(25 ก.ค. 2568) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน พร้อมแกนนำคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เดินทางเข้าพบตัวแทนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อแจ้งเลื่อนการชุมนุมจากเดิมที่นัดหมายชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในวันอาทิตย์ที่ 28 ก.ค. นี้ ไปเป็นวันที่ 2 ส.ค. นี้
นายจตุพร เปิดเผยว่า สาเหตุที่เลื่อนการชุมนุมเนื่องจากสถานการณ์การปะทะกันบริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังคงตึงเครียดเชื่อว่าประชาชนยังคงติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รวมถึงกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารต้องเข้าไปดูแลพื้นที่ในจุดดังกล่าวเป็นจำนวนมากจึงเกิดความไม่สะดวกในการเข้ามาดูแลการชุมนุมและการเดินทางมาร่วมชุมนุมของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ จึงขอเลื่อนการชุมนุมดังกล่าวออกไปเป็นวันเสาร์หน้า คือวันที่ 2 ส.ค. แทน ทั้งนี้ยังเชิญชวนให้ประชาชนบริจาคสิ่งของหรือเงินเพื่อสนับสนุนการชุมนุมได้ที่พื้นที่ตั้งการชุมนุมของกลุ่มคปท. บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล
พร้อมทั้งยืนยันว่าการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในอาทิตย์หน้าไม่มีเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการขับไล่รัฐบาล แต่เป็นการเรียกร้องและประณามการรุกล้ำอธิปไตยของประเทศกัมพูชา ส่วนการเรียกร้องที่ผ่านมาที่เกี่ยวข้องกับการขับไล่รัฐบาลปล่อยให้เป็นหน้าที่ขององค์กรอิสระที่พิจารณาเรื่องราวต่างๆของนายกรัฐมนตรีอยู่ ทั้งนี้ในช่วง 1 สัปดาห์หลังจากนี้ จะมีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยกลุ่มคปท.ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เนื่องจากสถานการณ์การปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชาตามแนวชายแดน ปัจจุบันมีการเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น และมองว่าเวลานี้คนไทยควรรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว และเชื่อว่าคนไทยทุกคนทราบว่าต้นเหตุของปัญหาเกิดจากอะไร ส่วนจะเกี่ยวข้องกับ 2 ตระกูลหรือไม่ขอไม่ชี้นำ
ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายมองว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพลี่ยงพล้ำในการสื่อสารต่อเวทีโลก ซึ่งเป็นเหตุทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบ ส่วนตัวเชื่อว่าละคนมีภาระหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งตัวเองนั้นรู้จักกับ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เป็นอย่างดี ทราบว่าลักษณะการทำงานยังไม่รอบคอบ และอยู่ภายใต้การควบคุมสั่งการของบุคคลอื่น ซึ่งต่างกับการบริหารงานของกัมพูชาที่สั่งการแบบเบ็ดเสร็จด้วยคนเพียงคนเดียว
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมมองว่าเป็นปัญหาระหว่างประเทศ จึงต้องการที่จะรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวเพื่อส่งกำลังใจไปให้กับกองกำลังแนวหน้า
Advertisement