วันที่ 30 ก.ย. เวลา 18.03 น. ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีนกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อภิปรายปิดการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ว่า ขอบคุณสมาชิกรัฐสภาทุกคนทั้งจากสว. และสส. ที่ให้ทั้งความรู้ข้อแนะแนวความคิด คำวิจารณ์ การเสนอแนะและอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้รัฐบาลนำไปปฏิบัติ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ตนขอให้คำยืนยันว่า จะนำไปเป็นข้อคิดและแนวทางในการบริหารราชการแผ่นดิน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป และขอคำยืนยันว่า 2 วันนี้ เป็น 2 วันที่มีคุณค่ายิ่งสำหรับรัฐบาลชุดนี้ และตนกราบขออภัยผู้อภิปรายบางคน ที่ตนมีความจำเป็นต้องลุกขึ้นมาตอบโต้เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงแถลงไขให้ประชาชนรับทราบ ถึงแม้หลายเรื่องจะเป็นการอภิปรายที่มีความแตกต่างจากข้อเท็จจริงมากพอสมควร แต่ไม่เป็นไรคงมีเวทีอื่นอีกที่จะได้ทำความเข้าใจกัน ให้เกิดความกระจ่างชัดต่อไป
นายอนุทิน ให้คำยืนยันอีกว่า สิ่งที่นายสุทิน ซึ่งเรารักกันมาก ท่านเป็นกลาโหม ตนเป็นมหาดไทย เราทำงานร่วมกันมาด้วยความราบรื่นสมานฉันท์สามัคคี และทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศมากมายในเวลานั้น ตนให้ความมั่นใจเลยว่าในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนคณะรัฐมนตรีทุกคนในรัฐบาล จะไม่ใช้อำนาจที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนมากระทำการสิ่งใดที่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองหรือช่วยเหลือให้ตนเอง ผลจากสิ่งที่ทำผิดไปแล้วให้เป็นถูก แต่หวังว่าสิ่งที่ทำไปคงไม่มีอะไรเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และหากมีสิ่งใดที่ผิดกฎหมายขอให้นับมาเลย ตั้งแต่ที่ตนเบอร์ 1 ใน หนึ่งในคณะรัฐมนตรี ไปจนถึงเบอร์ 36 ถ้าตนพบว่าใครทำสิ่งผิดกฎหมาย ตนจะไม่ให้ท่านต้องมาเร่ง ตนจะเป็นคนเร่งรัด หากดำเนินการด้วยตนเองได้ตนจะดำเนินการด้วยตนเองไม่เว้นแม้กระทั่งตัวเอง
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สิ่งที่เราพูดกันมายอมรับว่าตนเสียใจ ทุกคนที่เคยทำงานร่วมกันมา ต้องมานั่งโต้เถียงกันไปมาเพราะคำว่าการเมือง ขอย้ำอีกครั้งว่าเมื่อมีการตอบโต้ทางการเมืองในห้องประชุมสภาฯ แห่งนี้ ก็ขอให้ถือว่าพวกเราทุกคนได้ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายมา ขออย่าถือเป็นเรื่องส่วนตัว ออกไปขอให้มีรอยยิ้ม มีความร่วมมือ ตนให้คำสัญญาว่าตนและคณะรัฐมนตรีทุกคนจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะใน 4 เดือนที่เหลือนี้ ทะเลาะกันไม่ได้ ทะเลาะกันประชาชนเสียผลประโยชน์ เราต้องทำในสิ่งที่ดีเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน 4 เดือนนี้ เราจะแข่งขันกันด้วยความขาวสะอาด แข่งกันด้วยรอยยิ้ม แข่งกันทำความดีให้กับประชาชน แล้วให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเลือกใครเข้ามาทำงาน รับรองว่าจะไม่มีคำว่าได้เปรียบใดๆ ทั้งสิ้น
“ผมเสียใจเพราะท่านคิดว่า พรรคของผมอยู่กับท่านตอนนั้น เสียเปรียบในการเลือกตั้ง ยืนยันว่าไม่จริง กระทรวงมหาดไทย พอพ้นออกไปก็เหมือนกัน สภาพของผมกับ ท่านภูมิธรรมก็ไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดถือสา เราเป็นตัวของเราเองดีกว่า คุณงามความดีที่เราประกอบมา จะเป็นตัวที่ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ มีอำนาจก็ใช้ตามหน้าที่ มีคนมานับหน้าถือตา มีคนมาต้อนรับ ตรงนั้นถือเป็นบทบาท ในวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ที่ท่านให้ผมพ้นไป 19 มิถุนายน 2568 ผมก็หักดิบ จากที่มีคนมาติดตามมากมายกลายเป็นไปไหนมาไหนคนเดียว แต่กลายเป็นมีความสุขมากกว่าด้วย วันนี้กลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่โชคดีเรามีประสบการณ์มาก่อน ผมรับรองว่าจะไม่มีการหลงใหลในอำนาจนั้นๆ แล้วคิดว่าอำนาจที่เรามี สามารถไปกลั่นแกล้งคนอื่นได้รับรองว่าไม่มีอย่างแน่นอน ใครทำอะไรผิดไว้กระบวนการยุติธรรมต้องจัดการในทุกเรื่อง ขอให้ความมั่นใจเกิดขึ้นกับท่านทุกคน” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนของรัฐธรรมนูญ ยืนยันกับผู้ที่ลงนาม MOA กับตน คือนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน หรือ “หัวหน้าเท้งของผม” ขอเอ่ยนามเพื่อเป็นเกียรติกับท่าน เราทำงานสร้างสรรค์เราเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน ตนไม่ได้ยึดถือว่าท่านอายุน้อยกว่า ที่ตนมาเป็นฝ่ายค้าน ตนก็ไปรายงานตัวกับหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ในฐานะที่มาเป็นพรรคฝ่ายค้านร่วมกัน และทำงานร่วมกันมาโดยตลอด
“เราเห็นว่าเราจะคืนอำนาจให้กับประชาชน ซึ่งเราก็ทำได้ตามที่เรามีเจตนารมย์ร่วมกัน เพราะฉะนั้น 4 เดือนจากนี้ไป มันไม่ใช่เป็ดง่อย เพราะถ้าเป็นเป็ดง่อยมันจะยุบสภาไม่ได้ หัวหน้าพรรคประชาชน ก็บอกว่านโยบายหลักของรัฐบาลชุดนี้คือยุบสภาและแก้ไขรัฐธรรมนูญ นั่นคือการกระทำที่จะจะต้องทำอย่างแน่นอน คือยุบสภา ใน 4 เดือน และแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งผมก็ยืนยันว่า จะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการจัดทำประชามติ ให้พร้อมในการเลือกตั้งทั่วไป และรัฐบาลขอความร่วมมือ ให้สมาชิกรัฐสภาทุกท่าน ได้ร่วมกันประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ถ้าเป็นไปได้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2568 โดยคณะกรรมาธิการอาจจะต้องประชุมบ่อยมาก หรืออาจไม่มีวันหยุดเลย ขอให้พวกเราทุกคนมาร่วมกัน เพราะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่มากและใช้เวลามาก ถ้าพวกเราทุกคนร่วมมือกันมาประชุมทุกวันก็จะทำให้เจตนารมย์ของทุกท่านที่มีความต้องการจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้สมปรารถนา สำหรับการมีส่วนร่วมของประชาชน การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รัฐรัฐบาลจะดำเนินการให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แล้วจะเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการที่จะพิจารณาว่า จะสามารถทำได้ด้วยประสิทธิภาพที่มีมากเพียงใด”
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับการเสนอกฎหมายต่างๆ เพื่อประกอบร่างรัฐธรรมนูญ ในสภาฯแห่งนี้ทราบดีว่า ไม่สามารถผ่านสภาฯ ได้ภายใน 4 เดือนนี้ แต่เราเริ่มต้นไว้ได้เพื่อให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้ง มาสานต่อได้เลยโดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ เพราะเราจะเริ่มวางรากฐานไว้ให้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญมาตรา 147 วรรค 2
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการโยกย้ายข้าราชการ เพื่อไปช่วยกันเลือกตั้ง ขอให้ท่านมั่นใจไม่มีใครรู้เรื่องนี้ดีไปมากกว่าตน เพราะอยู่มหาดไทยมาก็แฮตทริคแล้ว เพราะป้ายที่อยู่กระทรวงมหาดไทย มีชื่อตน 3 ครั้งแล้ว และก่อนหน้านี้ก็มีชื่อของพ่อตนด้วย จึงมั่นใจอย่างดีว่าจะเลือกตั้งได้มากได้น้อย อยู่ที่ผู้สมัคร อยู่ที่นโยบาย อยู่ที่พรรคการเมือง ใครทำนโยบายดี ใครส่งผู้สมัครดีก็มีโอกาสที่จะได้เข้ามา ตนต้องกราบเรียนว่า ไม่เคยคิดเลยว่า ข้าราชการประจำคนไหนจะช่วยให้พรรคการเมืองชนะการเลือกตั้งได้ ท่านลองดูและไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนก่อนหน้าตน ณ วินาทีนี้ก็คงซาบซึ้งเป็นอย่างดี และเรื่องการเอามีดตัดมือตัวเอง คนชื่ออนุทิน ไม่เคยมี คนที่เอามีดตัดมือตัดแขนตัวเองก็คือคนที่คนที่ให้ตนออกจากรัฐบาลที่แล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่มีวันนี้ เพราะฉะนั้นเราเห็นสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นแล้ว และเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ด้วย ก็ขอให้มันจบกัน อโหสิกรรม จบกันไป จากนี้มาแข่งขันกัน ทำคุณงามความดีขายนโยบายให้กับประชาชน อีก 4 เดือนยุบสภาฯ และอีกไม่เกิน 2 เดือน ได้เลือกตั้งกัน เราก็ไปเลือกตั้งด้วยความบริสุทธิ์ ด้วยความโปร่งใส “รับรองว่าไม่ใช่เป็ดง่อย นี่หนูครับ ไม่ใช่เป็ด เพราะฉะนั้นหนูไม่ง่อย เป็ดอาจจะง่อย” ก็ขอให้ท่านได้มั่นใจว่ารัฐบาล จะทำหน้าที่ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ซึ่งหลังจากจบการประชุมรัฐสภา ขออนุญาตใช้สถานที่รัฐสภา ประชุมคณะรัฐมนตรีทันที เพื่อทำในเรื่องที่เราจำเป็นต้องทำ เพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและประชาชน ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้ง ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง โชคดีทุกคน
จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้สั่งปิดประชุมรัฐสภาในเวลา 18:17 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากการปิดประชุมรัฐสภา นายอนุทิน ได้ลงจากบัลลังก์ และรัฐมนตรีไปร่วมกันถ่ายภาพ กับบรรดาสมาชิกรัฐสภาของพรรคภูมิใจไทย ก่อนที่จะไปประชุมคณะรัฐมนตรีต่อ
Advertisement