นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประชุมครม.นัดแรก ยังอาคารรัฐสภา โดยมีรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้รัฐบาล มีความสมบูรณ์เรียบร้อยจำเป็นต้องเร่งทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกนโยบายตนในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศไว้ ซึ่งรวมไปถึงทุกนโยบาย และสั่งการกับทุกกระทรวง พร้อมกับระบุว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ ที่ต้องเชิญประชุมหลังการแถลงนโยบายเสร็จสิ้น เนื่องจากมีเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการใช้งบประมาณปี 2568 เพื่อให้สามารถนำงบประมาณที่เหลืออยู่กว่า 60,000 ล้านไปใช้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้งโครงการใช้หนี้ธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส. เพื่อให้พื้นที่ได้ดำเนินการต่อ
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ จากที่ตนได้ลงพื้นที่หลายๆ จังหวัดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ทราบมาว่ามีรัฐมนตรีอีกหลายท่านได้ลงพื้นที่ ที่ประสบภัยพิบัติ อย่างเช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนรัฐมนตรีอีกหลายท่าน ที่ได้ร่วมคณะกับตนไป คงจะได้เห็นแล้วว่าปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากอุทกภัย ตอนนี้ถือว่าพวกเขาเดือดร้อนมาก เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกปีเราจะต้องมีการดำเนินการทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้ความเดือดร้อนและความเสียหายของประชาชนได้รับการเยียวยาช่วยเหลือ
ตนขอให้ทางกระทรวงมหาดไทยเร่งสั่งการ ไปยังจังหวัดแล้วลงไปยังระดับอำเภอ ให้เร่งขึ้นทะเบียนครอบครัวผู้ประสบภัยเพื่อที่รัฐบาลจะได้สั่งการ ให้กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเสนอค่าเยียวยาเบื้องต้นให้แก่ครอบครัวผู้ประสบภัย เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติสามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมีความเป็นเอกภาพและไม่ซ้ำซ้อน และครอบคลุมในทุกมิติ
จึงขอให้ทุกภาคส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ส่งเรื่องเกี่ยวกับมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยา ดังกล่าวไปที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไปตนจะลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติโดยเร็ว
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า พบว่ามีหลายพื้นที่ในเขตจังหวัดภาคกลาง ประชาชนให้ความร่วมมือและเสียสละ พื้นที่ซึ่งเป็นที่ดินเลือกสวนไร่นาให้เป็นพื้นที่รับน้ำทำให้ประชาชนในพื้นที่นี้ประสบปัญหาน้ำท่วม ซ้ำซากเป็นประจำทุกปี และที่ผ่านมาเรามองว่าเป็นการทุ่มเทเสียสละของเขา เราไม่ได้ไปดูแลเขาอย่างเต็มที่จากนี้ไปตนขอให้ถือว่าประชาชน ที่ได้ให้พื้นที่ของพวกเขาเป็นพื้นที่รับน้ำเปรียบเสมือนเป็นผู้ประสบภัยเช่นกันและรัฐบาลจะต้องให้การดูแลช่วยเหลือและเยียวยาเป็นการเฉพาะโดยจัดให้มีมาตรการช่วยเหลือเป็นการประจำไม่ต้องตั้งเรื่องขอเป็นครั้งปีต่อปี ตนขอมอบให้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวจัดทำข้อเสนอมาตรการช่วยเหลือประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำเป็นการประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะหันไปถามอย่างเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยขอคำสั่ง ศทพ.
โดยในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวติดตลกว่าสื่อมวลชน insert ภาพพอแล้วหรือไม่นิมนต์ไปรับประทานอาหารเย็น
Advertisement