เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2568 ที่ อ.อรัญประเทศ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีนายทอม เครือโสภณ ออกมาขอโทษหลังเปิดเผยว่า นายรังสิมันต์ และ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน ไปกินข้าวกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่า การที่ตนไปกินข้าวนั้น ในฐานะ สส.ที่ติดตามเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็อยากจะพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้เกิดความเข้าใจ รวมทั้งข้อมูลเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหา และปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
"ผมไม่ได้รับมอบหมายจากคุณณัฐพงษ์ว่า รังสิมันต์ไปคุยหน่อย ส่งไอซ์ รักชนก ไปคุยด้วย เพื่อที่จะจัดตั้งดีลร่วมกันด้วย ผมว่ามันไม่เมคเซนส์ตั้งแต่คำพูดนี้แล้ว เพราะฉะนั้นยืนยันว่า ไม่ได้มีดีลอะไร ทั้งทางผม และคุณอนุทิน และโดยภารกิจผมคุณไอซ์ เป็นภารกิจเชิงรุกมากกว่า ส่วนเรื่องการกินข้าวบางคนถามว่า แล้วมันจะมี คุยเรื่องอื่นบ้างไหมนอกจากคอลเซ็นเตอร์ ก็พูดตามตรงก็มีการพูดคุยเรื่องการเมือง ผมก็ถามคุณอนุทินว่า การร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยในช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง มันคงมีการพูดคุยอยู่แล้ว แต่ผมขอยืนยันกับสื่อมวลชน ในสาระสำคัญและวัตถุประสงค์ ที่มีการพูดคุยกัน เป็นเรื่องของคอลเซ็นเตอร์เป็นหลัก" นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หากถามว่าทำไมถึงต้อง ไปพูดคุยผ่านนายทอม นั้น เริ่มต้นจากการที่ตนต้องการข้อมูลเพย์เมนต์ เกตเวย์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งจุดเริ่มต้นมันเริ่มจากจุดนั้น เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้มีการคุยในลักษณะ ของดีลลับอะไรเลย ซึ่งตนอยากจะรู้ด้วยซ้ำว่าทำไมดูเหมือนมีกลุ่มการเมืองดูร้อนกับเรื่องนี้ และมีความพยายามในการโจมตีพรรคประชาชนอย่างมาก ซึ่งการพูดคุยนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องของข้อตกลงอะไรได้ เพราะขณะที่คุยนายอนุทินพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับนายอนุทิน หลังจากเกิดเรื่องแล้วหรือไม่ นางรังสิมันต์ กล่าวว่า นายอนุทินตอนนี้เป็นฝ่ายค้านร่วมกันแล้ว ยิ่งไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่จะมีการพูดคุยกัน ส่วนนายทอม มีการส่งข้อความมาหา และพยายามที่จะชี้แจง ซึ่งก็ตรงกับที่มีการเปิดเผยผ่านคลิปวิดีโอ ไม่ได้มีอะไรที่เป็นสาระสำคัญ และตนยังได้บอกกับนายทอมด้วยว่า เรื่องนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องชี้แจงให้สิ้นสงสัย จะได้เกิดความสบายใจทุกฝ่าย
ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่าไม่ได้กังวลอะไร สิ่งที่เราชี้แจงตามข้อเท็จจริง เป็นสิ่งที่สังคมมองออก ส่วนความกังวล จากกลุ่มพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ประชาชนคงประเมินเองจากหลักการที่พรรคประชาชนออกมาแถลงจุดยืนและทางออกเพื่อฝ่าทางตัน เรายืนยันว่าการเมืองไทยไม่เคยถึงทางตัน ยกเว้นแต่มีบางคนพยายามดันไปให้ถึงทางตันเท่านั้น ข้อเสนอที่เรายืนอยู่บนหลักการโดยที่ไม่อิงว่าจะไม่ไปรวมกับพรรคใดพรรคหนึ่ง ทำไมถึงถูกนำไปบิดเบือนและสร้างจ้อกังวลใจให้กับกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม ต้องยกให้ประชาชนเป็นคนตัดสินแทน
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่าฝันกลางวันที่คิดถึงนายกฯ ชั่วคราว นายณัฐพงษ์ ระบุว่านายกฯ ชั่วคราว เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตประวัติศาสตร์การเมืองไทย ประเมินแต่ข้อเสนอเราเสนอไปล่วงหน้า เพราะเราประเมินฉากทัศน์ ซึ่งแน่นอนว่ายังไม่ถึงเพราะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ยังไม่พ้นจากตำแหน่ง แต่ที่พรรคประชาชนต้องออกมานำเสนอเพราะบริบทสังคมเริ่มคิดไปต่างๆ นานา ตนคิดว่าการขาดความน่าเชื่อถือของน.ส.แพทองธาร ทำให้คนไทยไม่แน่ใจว่าอนาคตของประเทศจะเป็นอย่างไร
เราจึงตั้งคำถามว่ารัฐบาลในอนาคตจะมีหน้าตาอย่างไร หน้าที่ของพรรคประชาชนคือออกมายืนยันว่าการเมืองในระบบรัฐสภามีทางไปเสมอ จังหวะตอนนี้เราเสนอในรายละเอียดได้เท่านี้ เป็นจังหวะที่เหมาะสมแล้ว ไม่สามารถลงรายละเอียดได้มากกว่านี้เพราะสถานการณ์ยังไม่ถึงจุดนั้น
Advertisement