คนกัมพูชาเรือนหมื่น จำใจกลับเขมร หลัง ฮุนเซน ขู่ยึดที่ดิน
กลับอีกหมื่น คนกัมพูชาแห่กลับบ้านแน่นอีก หลังฮุนเซนปล่อยข่าวจะยึดที่ดินคืน หากไม่กลับมา นายกสมาคมฯจันทบุรี เผย กลับรวมสองแสนกว่าคนแล้ว
วันที่ 4 ส.ค. 68 เข้าสู่วันที่11 ของการเดินทางกลับของแรงงานกัมพูชา ที่บริเวณประตูจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับบ้านเป็นจำนวนรวมหมื่นคน หลังมีข่าว สมเด็จฯฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาจะยึดที่ดินคืน หากไม่เดินทางกลับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวกัมพูชาเดินทางกลับเบาบางลงแล้วเ หลือเพียงหลักพันคนต่อวัน แต่หลังจากเมื่อวานนี้มีข่าวว่า สมเด็จฯฮุนเซน จะยึดที่ดินคืน หากไม่ยอมกลับบ้านของตนเอง ทำให้ชาวกัมพูชาที่ทราบคาดว่าที่ทราบข่าวแห่การเดินทางกลับเพิ่มมากขึ้นทันตาเห็น
บรรยากาศเช้านี้มีชาวกัมพูชาทยอยเดินทางกลับบ้านมากกว่าหมื่นคน จากการสังเกตด้วยสายตา โดยแต่ละคนขนข้าวของสัมภาระของตนเองกลับเป็นจำนวนมาก มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดทั้งประตูเล็ก และประตูใหญ่ เพื่ออำนวยความสะดวกเร่งระบายคนที่หนาแน่นหน้าด่าน
ส่วนบริเวณตลาดการค้าชายแดนบ้านแหลม ร้านค้าส่วนใหญ่เป็นของชาวกัมพูชายังคงปิดเงียบสนิท มีเพียงบางร้านที่เป็นของพ่อค้าชาวไทยยังคงเปิดอยู่เพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น
โดยฝั่งไทยยังคงปิดประตูใหญ่ ซึ่งเป็นประตูหลัก และเปิดเพียงช่องประตูเล็กให้เดินเข้าออกได้อย่างเดียว เป็นไปด้วยตามเวลาที่กำหนดไว้เปิด 09.00 น. และปิด 15.00 น.
ขณะที่นายกองเอก ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชาจันทบุรี ที่มาเฝ้าสังเกตการณ์ และมาร่วมจัดระเบียบ และดูแลแรงงานกัมพูชา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองทัพเรือ ตำรวจตระเวนชายแดน ตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ในครั้งนี้
นายกองเอกดร.รัฐวิทย์ เปิดเผยว่า ช่วงนี้แรงงานกัมพูชากลับเยอะมาก ก็ต้องฝากถึงทางกระทรวงแรงงานขอให้แม่น ตอนนี้แรงงานที่กลับไปแล้ว ประมาณ 200,000 กว่าคนเรื่องของภัยสงคราม เรื่องความกลัวมั่นคงในชีวิตเขาเนี่ย เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่าเขาอยู่ประเทศที่สอง เขาต้องการอยากกลับบ้าน วันนี้ได้ประเมินสถานการณ์แล้วกลับมากกว่า 200,000 คนแล้ว
ทั้งนี้อยากให้กระทรวงแรงงานรับรู้ด้วยว่าเป็นห่วงโซ่หลายๆ เรื่องอยากบอกกับสภาความมั่นคงแห่งชาติว่าอะไรที่ประสานในเรื่องของสิ่งที่สันติแล้ว อะไรที่เป็นเรื่องของการดำเนินการที่ให้พี่น้องประชาชนอยู่ได้ให้รีบดำเนินการ สถานการณ์คนในเมืองกับสถานการณ์คนที่อยู่ตามแนวชายแดนคนละอย่างกัน ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้าใจในบริบทในเรื่องของการอำนวยความสะดวก ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์ที่มีการรบกันเราก็ต้องรีบที่จะกลับบ้านเป็นเรื่องปกติ ต้องบอกกับกระทรวงแรงงานว่าแรงงานกลับไปไม่ใช่น้อย ที่บอกว่ากลับไป 20,000 คนอันนี้ไม่ถูก เขาจะกลับเรื่อยๆ เพราะเป็นเหมือนห่วงโซ่ เพราะว่าทางพ่อแม่เขาก็โทรเร่งให้รีบกลับ รวมถึงครอบครัวแต่คนที่กลับไปแล้วตอนนี้รู้แล้วว่าไม่มีอะไรทำ และอยากออกกลับมามาก
คอนเทนต์แนะนำ
Advertisement
