นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฎิบัติหน้าที่ แต่นายทักษิณ ชินวัตร มีความเคลื่อนไหว จนอาจถูกมองว่าครอบงำนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่เกี่ยวกัน คนละคนกัน นายทักษิณ เป็นผู้เชี่ยวชาญผู้รู้หลายเรื่อง การรับฟังความเห็นที่ดี ในการที่จะนำไปแก้ไขปัญหา ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
อย่างกรณีที่ นายทักษิณ เข้าบ้านพิษณุโลกเพื่อร่วมประชุมทีมไทยแลนด์ เจรจาภาษีสหรัฐ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ก.ค. 2568) ต้องยอมรับว่านายทักษิณนั่นเก่งเรื่องล็อบบี้ยิสต์ การฟังหลายเรื่องก็เป็นประโยชน์ และนายทักษิณ ก็เคยทำ ธุรกิจและรู้จักใกล้ชิดกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ฉะนั้นการได้ฟังแง่มุมต่างๆก็เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ไม่ควรจะต้องมาคอยจับผิดกัน เพราะเป็นเรื่องผลประโยชน์ภาพใหญ่
เมื่อถามว่ามีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ ที่ระหว่างนี้รัฐบาลจะให้ นายทักษิณ เจรจาตรงกับ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายภูมิธรรม กล่าวว่าต้องรอดูสถานการณ์ว่าขนาดไหนเหมาะสม แต่ในการทำงานไม่จำเป็นต้องตั้งก็ได้ ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีก็เป็นประโยชน์ ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องตั้งเป็นตัวแทนเนื่องจากนายทักษิณเองก็มีข้อจำกัดในหลายๆ เรื่อง
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าทางสหรัฐอเมริกากดดันไทยแสดงความชัดเจนขั้นสูงสุด ยกระดับในเรื่องการทหารและความมั่นคงระหว่างประเทศ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า คุยทุกเรื่องและหลายเรื่อง ฉะนั้น แต่ละประเทศที่ผู้นำสหรัฐได้เลือกเงื่อนไขในการเจรจาก็แตกต่างกันไป ซึ่งไทยก็มีในทุกกรณี อย่างสมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็มีเรื่องความมั่นคง โดยตนได้ยืนยันหลัก ที่จะต้องดูแลอธิปไตยของประเทศ และความเหมาะสมถูกต้องที่ควรจะเป็น
เมื่อถามย้ำว่าเหมือนทางสหรัฐฯต้องการให้ไทยเลือกข้างชัดเจน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ค่อยชอบฟังข่าวขอเอาเนื้อจริงมาพูดคุยกัน เพราะหลายเรื่องที่พูดคุยกันตนไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเป็นเรื่องความมั่นคง
Advertisement