(9 ก.ค. 2568) ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ออกมาแฉว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน แสดงท่าทีไม่พอใจต่อนโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาล และมีการเตือนถึง 3 ครั้ง ในตอนที่ไทยเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ ว่า ไม่ได้แฉ แฉที่ไหน
เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า เป็นเพราะนักท่องเที่ยวไม่เชื่อมั่นเรื่องปลอดภัยในช่วงที่ผ่านมาที่ต้องดูแลโดยกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า หลายๆ เรื่องประกอบกัน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยไม่ได้ดูตำรวจ และตำรวจท่องเที่ยวก็ไม่ได้ขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในสมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ได้รับการกำชับ ว่าจะต้องอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวให้มากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยและความเป็นธรรมทุกๆ อย่าง
ส่วน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การที่ออกมาโพสต์ข้อความแบบนี้เป็นการใส่สีตีไข่มากเกินไป นายอนุทิน กล่าวว่าไม่มี ตนไม่เคยใส่สีตีไข่ มีแต่เรื่องที่เป็นข้อเท็จจริง แล้วจริงๆ ที่ตนเขียนเพื่อเป็นกำลังใจให้รัฐบาลถอนร่างพระราชบัญญัติการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หรือ พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไป โดยเป็นการถอนแล้วถอนเลย ไม่ใช่ถอนแล้วนำกลับมาใหม่ ถ้าจะพิจารณาก็ให้พิจารณาวันนี้เลย ซึ่งท่าทีของพรรคภูมิใจไทยเป็นแบบนี้มาตลอด
เมื่อถามว่าต้องฟังเหตุผลของรัฐบาลในการถอนกฎหมายดังกล่าวออกไปก่อนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในเมื่อร่างกฎหมายเข้ามาแล้ว ถ้าคิดว่าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ เลื่อนจากลำดับท้ายสุดมาเป็นลำดับแรก ถ้ามั่นใจก็พิจารณาร่วมกันไปเลย ผลออกมาเป็นอย่างไรก็เป็นแบบนั้น
ส่วนเหตุใดจึงมีการเปิดเผยในสาระสำคัญที่ผู้นำทั้ง 2 ประเทศได้พูดคุยกัน นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้เปิดเผย แค่จะบอกว่าถ้าวันนี้รัฐบาลจะถอนร่างกฎหมายดังกล่าว จะต้องแถลงว่าถอนและยกเลิกนโยบายนี้ไปเลย พรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมที่จะโหวตช่วยสนับสนุนให้การถอนญัตตินี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
"พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ไม่เห็นด้วย กับสถานบันเทิงครบวงจร เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับในส่วนที่เป็นกาสิโนเท่านั้น ถ้าสถานบันเทิงครบวงจรยังจะเดินต่อไปก็ยินดี ที่จะให้การสนับสนุน ต่อให้เป็นฝ่ายค้านก็จะสนับสนุน" นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่ามีการพาดพิงว่า ก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทย ยกมือให้กฎหมายฉบับนี้เป็นเพราะอยากได้เก้าอี้รัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ถ้าอยากได้เก้าอี้รัฐมนตรี เราก็คงไม่ถอนตัว เราอยากทำงานในฐานะที่เป็นรัฐบาล และในฐานะผู้บริหารราชการแผ่นดิน แต่ข้อตกลงที่เราได้มีกันไว้ มีการผิดข้อตกลงเราก็ออกมา เพราะฉะนั้นคำว่าอยากต้องไม่พูดแล้ว ถ้าอยากป่านนี้ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว
Advertisement