Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"พีระพันธุ์" เปิดโปงเขมร เป้าหมายที่แท้จริง ไม่ใช่แค่เขตแดนบนบก

"พีระพันธุ์" เปิดโปงเขมร เป้าหมายที่แท้จริง ไม่ใช่แค่เขตแดนบนบก

13 พ.ย. 68
15:32 น.
แชร์

"พีระพันธุ์" เปิดโปงวาระซ่อนเร้น! เป้าหมายที่แท้จริงเขมรไม่ใช่แค่เขตแดนบนบก จ้องขยับ หลักเขต73 หวังเปลี่ยนเขตแดนทางทะเล ฮุบทรัพยากรพลังงานมหาศาล 

วันที่ 13 พ.ย. 68 นาย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค - Pirapan Salirathavibhaga” เกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา มีใจความว่า 

“เป้าหมายที่แท้จริงของเขมรไม่ใช่แค่เขตแดนบนบก” 

“สถานการณ์ระหว่างไทย-เขมร วันนี้ถูกจดจ่อไปที่ชายแดนบนบกทางภาคอีสาน แต่ความเป็นจริงเขตแดนที่ต้องเป็นห่วง และต้องทวงคืนไปพร้อมๆ กันนอกจากปราสาทตาควายแล้ว คือเขตแดนในทะเลที่พิพาทกันมาตั้งแต่ พ.ศ.2516 ที่อยู่ๆ เขมรก็อ้างการลากเส้นเขตแดนในทะเลตามอำเภอใจไม่สนใจหลักสากล ทำให้เกิดพื้นที่อ้างสิทธิทางทะเลมาจนทุกวันนี้” 

“ผมขอย้ำว่าที่ถูกต้อง ต้องเรียกว่าพื้นที่อ้างสิทธินะครับ ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน เพราะพื้นดินมันมีหนึ่งเดียวมาทับซ้อนกันไม่ได้ แต่เป็นการอ้างสิทธิเหนือพื้นที่เดียวกัน” 

“ผมเชื่อว่าเขาต้องการขยับเส้นเขตแดนบนบกตามแนวชายแดนภาคอีสาน เพื่อให้กระทบไปถึงหลักเขตสุดท้ายก่อนลงทะเล คือ หลักเขตที่ 73 เพราะหากขยับหลักเขตนี้ได้ก็เท่ากับเส้นเขตแดนในทะเลจะเปลี่ยนตาม” 

“เขตแดนทางทะเลตรงนี้มีความสำคัญมาก เพราะไม่ใช่เป็นแค่เขตแดนเท่านั้น แต่หมายถึงทรัพยากรทางพลังงานใต้พื้นทะเลตรงบริเวณนั้นด้วย และน่าจะเป็นเป้าหมายสำคัญต่อไปของเขา เราจึงควรป้องกันและเอาจริงกับเรื่องนี้ได้แล้ว” 

“ข้อพิพาทจากเขตแดนในทะเลนี้ทำให้ไทยเราไม่สามารถพัฒนาหรือนำทรัพยากรทางพลังงานมาใช้ประโยชน์ได้เป็นเวลากว่า 52 ปีแล้ว ทั้งๆ ที่เป็นพื้นที่ของเราเองแท้ๆ” 

“เสียเวลาไปกับความเกเร เพราะเขมรอ้างสิทธิทับซ้อนลากเส้นเขตแดนทางทะเลตามหลักเกณฑ์ของตนเองไม่ใช่หลักสากล” 

“พอมาปี 2540 ก็เกเรเพิ่มขึ้นอีก โดยการถมทะเลให้แผ่นดินต่อยื่นเข้าไปในทะเลอีกหลายร้อยเมตรอ้างว่าเป็นเขื่อนกันคลื่น แต่ตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศอาจใช้เป็นข้ออ้างว่าเป็นเขตต่อเนื่องจากแผ่นดินที่จะมีผลต่อการลากเส้นแบ่งเขตแดนในทะเลเพิ่มขึ้นจากเดิมได้อีก ซึ่งจะกระทบถึงทรัพยากรทางพลังงานของชาติในทะเลยิ่งขึ้นไปอีกเช่นกัน ผมเชื่อแน่ว่าเจตนาที่แท้จริงของเขาคือเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นห่วงคลื่นเป็นห่วงทะเลอะไรหรอกครับ” 

“กองทัพเรือรู้เรื่องนี้ดี แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่เคยมีคำสั่ง” 

“รัฐบาลไทยก็ได้แต่ประท้วงตามฟอร์ม ทำได้เท่านั้น…น่าอนาถจริงๆ” 

“ประท้วงไป 3 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2541 และอีกครั้งล่าสุดคือเมื่อปี 2564 นี่เอง เป็นไงครับ 24 ปี ตั้งแต่ปี 2540 ทำได้แค่ประท้วง และประท้วงแค่ 3 ครั้ง ปีนี้ 2568 เพิ่มเป็น 28 ปี แล้ว ก็ยังเงียบอยู่ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่มีการพูดถึง คงต้องรอการประท้วงครั้งต่อๆ ไปจนกว่าจะถูกยึดไปอีกมั้งครับ” 

“รัฐบาลไทย กองทัพไทย ทำได้แค่นี้จริงๆหรือ???” 

“เราน่าจะใช้โอกาสนี้จัดการแก้ไขเรื่องนี้ด้วย ถ้าไม่ทำลายทิ้ง ก็ทำบ้าง เขาทำได้ เราก็ทำได้ เมื่อเขาไม่ยอมรื้อเราก็ต้องทำบ้าง เอาให้ยาวกว่า ดูสิว่าจะว่าอย่างไร เรื่องประโยชน์ชาติเป็นสุภาพบุรุษไม่ได้นะครับ” 

นายพีระพันธุ์ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังได้กล่าวถึงประสบการณ์ของตนในช่วงเกิดการปะทะเมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 โดยระบุว่า แม้กองทัพเรือจะมีความพร้อม แต่กลับได้รับแจ้งว่าไม่มีคำสั่งให้ดำเนินการทวงคืนเขตแดนทางทะเล 

“ช่วงที่เกิดปะทะกันเมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ตอนนั้นผมอยู่ใน ครม. ในฐานะรัฐมนตรีพลังงานที่ต้องทวงคืนทรัพยากรพลังงานให้ประเทศ ผมเห็นกองทัพเรือเตรียมความพร้อมแล้วแต่เขาบอกว่า…ไม่มีคำสั่ง!!!” 

“ผมเลยบอกกับทางกลาโหมให้ใช้โอกาสนี้ทวงคืนเขตแดนทางทะเลด้วยเลยไม่ใช่ทวงคืนแต่บนบก เพราะมีทรัพยากรพลังงานที่มีค่ามหาศาลสำหรับคนไทยและประเทศไทยและเป็นของเราอย่างถูกต้องด้วย แต่จนวันนี้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

วันก่อนผมถามกองทัพโดยรวมว่าพร้อมที่จะเด็ดขาดหรือยัง ถ้าพร้อมมัวรออะไรอยู่ วันนี้ขอถามกองทัพเรือว่าพร้อมที่จะเด็ดขาดทวงเขตแดนทางทะเลของเราคืนหรือยัง” 

“ถ้าพร้อม…รออะไรครับ?”

Advertisement

แชร์
"พีระพันธุ์" เปิดโปงเขมร เป้าหมายที่แท้จริง ไม่ใช่แค่เขตแดนบนบก