
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ล่าสุดระหว่างไทยและกัมพูชา กรณีการเหยียบกับระเบิดล่าสุด และการระงับข้อตกลงระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมข้อเสนอต่อรัฐบาลไทยต่อสถานการณ์ดังกล่าว
โดยรังสิมันต์ ระบุว่าสำหรับมาตรการของรัฐบาลปัจจุบัน จะเห็นได้ว่ามีความพยายามทำให้กองทัพกับรัฐบาลเป็นเนื้อเดียวกัน เพราะทุกคนเห็นปัญหาจากรัฐบาลที่แล้ว แต่วิธีการที่ทำให้มีปัญหา คือโยนให้กองทัพตัดสินใจทุกอย่าง มิติในการแก้ปัญหาไทย-กัมพูชาไม่ได้มีเฉพาะมิติด้านการรบเท่านั้น เมื่อต้องเจรจาสันติภาพ ทางกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องเข้ามามีบทบาท แต่สิ่งที่รัฐบาลไทยไปทำการตกลงกับกัมพูชาที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นที่เห็นด้วยทุกองคาพยพ มีความไม่เห็นด้วยกันมาตั้งแต่รายละเอียดว่าทำไมจึงมีการตกลงกันเช่นนี้ หรือการจัดวางบางข้อตกลงที่มีความสำคัญไม่เท่าเทียมกัน ทำให้เกิดบรรยากาศของความไม่ไว้วางใจกัน
ช่วงที่ผ่านมา ปมปัญหาหลักระหว่างไทย-กัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นกรณีปราสาทตาควาย เส้นเขตแดน ประชาชนฝั่งกัมพูชาที่่รุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทย กับระเบิด และสแกมเมอร์ เรื่องที่ดูจะแก้ไขได้ยากที่สุดคือเรื่องสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นรายได้หลักของกัมพูชา กัมพูชาย่อมไม่ยอมให้ทุบหม้อข้าวง่ายๆ และฝ่ายความมั่นคงก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
รังสิมันต์กล่าวต่อไปว่าแต่ปัญหาคือที่ผ่านมาเริ่มมีทิศทางในการผ่อนคลายสถานการณ์ให้กลับไปสู่ความสัมพันธ์ปกติ และมีความพยายามถึงขนาดว่าอาจจะมีการส่งเชลยศึกกลับไป วันนี้วาระแห่งชาติของประเทศไทยคือเรื่องสแกมเมอร์ แต่เมื่อดูเหมือนว่าไทย-กัมพูชากำลังจะกลับไปสู่ความสัมพันธ์ปกติ จึงเป็นการดูสวนทางกัน และไม่ใช่ทุกองคาพยพของประเทศจะเห็นด้วยกับแนวทางนี้
ทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้เกิดความไว้วางใจกัน เฉพาะหน้าควรใช้กลไกอย่างสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้เป็นประโยชน์ ดึงทุกฝ่ายมาพูดคุยให้เห็นยุทธศาสตร์ร่วมกัน กองทัพควรรับรู้ว่างานต่างประเทศเดินอย่างไร เช่นเดียวกันงานด้านความมั่นคงจะเดินอย่างไรส่วนงานต่างประเทศก็ต้องรับรู้ แต่ตอนนี้มีลักษณะต่างคนต่างทำและต่างไม่คุยกัน ตนจึงเริ่มเป็นห่วงและเริ่มเห็นสัญญาณว่าสภาพเดิมเหมือนรัฐบาลก่อนหน้าได้กลับมาอีกแล้ว
รังสิมันต์กล่าวต่อไปว่าการระงับทุกข้อตกลงอย่างที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ไม่ได้ทำให้กัมพูชาหวาดกลัว นอกจากนี้มีความน่าเชื่ออย่างยิ่งว่าจุดที่มีการเหยียบกับระเบิดล่าสุด เป็นการวางทุ่นระเบิดรอบใหม่โดยกัมพูชา ฝ่ายกัมพูชาโดยเฉพาะฮุนเซนติดตามการเมืองไทย และย่อมรู้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาหนึ่งในวาระสำคัญของประเทศไทยคือเรื่องสแกมเมอร์ ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของกัมพูชาโดยตรง จึงเป็นที่น่าคิดว่าการวางทุ่นระเบิดรอบใหม่นี้เป็นเพราะกัมพูชาต้องการให้ประเทศไทยเปลี่ยนจุดสนใจจากเรื่องสแกมเมอร์มาเป็นเรื่องความขัดแย้งตามแนวชายแดนหรือไม่
ทุกครั้งที่มีความขัดแย้งตามแนวชายแดนกรณีที่มีการขัดกันทางอาวุธ ประเทศไทยมีความได้เปรียบในแง่ศักยภาพและขีดความสามารถในการรบแน่นอน แต่กัมพูชาโดยเฉพาะฮุนเซนไม่ได้สนใจว่าทหารกัมพูชาจะตายเท่าไหร่ กัมพูชารู้ว่าสิ่งที่กดดันไทยได้คือเรื่องการต่างประเทศ และด้วยภาพที่กัมพูชาพยายามสร้างว่ากัมพูชาเป็นประเทศเล็กที่ถูกประเทศใหญ่รังแก
รังสิมันต์กล่าวต่อไปว่าหลายเวทีที่ผ่านมากัมพูชาจะเป็นฝ่ายรุกก่อนเสมอในเวทีต่างประเทศเพื่อให้ประเทศไทยชี้แจง ซึ่งประชาคมโลกที่ไม่ได้ติดตามรายละเอียดก็มีแนวโน้มที่จะมีมุมมองคล้อยตามภาพที่กัมพูชาสร้าง เมื่อไหร่ก็ตามที่มีความขัดแย้งตามแนวชายแดนกัมพูชาจะอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบประเทศไทยในเวทีโลกเสมอ กัมพูชาจึงต้องการทำให้จุดสนใจของสังคมไทยและสังคมโลกมาอยู่ที่ความขัดแย้งตามแนวชายแดน เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่จุดสนใจเป็นเรื่องสแกมเมอร์กัมพูชาจะเสียเปรียบเสมอ
ดังนั้น ข้อเสนอของตนคือนอกเหนือจากกระบวนการทางการทูตและการประท้วงแล้ว ในจุดลาดตระเวนต่างๆ อาจมีความจำเป็นต้องใช้กล้องมาช่วยในการมอนิเตอร์ การมีภาพหลักฐานจะช่วยในการทำให้ประชาคมโลกเห็นความจริง และจะช่วยสร้างความปลอดภัยให้ทหารของไทยได้ดีขึ้น ประเทศไทยควรลงทุนกับการมอนิเตอร์ แม้อาจจะกันไม่ได้ 100% แต่ก็พอจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้เกิดความปลอดภัย พร้อมเก็บพยานหลักฐานนำไปฟ้องต่อประชาคมโลกให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติกรรมเช่นนี้
รังสิมันต์กล่าวต่อไปว่าขณะเดียวกันแม้เรื่องชายแดนมีความสำคัญ แต่เรื่องการระหว่างประเทศก็ต้องดำเนินการไป สิ่งที่ตนเรียกร้องมาตลอดคือประเทศไทยต้องมีมาตรการเชิงรุกกับอาชญากรรายใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ หนึ่งในบริษัทที่มีความสำคัญต่อฐานอำนาจในกัมพูชาคือฟินเซน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและสแกมเมอร์ ซึ่งคนที่มีความเชื่อมโยงกับบริษัทนี้ก็คือฮุนโต ลูกพี่ลูกน้องของฮุนมาเน็ต ซึ่งประเทศไทยควรออกหมายจับบุคคลนี้ได้ ข้อมูลทุกอย่างมีอยู่แล้ว สถานการณ์ในเวลานี้คือสถานการณ์ดีที่สุดในการรุกกลับเรื่องสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นบ่อเงินบ่อทองของรัฐบาลกัมพูชาในเวลานี้
Advertisement