วันที่ 14 ส.ค. 68 จากกรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ออกมาเปิดเผยถึงการซื้อโหวต สส.พรรคประชาชน ให้ลงมติผ่านร่างกฎหมายของรัฐบาล ซึ่งมีนาย ชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง สส.ขอนแก่น พรรคประชาชน ออกมาโพสต์ยอมรับมีการขอซื้อโหวตจริง เป็นเงินสด 10 กิโลกรัม แลกกับการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 และร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร (ตอนนั้นรัฐบาลยังไม่ถอน) แต่ผมปฏิเสธไม่ขายเสียงของตัวเอง และฝากรัฐบาลมาประชุมให้ครบ ไม่ต้องหวังพึ่งน้ำบ่อหน้าเอาเสียงฝ่ายค้านมาเป็นองค์ประชุม
ล่าสุดมีการเปิดเผยคลิปเสียงสนทนา เป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งพูดคุยกับ สส.ชาย โดยฝ่ายหญิงพยายามโน้มน้าวว่า แค่ต้องการให้ยกมือ มีข้อเสนอ แต่ถ้ายังไม่ชอบนโยบายให้ไปฟังดูก่อน เพราะว่าเรื่องนี้ไม่มีใครรู้ทั้งนั้น ถ้าไม่ชอบก็ออกมา ไม่ต้องเอาบัดเจ็ตกลับมา โดยไม่ได้ให้พี่ออกจากพรรคนะ เราแค่ต้องการให้ยกมือ แต่ถ้าพี่ไปแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าพี่ไป พี่ไม่โอเค พี่ก็ยังอยู่ในพรรคของพี่เหมือนเดิม
“เอาแบบนี้ พี่พูดมา พี่ไม่อยากร่วมงานกับใคร หนูจะตอบให้ว่าใช่หรือไม่ใช่ ถ้าบอกว่าเฮดใช่ธรรมนัสไหม หรือลุงป้อม ลุงตู่หรือไม่ หนูจะได้ตอบเลยว่าไม่ พี่ไม่อยากร่วมงานกับใครในแคนดิเดต ณ ตอนนี้ หรือหัวหน้าพรรคแต่ละพรรคที่พี่คิดว่าร่วมงานไม่ได้ ที่พี่ไม่ชอบนโยบาย พี่ก็บอกมาได้เลยว่าไม่ ถ้าเป็นคนนี้ไม่ เราจะได้บอกว่าใช่หรือไม่ ส่วนบัตเจ็ตพี่เรียกมา ถ้าเรียกมาแล้วจบ เกิน 10 โลขึ้นไป เฉพาะยกมือ ไม่เกี่ยวกับย้าย ยกมือตามที่มีเอกสารให้ ที่มีใบสั่งมา ยกมือให้ฝั่งรัฐบาลค่ะ เอาง่ายๆ แค่ค่ายกมือ” หญิงสาว กล่าว
ขณะที่ สส.ชาย กล่าวถามหลายครั้งว่าแค่ยกมือใช่หรือไม่ จะจ่ายอย่างไร ทำให้ฝ่ายหญิงตอบว่า จะแบ่งจ่ายเป็น 3 ครั้ง 10 กิโลกรัม ยกให้เพียง 2 เรื่อง พร้อมถามกลับว่ามาเจอกันหน่อยไหม จะได้คุยกัน จะยกหูหาผู้ใหญ่ให้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่
สส.ชาย กล่าวว่า ผู้ใหญ่ของคุณต้องใจใหญ่กว่านี้แล้วแหละ ตนไม่เหมือนนักการเมืองสมัยเก่า ฝ่ายหญิงเลยตอบว่า เข้าใจ มันไม่ใช่แบบนั้น วันจันทร์นี้ต้องรวบรวมคนแล้ว
ช่วงหนึ่งฝ่ายหญิงถามด้วยว่า พี่บันทึกเสียงหนูหรือไม่ สส.ชายจึงระบุว่า จะบันทึกอะไร ถ้าไม่เปิดใจกับตน ก็ไม่กล้าคุยต่อ ขนาดนี้ยังไม่กล้าเชื่อใจ แล้วจะคุยกันได้อย่างไร ฝ่ายญิงจึงกล่าวว่า ต้องเจอหน้ากัน
สส.ชาย ถามย้ำว่านายใหญ่คือใคร ตนต้องการรายละเอียดประกอบการตัดสินใจว่าจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ทางตนก็ต้องเช็กเรื่องความปลอดภัยด้วย แต่ทางเขาก็ยังหวาดระแวงเลย
“แบบเดียวกัน ถึงแม้ผมจะไปแล้ว ผมบอกไม่โอเค แต่จากการที่ไปมันก็มีภาพที่ไป แล้วบางทีมันก็เป็นผลลบกับผมเอง นึกภาพออกไหมครับ ผมก็เลยบอกว่า ด้วยนโยบายของแต่ละพรรค ตอนนี้เรารู้ดีกันอยู่แล้วว่าพรรคเรามีแนวทางหรือนโยบายยังไง” สส.ชาย กล่าว
สส.ฝ่ายชาย ถามจี้ว่าได้ชวนคนอื่นในพรรคประชาชนหรือไม่ ฝ่ายหญิง ตอบว่า ไม่ได้ชวน และหากโหวตไปแล้ว ทุกอย่างจะจบลงภายใน 2 วัน จะเงียบ สส.ฝ่ายชาย ถามต่อว่าใช่พรรคอาจารย์ ใช่หรือไม่ ไม่ใช่พรรคผู้กองธรรมนัสหรือ ฝ่ายหญิง ตอบกลับทันทีว่า ไม่ใช่ค่ะ พร้อมชวนไปพบกันที่ปั๊มน้ำมัน เนื่องจากไม่มีกล้อง แต่ สส.ชาย ตอบว่า ตนเป็น สส. ถ้าไปจะซวย
ฝ่ายหญิง กล่าวว่า แฟร์ๆ ก็คือ เงินส่วนนี้มาจากฟากรัฐบาล ที่เหนือรัฐบาลอีก พรรคสีต่างๆ ก็ได้เงินก้อนนี้มาเพื่อจัดตั้งพรรค และตอนนี้พรรคต่างๆ ก็จะมีบางพรรคที่ล่มสลายไป บางพรรคหลุดไป นี่คือวาระความเป็นจริงของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้ามีอันไหนยุบ อันไหนหลุด ก็ยังมีเรือชูชีพ เขาไม่ได้บอกว่าคุณต้องสละเรือคุณ แล้วมาลงเรือชูชีพ มันเป็นแค่การยกมือ เราไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่เพื่อไทย แต่เราแค่ไม่รับ ลองกลับไปคิดดู ลองเรียกเงินมา การเมืองมันเป็นตลาดแบบนี้ ซึ่งเป็นใบสั่งจากผู้ชาย ไม่ยืนยันว่าเป็นพรรคเพื่อไทย แต่สูงว่า บุคคลตัวย่อ ส. อย่าเดาเลย เดาก็ไม่ถูก
ช่วงท้าย สส.ฝ่ายชาย ถามว่าใช่ภูมิใจไทยหรือไม่ แต่ฝ่ายหญิง ตอบว่า โนเวย์ค่ะ
Advertisement