วันที่ 4 ก.ค.68 นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์การใช้ภาษาไทยที่ไม่ถูกต้อง ในโซเชียล ว่า ขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งมีการสะกดของตัวเอง อาจมีความผิดพลาดในเรื่องของไมค์ในการพูด ซึ่งเมื่อโพสต์ไปแล้วผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มารู้ตัวอีกที มันเป็นความผิดพลาดซึ่งตนขอยอมรับด้วยความจริงใจ และสิ่งที่จำเป็นต้องทำคือการปรับปรุง และหลังจากนี้ความผิดพลาดเรื่องเหล่านี้จะไม่ ซึ่งตนอยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชนของประเทศเหมือนกัน
นอกจากนี้ในเรื่องของการออกเสียงควบกล้ำ เป็นปัญหาด้านสุขภาพของตน ซึ่งเป็นส่วนที่อยากจะพยายามทำให้ดีที่สุด ขณะที่บทบาทด้านกระทรวงศึกษาธิการที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งยังไม่มีมีการคุยในรายละเอียดอย่างชัดเจน โดยจะมีการเข้าทำงานที่กระทรวงในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้
หากใครได้ติดตาม จะพบว่าตนพูดเรื่องการศึกษา ในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาตลอด ตั้งแต่ต
อนเป็นโฆษกพรรคเพื่อไทยในการเรียกร้องลดค่าใช้จ่าย TCAS ให้กับเด็กๆ และการทำโครงการที่อยากให้เด็กไทยดีขึ้นในเรื่องของสุขภาวะจิต ซึ่งอาจเป็นโครงการที่จะนำกลับมาสานต่อในการเยียวยาใจครูฟื้นฟูใจเด็ก ทั้งนี้อยากให้สังคมมองตนในเรื่องความผิดพลาดและการออกมายอมรับ แต่อยากให้มองเรื่องการทำงาน การกำหนดนโยบายที่ทำในฐานะฝ่ายบริหาร ซึ่งอยากมองทำเนื้องานตรงนี้อย่างเต็มที่ เพราะตนทำอย่างตั้งใจ เพราะครอบครัว ครูบาอาจารย์ พ่อแม่น้า อา ป้า เป็นครูทั้งหมด และตนก็เคยเป็นอดีตอาจารย์ ฉะนั้นตนเชื่อว่าปัญหาของข้าราชการครูได้รับทราบมาในระดับหนึ่ง ซึ่งจะได้เห็นว่าสามารถทำอะไรได้ โดยต้องหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการก่อน
เมื่อถามย้ำว่าที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าในฐานะที่เคยเป็นอาจารย์มาก่อนแต่มีความผิดพลาดด้านการใช้ภาษาในโซเชียลนั้น นางสาาลิณธิภรณ์ กล่าวว่า การเป็นอาจารย์มาก่อน ก็มีความผิดพลาดได้ เหมือนกับเรื่องความรู้ของคนเป็นอาจารย์มาก่อนก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง ซึ่งส่วนตัวยอมรับความผิดพลาดเรื่องการสะกดคำ ซึ่งอาจไม่ถูกต้องตามอักขระ ตามหลักเกณฑ์ บางครั้งใช้ความรวดเร็วโดยไม่ได้ตรวจสอบ ซึ่งก็เกิดผลเสียอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ในวันนี้ และตนน้อมรับเรื่องเหล่านั้น แต่เมื่อตนน้อมรับแล้วพร้อมที่จะแก้ไข เพราะตนมาอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ก็อยากให้เด็กและเยาวชนเดินในทางที่ถูก จึงขอย้ำว่าจะไม่มีความผิดพลาดในเรื่องเหล่านี้อีก ถ้าหากจะบอกว่าคนเป็นครูบาอาจารย์ผิดไม่ได้เลย คงเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่จริง ซึ่งต้องบอกว่า เมื่อผิดแล้วรู้ว่าผิดจะแก้ไขหรือไม่ วันนี้ตนรับแล้วทั้ง 2 ข้อ ว่าผิดแล้วแก้ไขให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนรับปากได้ในวันนี้.
Advertisement