป็นที่สุด หากรัฐไม่ฟังเอกชน ก็เท่ากับรัฐหูหนวกตาบอด ไม่เห็นสนามแข่งขันจริง ไม่เข้าใจต้นทุนที่แท้จริง ไม่รู้ว่าโลกกำลังเคลื่อนไปทางไหน” 

พร้อมระบุว่า บทบาทของกระทรวงฯ วันนี้คือ “แปลงข้อมูลจากเอกชนให้กลายเป็นโมเดลชาติ” เพื่อเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) และเสริมความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจไทยในยุคที่การแข่งขันระหว่างประเทศเปลี่ยนรูปแบบอย่างรวดเร็ว 

ภาคอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมให้ข้อเสนอประกอบด้วย

 • อุตสาหกรรมดิจิทัล

 • อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร

 • อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ

 • คลัสเตอร์วัสดุก่อสร้าง

 • อุตสาหกรรมเหล็ก

 • อุตสาหกรรมแก้วและกระจก 

การแลกเปลี่ยนครั้งนี้ทำให้ภาครัฐเข้าใจปัญหาเชิงลึก ตั้งแต่การพัฒนานวัตกรรม การสร้างงาน การรักษาคุณภาพสินค้า ไปจนถึงการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากสินค้าต่างประเทศราคาต่ำ ซึ่งหลายอุตสาหกรรมชี้ชัดว่า “ไม่อยากให้ใครต้องเจอชะตาเดียวกับอุตสาหกรรมเหล็กไทย” ที่กำลังเผชิญสินค้าคุณภาพต่ำทะลักเข้าสู่ประเทศปริมาณมาก 

รมช.อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า “นี่คือสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ของประเทศ เราต้องทำงานเชิงรุกก่อนที่อุตสาหกรรมอื่นจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน” 

อีกประเด็นสำคัญคือการยกระดับมาตรฐานสินค้าไทย เพื่อปกป้องผู้บริโภคและผู้ประกอบการไทยจากคู่แข่งที่ไม่ยึดหลักคุณภาพ สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมต้องเดินหน้าเชิงรุก ไม่ใช่รอปัญหาเกิดแล้วค่อยแก้ เพราะโลกใบนี้ไม่รอเราอีกต่อไป 

การทำงานร่วมกันแบบรัฐ–เอกชน (Public–Private Partnership) จะถูกผลักดันให้เป็นกลไกหลัก เพื่อให้มาตรฐานไทยกลายเป็นโล่ป้องกันประเทศ และเป็นตัวช่วยยกระดับสินค้าไทยสู่ตลาดโลก

รมช.อุตสาหกรรม กล่าวทิ้งท้ายว่า “วันนี้ประเทศไทยอยู่ในยุคที่เราต้องพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น ไม่ใช่เพราะอยากแยกตัวจากโลก แต่เพราะโลกกำลังแข่งขันดุเดือดกว่าเดิม ทุกภาคส่วนต้องจับมือกัน เพราะนี่ไม่ใช่สมรภูมิของรัฐ หรือสมรภูมิของเอกชน แต่มันคือสมรภูมิของคนไทย ที่จะร่วมกันสร้างอนาคตที่มั่นคงให้ลูกหลานของเรา”

Advertisement

แชร์
รมช.อุตฯ ลั่น รัฐต้องฟังเอกชน "ไม่อย่างนั้นจะเป็นรัฐที่หูหนวกและตาบอด"