จากกรณี กองทัพบกได้รับแจ้งจากหน่วยในพื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษว่ายังมีทหารกัมพูชาใช้อาวุธประจำกายยิงเข้ามามายังฝั่งไทย เพื่อก่อกวนทหารไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ค. 68 โดยไม่สนข้อตกลงหยุดยิงร่วมกัน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 ก.ค. 68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อ่านแถลงการณ์กองทัพบกระบุว่า เรื่อง การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยกองทัพกัมพูชา
ตามที่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการประกาศหยุดยิง เพื่อยุติการปะทะทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 ก.ค. 2568 นั้น
กองทัพบกขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยได้ระงับการใช้กำลังทุกรูปแบบ และลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้งสองประเทศ
อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ในวันที่ 29 ถึง 30 ก.ค. 68 กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. พื้นที่ช่องคานม้า จังหวัดศรีสะเกษ ในวันที่ 29 ก.ค. 68 เวลา 21.30 น. กองทัพกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กยิงเข้าใส่แนวกำลังฝ่ายไทย เป็นเหตุให้เกิดการปะทะจนถึงเวลา 22.00 น,จึงยุติ
2. พื้นที่เขาพระวิหาร บริเวณภูมะเขือและห้วยตามาเรีย จ.ศรีสะเกษ ในวันที่ 29 ก.ค. 68 ตั้งแต่เวลา 22.00 น. กองทัพกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กยิงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับใช้อาวุธยิงสนับสนุนประเภทเครื่องยิงลูกระเบิด ฝ่ายไทยจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิตามหลักสากลในการตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง การยิงจากฝ่ายกัมพูชายังคงเกิดขึ้นเป็นระยะจนถึงช่วงเช้า วันที่ 30 ก.ค. 68
3. พื้นที่ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ในวันที่ 30 ก.ค. 68 เวลา 05.17 น. ตรวจพบการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชา เข้ามาในเขตแดนประเทศไทยอย่างชัดเจน
การกระทำของกองทัพกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง นับเป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่างสองประเทศ
กองทัพบกขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายไทยจะยังคงดำรงตนอยู่บนหลักแห่งความอดกลั้น สันติภาพ และมนุษยธรรมอย่างสูงสุด อย่างไรก็ดี หากมีการละเมิดต่อเนื่อง กองทัพบกจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยไม่ละเว้น
ทั้งนี้เหตุการณ์ปะทะเมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่มีรายงานผู้ได้รับการบาดเจ็บและปลอดภัยดี
จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
Advertisement