วันที่ 4 ส.ค. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณีพบโดรนตรวจการณ์ในหลายพื้นที่ ซึ่งล่าสุดของทัพบกมีการยืนยันว่าเป็นโดรน ที่พบในจังหวัดสุรินทร์ของไทย จึงทำให้ประชาชนมีความกังวลและสับสน ว่า ขณะนี้ มีปะปนกันแต่ที่พบจำนวนมากคือเป็นของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเราได้ทำการบันทึกไว้ทั้งหมด และกองทัพภาคที่2ก็มีการรายงานเข้ามาตลอด มีภาพและพิกัดที่บินล้ำพื้นที่เข้ามา โดยวันนี้จะนำ เรื่องนี้เข้าที่ประชุม ศบ.ทก.ด้วย ขณะเดียวกันยังพบว่ามีคนไทยบางส่วนที่บินโดรน ที่ไม่ทราบวัตถุประสงค์ว่า ทำเพราะอะไรเพราะปัจจุบัน กสทช. ก็มีการห้ามบินโดนทั่วประเทศอยู่แล้ว
นอกจากนี้ยังมีกรณีที่พล.อ.หญิง มาลี โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงข่าวระบุว่ามีโดรนจากไทยบินล้ำเข้าไปในพื้นที่กัมพูชา ตนมั่นใจว่าเป็นการเห็นโดรนของฝั่งกัมพูชาที่บินกลับจากการตรวจการฝั่งไทย ซึ่งเป็นโดรนของเขาเอง ซึ่งแสดงถึงวุฒิภาวะเมื่อเขาพูดเองก็เสียเอง
ส่วนฐานบินของโดรนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าหากบินมาจากฝั่งกัมพูชาจะต้องถูกสกัดที่ชายแดน หรือมีฐานบินในประเทศนั้น ขออนุญาตไม่พูดถึงรายละเอียดเพราะขณะนี้ได้มอบให้กับกองทัพอากาศดำเนินการอยู่
ส่วนการประเมินสถานการณ์ขณะนี้ถือว่าเปราะบางหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า เปราะบาง และเปราะบางจากข่าวปลอม อย่างเหตุการณ์ที่มีการเผยแพร่ข่าวว่าทหารไทยจะปฏิบัติการและขอให้ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งกองทัพก็ยืนยันกับตนว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งตนก็เข้าใจว่าฝ่ายกัมพูชาน่าจะทราบข่าวปลอมนี้เช่นเดียวกัน จึงนำมาตั้งเรื่องว่ามีการเตรียมการ กัมพูชาต้องเตรียมการเช่นเดียวกัน ดังนั้นสักวันนึงอาจจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน ทั้งที่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นจึงอยากฝากมวลชนทุกท่าน ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่าในยามนี้ พวกเราต้องรวมใจกันเป็นหนึ่งเพราะแค่ข่าวปลอมของกัมพูชา ก็ต้องนั่งแก้ปัญหากันทุกวันแล้ว แต่ยังมาเจอข่าวปลอมของพวกเราอีก ตรงนี้เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงหนักใจมาก
พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า เข้าใจดีว่าประชาชนเป็นห่วงไม่อยากช่วย แต่การช่วยกันในสถานการณ์นี้คืออยากให้ฟัง ศบ.ทก.เป็นหลัก แม้จะยอมรับว่าข่าวสารอาจจะช้าแต่ต้องตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อไม่ให้เสียเครดิตในนานาประเทศ ไม่เสียเครดิตกันเอง ศบ.ทก. พูดอะไรต้องใช่ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่พูดอะไรออกไปแล้วไม่ถูกต้องก็จะค่อยๆ ขาดความน่าเชื่อถือ.
ทั้งนี้สิ่งที่อยากขอสื่อมวลชนคือเมื่อมีการออกข่าวอะไรมาให้ตอบโต้ได้เลย เพราะสื่อไม่มีผลทางการ และหลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ ของรัฐในการออกชี้แจง ซึ่งการตอบโต้กลับไปจะเป็นการช่วยรัฐได้ ไม่ใช่ว่า มาลีพูดมา แล้วสื่อมาด่ากองทัพเลยว่าทำไมไม่ตอบโต้ และหากพูดไปก็จะขาดความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะหากเป็นการต่อปากต่อคำกับคนแบบนั้น
Advertisement