นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. อภิปรายสนับสนุนนายชัยเกษม พร้อมแสดงเหตุผลที่นายอนุทิน ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกฯ ว่า พรรคปชน. จะโหวตสนับสนุนนายอนุทิน แต่จะไม่มีใครอยู่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ห้ามพรรค ภท. รวมเสียงข้างมากในสภาฯ หมายความว่าต้องการให้พรรค ภท. เป็นรัฐบาลแบบลูกไก่อยู่ในกำมือของพรรคปชน. นานไปอาจจะมีเหตุการณ์หนูเปล่านะ เขามาเอง อาจมีเสียง สส.สนับสนุนให้จนเป็นเสียงมากได้
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า การจะเป็นรัฐบาลด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ ขัดต่อหลักการของระบบรัฐสภา ของระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง และจะทำให้เกิดผลเสียตามมาต่อประเทศอย่างร้ายแรง หลักการของระบบรัฐสภาคือเลือกบุคคลเป็นนายกฯ จากบัญชีของพรรคการเมือง พร้อมลงมติแบบเปิดเผยเพื่อให้ประชาชนรับรู้ว่า สส.คนไหน พรรคไหนสนับสนุนใครเป็นนายกฯ ตรงกับที่ประกาศกับประชาชนหรือไม่ และเมื่อบุคคลนั้นได้เป็นนายกฯ สส.และพรรคต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองได้ทำไป แต่ปัญหาคือ พรรค ปชน.ระบุว่าจะไม่มีคนอยู่ใน ครม.แม้แต่คนเดียว หมายความว่าจะยกมือให้ แต่ไม่มีส่วนกำหนดนโยบายรัฐบาล หากเป็นเช่นนี้การตรวจสอบรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ท่านบอกว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน จึงตั้งคำถามว่าจะทำได้จริงหรือไม่ การที่ผู้นำฝ่ายค้านอยู่ใน 2 สถานะเช่นนี้ จะเป็นฝ่ายค้านที่น่าเชื่อถือได้อย่างไร
“พรรคประชาชนอยู่ในสภาพอิหลักอิเหลื่อ ผู้นำฝ่ายค้านแท้ ๆ เรียกร้องให้สมาชิกในสภาฯ อยู่ในที่ประชุมเพื่อพิจารณากฎหมาย เมื่อวานซืนท่านพูดอยู่หยก ๆ ว่าองค์ประชุมเป็นเรื่องรัฐบาล ถ้าท่านอนุทินได้เป็นนายกฯ องค์ประชุมไม่ครบสภาล่ม มีกฎหมายสำคัญเข้ามาสภาล่มจะทำอย่างไร พรรคประชาชนบอกว่าจะเป็นองค์ประชุมให้เพื่อให้สภาฯ เดินหน้าต่อ” นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า ตนมองว่าพฤติกรรมเช่นนี้คือ พฤติกรรมของการเป็นฝ่ายรัฐบาล อยู่ในสภาพที่ต้องประคับประคองรัฐบาล เราจะเชื่อได้อย่างไรว่าพรรคปชน.จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะแบ่งเวลาอย่างไร เราจะยอมให้ผู้นำฝ่ายค้านสรุปการอภิปรายไม่ไหววางใจได้อย่างไร ในเมื่อท่านเป็นผู้ร่วมเลือกรัฐบาลนี้มา ฉะนั้น พรรคปชน.จึงไม่สามารถทำหน้าที่ถ่วงดุลรัฐบาลได้ พรรคปชน.ไม่สามารถอยู่ในสถานะที่ทัดทานได้ รัฐบาลออกนโยบายอะไรมา พรรคปชน.ไม่สามารถคัดค้านได้ นายอนุทินขาดคุณสมบัติเนื่องจากมีบารมีมากไป หรือเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีอานุภาพมาก ขนาดยังไม่ได้เป็นนายกฯ คนก็คาดการณ์ว่าจะได้เป็นนายกฯ การรถไฟแห่งประเทศไทยยังขอเลื่อนการร้องทุกข์คดีเขากระโดงออกไปอย่างไม่มีกำหนด ด้วยเหตุผลว่ารอรัฐมนตรีคนใหม่เสียก่อน หากเป็นอย่างนี้ภาพพจน์นักการเมืองที่เสียหายตกต่ำอยู่แล้วก็จะยิ่งตกต่ำต่อไป เป็นปัญหาของประเทศและระบอบประชาธิปไตย
“คนในพรรคท่านจะได้เป็นรัฐมนตรี จะมีบารมีมากและมีบารมีย้อนหลัง เคยแต่งตั้งใครเป็นข้าราชการระดับ 10 ไว้ คนนั้นไปสมัครองค์กรอิสระหรือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็สามารถเอาชนะนักกฎหมายชั้นนำของประเทศได้ บารมีเช่นนี้น่าเป็นห่วง หากใช้มาก ๆ จะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่พรรคของท่านไปพัวพันกับคดีฮั้ว สว. เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบารมีของท่านจะทำให้คนผิดลอยนวลในคดีฮั้ว สว. ซึ่ง สว.มีอำนาจในการเลือกองค์กรอิสระ เราจะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นเช่นนี้หรือ หากนายอนุทินเป็นนายกฯ มีความเสี่ยงมากว่าบ้านเมืองจะพัฒนาไปเป็นเช่นนี้” นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้พรรคปชน.เสียงแข็งให้ยุบสภาทันที แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นให้เวลา 4 เดือน เพื่อทำประชามตินำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยโดย สสร. ที่ผ่านมามีการพิจารณากฎหมายประชามติโดยพรรคภูมิใจไทย ที่เห็นไม่ตรงต้องการให้กฎหมายประชามติมีผลไปในทางขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งตรงกับ สว. หาก สว.ได้อำนาจเต็มที่โดยบารมีหรือของวิเศษจะเดินไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญได้อย่างไร หากลงมติในสภาแล้ว สว.ไม่โหวตให้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะไม่เกิดขึ้น สิ่งที่ตามมาคือระบบองค์กรอิสระ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะถูกครอบงำโดยอำนาจพิเศษ ซึ่งเป็นสิ่งตรงข้ามกับที่พรรคประชาชนเสนอต่อประชาชน
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า ตอนที่พรรค พท.ข้ามขั้ว ตนเคยวิจารณ์ไว้ว่าการข้ามขั้วจะนำไปสู่ความอ่อนแอของประชาธิปไตยซึ่งเกิดขึ้นจริง แต่ตอนนี้พรรค พท. อย่าว่าแต่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษ์ จะขอไปเป็นฝ่ายอนุรักษ์เขาคงไม่รับแล้ว จึงต้องมาปรับตัว พรรค พท.ถ้าเป็นฝ่ายค้านก็มาเจอกับพรรคปชน. อาจจะได้ร่วมมือกับพรรคปชน. ในฐานะพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน แต่กลับพบว่าพรรคปชน.ข้ามขั้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่มาก
“พรรคประชาชนที่พูดมาตลอดว่ามีลุงไม่มีเรา ต้องประชาธิปไตย 4 เดือนต่อไปนี้การตรวจสอบรัฐบาลจะไม่เข้มแข็ง นโยบายจะออกมาผิดที่ผิดทาง พรรคฝ่ายค้าน มีพรรคประชาชนที่ครึ่งๆ กลางๆ ทำให้ตรวจสอบรัฐบาลอ่อนแอ ผลที่ตามมาอาจเกิดการแทรกแซง ทำให้ระบบนี้ถูกครอบงำไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างมั่นคง การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่เกิดขึ้นภายใน 4 เดือน จากนี้จึงเป็นระยะเวลาที่พรรคประชาชนจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับฝ่ายอนุรักษ์ มวลชนของพรรคประชาชนจะรู้สึกอย่างไรหากพรรคของท่านได้กลายเป็นพรรคที่ข้ามขั้ว สนับสนุนพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมอย่างเต็มตัว” นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า หากให้นายชัยเกษมเป็นนายกฯ ปัญหาต่างๆ จะไม่เกิดขึ้น เพราะท่านจะตั้ง ครม. แถลงนโยบาย คล้ายกันกับนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทำไว้เมื่อปี 2535 เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ สุดท้ายมีการยุบสภาภายใน 20 วัน ซึ่งนายชัยเกษมจะยุบสภาได้เร็วกว่านั้น ความเสียหายที่จะเกิดต่อระบอบประชาธิปไตยจะไม่เกิดขึ้นเหมือนกับที่จะเกิดขึ้นหากนายอนุทิน เป็นนายกฯ
Advertisement