แถลงการณ์ม็อบรักชาติ จี้นายกฯลาออก-พรรคร่วมถอนตัว ขอยืนเคียงข้างทหาร
ม็อบรักชาติ ออกแถลงการณ์จี้นายกฯลาออก-พรรคร่วมถอนตัว ซัดหมดความชอบธรรม พร้อมขอยืนเคียงข้างทหาร
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. 68 ที่เวทีการชุมนุมของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กทม. เพื่อเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บรรยากาศการชุมนุมตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา ประชาชนเริ่มทยอยเข้าพื้นที่อย่างคับคั่ งยิ่งดึกผู้ชุมนุมยิ่งเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้อง ปิดการจราจรบริเวณโดยอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยกิจกรรมในช่วงเย็นที่ผ่านมาเป็นไปอย่างคึกคัก มีแกนนำผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ปกป้อง ด้วยการร้องเพลงชาติร่วมกันของกลุ่มผู้ชุมนุม ก่อนที่จะร่วมกันร้องเพลงชาติไทยพร้อมกัน
ทั้งนี้ภายหลังแกนนำ และผู้ชุมนุมร่วมกันร้องเพลงชาติพร้อมกันเรียบร้อยแล้วนั้น
นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา แกนนำคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ของ คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย ตอนหนึ่งว่า
สถานการณ์การเมืองการปกครองของไทยนับตั้งแต่ พ.ศ. 2475 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนับเป็นระยะเวลา 93 ปี บัดนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าบรรดาฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง การแต่งตั้ง การรัฐประหาร หรือการเลือกกันเอง มิได้มีเจตนารมย์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย มิได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนอย่างแท้จริง จนก่อเกิดวิกฤต ด้านการเมือง เศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม ความมั่นคงดุล สัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านคุณธรรมจริยธรรม และสังคมอย่างกว้างขวางลึกและรุนแรง
เหตุมาจากการที่มีผู้นำไม่นำพา ไม่นับถือยำเกรงกฎหมาย กฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ทุจริตฉ้อฉลบิดเบือนอำนาจ ขาดความตระหนักสำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติ และประชาชน จนทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นผล ให้ความสำคัญกับรูปแบบ และวิธีการยิ่งกว่าหลักการพื้นฐานในระบบประชาธิปไตย
นอกจากนี้ยังมีกระบวนการ ประกอบด้วย กลุ่มบุคคลจากฝ่ายการเมือง ฝ่ายทุนผูกขาดเหนือตลาดเหนือรัฐ เหนือฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่องค์กรอิสระ องค์กรตรวจสอบ รวมถึงบุคคลที่อาศัยตำแหน่งอำนาจหน้าที่ แอบอ้างร่วมกันทำ ร่วมกันทำลายรัฐธรรมนูญ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรมจริยธรรม และเอกราชอำนาจอธิปไตยของประเทศชาติ และประชาชน ใช้อำนาจปกครองบ้านเมืองตามอำเภอใจ
ทั้งรัฐบาลยังอยู่ภายใต้การบงการ การสั่งการตามครอบงำจากต่างชาติ พฤติกรรมที่กล่าวมาเป็นพฤติกรรมที่ประจักษ์ชัดต่อสายตาคนไทยทั่วทั้งแผ่นดิน ปรากฏว่านายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐไม่นำพาต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังเป็นรูปธรรม ที่เลวร้ายที่สุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ไร้ความสามารถ ขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประพฤติผิดมาตรฐานจริยธรรม ออกนโยบายทำลายความมั่นคง ทำลายสถาบันหลักของชาติ กระทำการในลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ เข้าข่ายกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 ว่าด้วยความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ มีพฤติการณ์ตามที่เป็นข่าวสาธารณะในเชิงสมคบคิด และแสดงออกซึ่งเจตนาในการใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางตอบสนองต่อความต้องการของอริราชศัตรู ทั้งแสดงตัวตนด้วยคำพูด และการกระทำ ที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นฝ่ายเดียวกับอริราชศัตรูที่มีความมุ่งหมายรุกล้ำละเมิดอำนาจอธิปไตย ต้องการยึดครองแผ่นดินไทย รวมถึงทรัพยากรของชาติ
ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน และขัดต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่นายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันแม้ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ชัด และการยอมรับของนายกรัฐมนตรี บรรดาคณะรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาลยังคงสนับสนุน น.ส.แพทองธารทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป ไม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลจึงอาจถือได้ว่าเข้าร่วมกระทำการกับนายกรัฐมนตรี มีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ ดังนั้นเพื่อทำลงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยความมั่นคงและอำนาจอธิปไตยแห่งราชอาณาจักรไทยทาง เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวมให้ น.ส.แพทองธารชินวัตรลาออกทันที
และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที เพราะทั้งหมดนั้นหมดความชอบธรรมแล้ว ขอเรียกร้องเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยใช้อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ ร่วมมือร่วมใจสามัคคีลดเงื่อนไขความขัดแย้ง รวมกันเป็นพลังแผ่นดิน แสดงตนให้นายกรัฐมนตรีลาออกทันที พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที พร้อมทั้งเป็นขวัญกำลังใจยืนเคียงข้างทหาร ร่วมกันทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน และอำนาจอธิปไตยของชาติอย่างกล้าหาญมั่นคง และร่วมการปรึกษาหารือแนวทางแก้ไขปัญหาบ้านเมืองตามทิศทางการปกครองระบอบประชาธิปไตย และประเพณีการปกครองที่เหมาะสมกับสถานการณ์ และอัตลักษณ์ของสังคมไทย
โดยยึดถือหลักศีลธรรม หลักความสุจริต หลักสิทธิมนุษยชน หลักนิติธรรม และหลักธรรมาภิบาล เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนาจนเกิดเป็นความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และดุลสัมพันธ์ระหว่างประเทศสืบไป
Advertisement
