ระทึก! เฮลิคอปเตอร์ มท.2 ลงจอดฉุกเฉินที่ปาย หลังเจอฝนตกหนัก
ระทึก! เฮลิคอปเตอร์ มท.2 ลงจอดฉุกเฉินที่ปาย จ.แม่ฮ่องสอน หลังเจอฝนตกหนัก เครื่องบินต่อไม่ได้ ต้องตีรถจากปายไปเชียงใหม่แทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุฉุกเฉิน เฮลิคอปเตอร์ของกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยที่นำ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รักษาการ รมช.มหาดไทยลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ขณะเดินทางกลับไม่สามารถเส้นทางเดิมได้ เนื่องจากมีฝนตกอย่างหนักในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงได้เปลี่ยนแผนเส้นทางบิน จากพื้นที่ อ.แม่แจ่ม มายัง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อหลบฝน แต่เมื่อมาถึง อ.ปาย ปรากฏว่าบริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนัก และแนวรอยต่อระหว่าง อ.ปายกับ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ยังมีฝนตกหนัก เป็นอุปสรรคต่อการบิน จึงได้ลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่อมาเมื่อฝนได้ซาลง เฮลิคอปเตอร์คันดังกล่าวได้บินขึ้นอีกครั้ง เพื่อเดินทางไปเชียงใหม่ แต่บินไปได้สักพักก็ต้องย้อนกลับมาลงที่ท่าอากาศยานปายอีกครั้ง เนื่องจากมีกลุ่มฝนเกิดขึ้นอีก ทำให้ รักษาการรมช.มหาดไทย ต้องเดินทางโดยรถยนต์เดินทางไป จ.เชียงใหม่ในคืนวันเดียวกัน
ก่อนหน้านั้น น.ส.ธีรรัตน์ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ โดยมีนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายจำนง สวัสดิ์วงศ์ ผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย นายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ นายเกรียงศักดิ์ บุญตาปวน นายอำเภอแม่แจ่ม น.ส.ศรีโสภา โกฏคำลือ สส.เชียงใหม่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่
ในจุดแรก น.ส.ธีรรัตน์ และคณะตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราวช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อบต.แม่ศึก ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารเรียนของโรงเรียนปางอุ๋ง ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีประชาชนพักอาศัย จำนวน 137 คน พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่พักอาศัยในศูนย์พักพิง โดยศูนย์แห่งนี้นายอำเภอแม่แจ่มได้บูรณาการสรรพกำลังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยในระหว่างการตรวจเยี่ยม น.ส.ธีรรัตน์ได้ประสานไปยัง นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อขอรับการสนับสนุนบุคลากรเพิ่มเติมด้วย
จากนั้นเดินทางต่อไปยังบริเวณจุดเกิดเหตุดินสไลด์หลังฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ หมู่บ้านปางอุ๋ง จ.เชียงใหม่ มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่ง น.ส.ธีรรัตน์ได้มอบเงินช่วยเหลือค่าจัดการศพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 29,700 บาท ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ขณะที่ในบริเวณที่เกิดเหตุมีกำลัง อส. 500 นายและ ชรบ. 200 นาย รวมถึง เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สนับสนุนภารกิจรื้อถอนท่อนไม้ และอาคารที่พังเสียหาย แล้วเดินทางต่อไปยังบริเวณที่ตั้งทีมค้นหาผู้สูญหาย (USAR) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังอยู่ระหว่างภารกิจค้นหาผู้สูญหาย
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เกิดเหตุดินสไลด์ และอุทกภัยที่บ้านปางอุ๋ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย และรัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และใกล้ชิด ซึ่งในขณะนี้ในพื้นที่ยังต้องเร่งทำงาน โดยได้มีการส่งเครื่องจักรกลที่จำเป็นลงไปในพื้นที่อยู่แล้ว ซึ่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย รองผู้ว่าฯเชียงใหม่ ปภ.จังหวัด กรมการปกครอง ได้เสริมกำลัง อส. 500 นาย จาก 19 จังหวัด และจ.เชียงใหม่ ชรบ .200 นาย และอปพร. รวมถึงอาสาสมัครต่างๆ จากทั่วประเทศที่จะเข้ามาเพื่อที่จะเร่งเคลียร์พื้นที่และสำรวจความเสียหาย
"วันนี้ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความสูญเสียที่บ้านปางอุ๋ง เพื่อประเมินสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้กล่าวให้กำลังใจแก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนผู้ที่พักอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่ได้จัดเตรียมไว้ในพื้นที่ นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบความพร้อมเพียงพอ และพร้อมของเครื่องมืออุปกรณ์ และกำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ" น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่วันนี้ได้พบว่ามีหลายหน่วยงานที่ได้เข้ามาช่วยเหลือร่วมทำงานแบบบูรณาการ ทั้งในส่วนของกระทรวงมหาดไทย พม.ที่ได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชนสาธารณสุขในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำจนท.ลงมาช่วยเหลือด้วย เพราะตรงนี้เป็นพื้นที่ของกรมอุทยานฯ ซึ่งจะได้หาที่พักที่ปลอดภัยให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อไป โดยจะดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนเกิดความอุ่นใจว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือเต็มกำลัง
เมื่อวานนี้กรมชลประทานได้เข้ามาดูในเรื่องของการปรับพื้นที่ให้มีความมั่นคงแข็งแรงก่อนในจุดที่เป็นแนวรับน้ำ หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงว่าอาจจะเกิดดินโคลนถล่ม และการสไลด์ของดินอีก โดยจะทำให้มีความแข็งแรงขึ้น หลังจากนั้นจะได้ดูว่าพื้นที่ไหนที่จะสามารถตั้งที่อยู่อาศัยให้ผู้ที่บ้านได้รับความเสียหาย ซึ่งอาจจะไม่ใช่ที่บริเวณนี้ เพราะว่าหลายๆ ครอบครัวได้แจ้งว่ายินดีที่จะย้ายออกจากบริเวณพื้นที่เดิมโดยที่ไม่อยากให้ห่างไกลจากญาติพี่น้องของเขาหรือที่ที่จะต้องทำนาทำสวนทำไร่แต่ก็ต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำแบบนี้อีก
Advertisement
