Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"ภูมิธรรม"​ ประณาม​ กัมพูชาเปิดฉากใช้ความรุนแรง ยังไม่ประกาศภาวะสงคราม

"ภูมิธรรม"​ ประณาม​ กัมพูชาเปิดฉากใช้ความรุนแรง ยังไม่ประกาศภาวะสงคราม

24 ก.ค. 68
17:47 น.
แชร์

"ภูมิธรรม"​ ประณาม​ กัมพูชาเปิดฉากใช้ความรุนแรง​ มี​เป้าไม่ชัด​ทำ ปชช.-​ทหารเสียชีวิตรวม​ 11 ราย​ ยัน​ ยังไม่ประกาศภาวะสงคราม​ ชี้ เป็นเพียงการปะทะกัน

นายภูมิ​ธรรม​ เวชย​ชัย​ รักษาราชการ​แทนนายกรัฐมนตรี​ แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงวาระพิเศษ​ ซึ่งเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษไปพร้อมกัน​ เนื่องมาจากเกิดเหตุปะทะที่ชายแดนไทย​ -​ กัมพูชา​ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา​ โดยเชิญเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มาร่วมประชุมด้วย ตามมาตรา 8 วรรค 2 ของกฤษฎีกาที่เสนอเรื่องเข้า ครม. เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องใช้ มติครม. รองรับ​ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้​

โดย นายภูมิธรรม ระบุว่า ได้รับรายงานจากหน่วยทหารที่เกี่ยวข้องถึงสถานการณ์​เป็นการยิงเข้ามาของทางกัมพูชาก่อน และเกิดเหตุบานปลาย​ จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันตั้งแต่ช่วงเช้ามีการใช้อาวุธในระดับต่างๆ สิ่งที่สำคัญคือการยิงของกัมพูชาใช้อาวุธหนักในการยิงเข้ามาเขตแดนของประเทศ​ โดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน​ ในเขตที่ไม่เกี่ยวข้อง เป็นเขตพลเรือน​ มีพลเรือนเสียชีวิตทั้งหมด 11 คน เป็นพลเรือน 10 คน​ เป็นทหาร 1 นาย​มีผู้บาดเจ็บ 28 คน 24 คนเป็นพลเรือน และ​4 คนเป็นทหาร

นาภูมิธรรม​ ยังกล่าว​ประณาม​ ว่ามีการใช้อาวุธหนักที่รุนแรง​ ไม่มีเป้าหมาย​ มีบางลูกยิงเข้ามายังสถานีบริการน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ​ และบางส่วนยิงเข้ากลางโรงพยาบาล ห่างจากพื้นที่โรงพยาบาล 3 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เราขอประณาม​ การใช้กำลังและดำเนินการโดยไม่ได้ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ต้องคำนึงถึงการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

นาย​ภูมิธรรม​ ยืนยันว่า​ สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นยังไม่ใช่การประกาศสงคราม แต่เป็นเรื่องการปะทะกัน​ เ​รายืนยันหลักการว่าต้องใช้สันติวิธีไม่ใช้ความรุนแรง​ และต้องพยายามพูดคุยพยายามแก้ไขปัญหา​ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะยั่วยุจากทางกัมพูชามาโดยตลอด เราป้องกันตัวเราเอง​ และป้องกันอธิปไตยของประเทศ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ​ และเรายอมไม่ได้ให้มีลักษณะที่จะบุกรุก หรือละเมิดอธิปไตยของไทย และทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการปกป้องตัวเอง​ และดูแลอธิปไตยของประเทศ

นาย​ภูมิธรรม​ ยังระบุอีกว่า​ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำอย่างน้อย 2 ครั้งติดต่อกันในเขตพื้นที่ที่มีการเดินลาดตระเวน​ ซึ่งเป็นพื้นที่เดินลาดตระเวนเก่าตามข้อตกลงเดิม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดปัญหา​ เมื่อก่อนนี้เราเดินลาดตระเวณ​กันตลอดไม่เคยมีปัญหา​ แต่มีการระเบิดขึ้นครั้งล่าสุดทำให้เราสูญเสีย เจ้าหน้าที่ทหารขาขาด เป็นเรื่องที่น่าเสียใจและเป็นเรื่องที่เราจำเป็นต้องแสดงความชัดเจนในเรื่องนี้

ขณะนี้ได้มีการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยทางกองทัพได้ดำเนินการในการปกป้องอธิปไตยในพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยกองทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับผิดชอบและขณะนี้ได้ให้อำนาจของทหารในการที่จะใช้มาตรการต่างๆ​ตามความจำเป็น พยายามยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศและสถานการณ์ฉุกเฉินอาจไม่มีเวลาที่มารอขออนุญาต​ สามารถดำเนินการได้ตามขอบเขตและแจ้งให้เราทราบโดยเร็ว

ขณะนี้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นพื้นที่ประมาณ 4 จังหวัด อุบลราชธานี​ ศรีสะเกษ​ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ เพราะฉะนั้นขณะนี้​ยังควบคุมอยู่ในพื้นที่ได้อยู่​ แต่ก็มีความระมัดระวังและป้องกันชายแดนเต็มที่​ ได้ให้กระทรวงมหาดไทยอพยพคนออกจากพื้นที่ให้ไกลกว่า 50 กิโลเมตร เพราะถือว่าเป็นระยะปลอดภัยที่สุด และได้สั่งการ​ให้มีการอพยพและดูแลประชาชน ดำเนินการในแต่ละพื้นที่​ ซึ่งมีแผนดำเนินการรองรับอยู่แล้ว

นาภูมิธรรม​ ยังกล่าวว่า มติที่ประชุมวันนี้ถือเป็น มติครม.ให้ดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด เยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งหมด​ ซึ่งมีกฎระเบียบที่วางไว้อยู่แล้ว​ ได้มอบหมายให้ดูชัดเจน​ และโรงเรียนขณะนี้มีการประกาศปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้วในรัศมีใกล้เคียงชายแดน เพื่อป้องกันการเกิดเหตุ​ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้มีการดำเนินการในการที่จะเปลี่ยนแปลงโรงพยาบาลอำเภอในบริเวณชายแดน​ ให้เป็นโรงพยาบาลสนามและอพยพคนไข้ที่บาดเจ็บทั้งหมดออกจากแนวชายแดน เกินกว่า 50 กิโลเมตร​ ซึ่งอยู่ในจุดที่ปลอดภัย ขณะที่มาตรการต่างประเทศได้ดำเนินการไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาโดยลดความดับระดับความสัมพันธ์ทางการทูต​ ทั้งเรียกทูตไทยกลับ​ และส่งทูตเขากลับไปยังประเทศเขา​ ซึ่งยังอยู่ในระดับนี้ ถือว่าเป็นระดับที่รุนแรงที่สุดในระดับการทูต

เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยในระดับของรัฐบาลของทั้งสองประเทศเพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลายหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้ต้องให้เรื่องยุติก่อน ถ้าแสดงความจริงใจต่อกันก็สามารถคุยกันได้ เรายังรู้สึกว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายรุกล้ำเข้ามาเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นก็จะต้องดำเนินการไปตามครรลอง

ส่วนงบฉุกเฉิน ในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ทางจังหวัดสามารถดำเนินการได้เลยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า มีมาตรการอยู่แล้ว ในส่วนของกองทุนที่มีอยู่

ทั้งนี้ในที่ประชุมได้รับการรายงานหรือไม่สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นในฝั่งของทางกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า สมเด็จฮุนเซน เดินทางออกจากประเทศกัมพูชาแล้ว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ทราบเพราะไม่ได้ติดตามเรื่องนั้น สนใจแค่เรื่องคนในประเทศมากกว่า และเหตุการณ์ที่ปะทะกันเกิดขึ้นและบานปลาย ซึ่งคำนึงถึงชีวิตของทหารไทย และประชาชน

ขณะที่ทางกัมพูชาได้มีการส่งหนังสือถึง องค์การสหประชาชาติแล้ว ทางไทยจะมีการดำเนินการอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พูดคุยกับเลขาธิการองค์การสหประชาชาติแล้ว รวมถึงได้พูดคุยกับเลขาของสภาความมั่นคงของสหประชาชาติ ซึ่งขณะนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อยู่ที่ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้มีการพูดคุยและประสานงานกันตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้ใช้มาตรการต่างๆ เล่าสถานการณ์ให้ฟังพร้อมทั้งชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศจะมีการแถลงอีกครั้ง

นายภูมิธรรม ย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้ปกปิดอะไร แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และยืนยันว่าโดยหลักการ ที่เกี่ยวข้องกับอธิปไตยของประเทศไทย และการบุกเข้ามาในประเทศไทย เรามีหลักฐานแน่น และรัฐบาลไทยก็ได้แสดงออกไปอย่างชัดเจน ในหลายเรื่องอยากขอร้องว่า เรื่องของยุทธการที่ไม่สามารถพูดได้ เพื่อไม่ให้เกิดการเพลี่ยงพล้ำ หรือเสียเปรียบในยุทธการ

เมื่อถามว่า ทางกองทัพได้ขีดเส้นว่าจะยุติปฏิบัติการ ได้เมื่อไหร่ นายภูมิธรรมระบุว่าจนกว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ และมีข้อยุติที่เพียงพอ

ส่วนรัฐบาลไทยได้รับการติดต่อจากทางฝั่งกัมพูชา ว่ามีสัญญาณหรือแนวโน้มที่จะยุติการปะทะหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนได้ยินทางโซเชียลมีเดีย ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน จริงหรือไม่จริงก็ไม่ทราบ ส่วนฝ่ายไทยจะมีวิธีการเจรจาอย่างไรนั้นไม่สามารถพูดได้ เป็นเรื่องของวิธีการ เขาต้องยุติความรุนแรง และสิ่งที่สำคัญ คือเรื่องของข่าวลือ และต้องระมัดระวังเรื่องของข่าวที่ไม่ชัดเจน เพราะทำให้เกิดความรุนแรง ที่อาจจะรุนแรงมากไปกว่านี้ ยืนยันว่าทางกองทัพสามารถ ดูแลและปกป้องประเทศได้ เพราะมีความพร้อมทุกอย่าง แต่หากสถานการณ์บานปลาย สิ่งที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทางนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลทรัพย์สินของประชาชนที่อพยพออกมาจากพื้นที่แล้ว

เมื่อถามว่าถ้ากัมพูชาแรงมาเราจะแรงกลับใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การตอบโต้จะดูตามสถานการณ์ โดยไม่ให้อธิปไตยของไทยเสียหาย ไม่อยากให้ถามว่าเราจะต้องรุนแรงกลับไปหรือไม่ เพราะการพูดไม่ดีเท่ากับการทำ เพราะหากพูดไปจะมีแต่ยั่วยุ เพราะการทำที่ดีจะสามารถแก้ปัญหาได้

ส่วนจะต้องดึงองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาเจรจาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยัง ระหว่างนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ และแจ้งให้องค์การระหว่างประเทศให้ทราบเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าเราต้องการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทยไม่ให้ถูกรุกราน

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยึดหลักที่จะไม่ยอมเสียอธิปไตยและเราจะปกป้องตัวเองอย่างเต็มที่ และรัฐบาลจะดูแลประชาชน อย่างเต็มที่และจะทำทุกอย่างเท่าที่เงื่อนไขเราทำได้อย่างสุดความสามารถ

ส่วนจะมีการจัดการ แรงงานกัมพูชาในไทยอย่างไรบ้างนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้เอาเรื่องสงครามก่อน ผู้สื่อข่าวจึงกล่าวแย้งว่า ไหนบอกว่าไม่ใช่ภาวะสงคราม ทำให้นายภูมิธรรมหันกลับมาตอบว่า ถึงมันเป็นแบบนี้เราก็ไม่อยากให้มันเกิดไง ไม่อยากให้มันมีความรุนแรงเกิดขึ้น ขอให้เอาเรื่องนี้ก่อน

Advertisement

แชร์
"ภูมิธรรม"​ ประณาม​ กัมพูชาเปิดฉากใช้ความรุนแรง ยังไม่ประกาศภาวะสงคราม