(26 มิ.ย. 2568) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นฝ่ายกฎหมายรัฐบาล ได้ตรวจสอบเรื่องคุณสมบัติว่าที่รัฐมนตรีหรือไม่ว่า ตามหลักเรื่องนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือ สลค. จะทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งจะมีแบบฟอร์มให้กรอกประวัติว่า มีคุณสมบัติอย่างไร โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดในแบบฟอร์มจะมีคำว่า "ไม่" เช่น ไม่เคย ไม่มี คุณสมบัติรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นบุคคลที่เป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีต้องมาดูในประเด็นนี้ เช่น ไม่เคยถูกศาลพิพากษาจำคุก
เมื่อถามว่า หากเป็นกรณีถูกแจ้งความ และมาเพิกถอนแจ้งความตอนหลัง จะได้หรือไม่ นายชูศักดิ์ ระบุว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาของดุลยพินิจ เพราะที่ผ่านมา มีปัญหาดังกล่าวสูง ซึ่งคุณสมบัติตามกฏหมายจริงๆ คือ "ต้องคำพิพากษา" ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยยกตัวอย่างว่า รัฐธรรมนูญมีความกำกวม จะมีความคิดอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องจริยธรรม และเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งทั้งสองเรื่องไม่มีมาตรมาวัด หากเป็นเพียงการ "ต้องคดี" ซึ่งหากดูแล้ว แสดงว่า ยังไม่ต้องห้ามอะไรเลย เพราะยังไม่มีคำพิพากษา
เมื่อถามว่า จุดตัดคุณสมบัติรัฐมนตรีจะหยุดอยู่ที่ตรงไหน เช่น ป.ป.ช. หรือไม่ เพราะคนสุดท้ายที่บุคคลที่ต้องตัดสินใจคือ นายกรัฐมนตรี นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จุดตัดเป็นเรื่องที่ต้องหาข้อยุติ ซึ่งปัจจุบันยังเป็นปัญหาคาราคาซังอยู่ โดยต้องใช้ดุลพินิจว่า มีความสมควรหรือไม่ และต้องดูว่า อะไรคือ จุดเสี่ยง เช่น เรื่องจริยธรรม โดยที่ต้องนำข้อเท็จจริงมาสู่การพิจารณา และใช้ดุลพินิจ เพราะที่ผ่านมาตนยืนยันมาตลอดว่า กฎหมายต้องมีความแน่นอนแต่ทีนี้ไม่ได้มีความแน่นอน
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีควรเสี่ยงหรือไม่ โดยเฉพาะคนที่มีคดีอยู่ใน ป.ป.ช. นายชูศักดิ์ ระบุว่า เรื่องถูกร้องเรียนใน ป.ป.ช. เรื่องนี้สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เคยตอบมาในเชิงว่า แม้ถูกร้องก็จริง แต่ยังไม่มีคำวินิจฉัย เมื่อยังไม่เป็นเช่นนั้น ก็ยังถือว่า เป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ซึ่งไม่ได้ชี้ว่า ขาดคุณสมบัติหรือไม่ ไม่ใช่เช่นนั้นก็ร้องกันไปมา ใครที่ถูกร้องก็เป็นรัฐมนตรีไม่ได้ ต้อง 8-10 ปี จนกว่าจะมีคำตัดสิน ก็แย่เหมือนกัน
เมื่อถามว่า เมื่อยังไม่มีความแน่นอนในเรื่องนี้ควรเสนอรายชื่อสำรองไปตรวจสอบด้วยหรือไม่ นายชูศักดิ์ ระบุว่า ถือเป็นทางปฏิบัติ เพราะยังไม่ได้ทูลเกล้าฯ สามารถทำได้
เมื่อถามว่า หากกระบวนการ ครม. ยังไม่แล้วเสร็จ ก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฎิบัติหน้าที่ รักษาการนายกรัฐมนตรีจะสามารถทำหน้าที่ทูลเกล้าฯ แทนได้หรือไม่ นายชูศักดิ์ มองว่า เป็นเรื่องข้อกฎหมายที่ต้องมาช่างน้ำหนัก วิเคราะห์ว่า ทำได้หรือไม่ เพราะลักษณะเช่นนี้ยังไม่เคยเกิด เพราะบางคนมองว่า การเสนอรายชื่อรัฐมนตรีเป็นเรื่องเฉพาะตัว ทำแทนไม่ได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องของมุมมองทางกฎหมาย แต่ยังไม่เกิดอย่าไปวิเคราะห์ดีกว่า ซึ่งตนยังไม่ได้มองไปไกลถึงขนาดที่ว่าศาลฯ จะรับหรือไม่รับ แต่สื่อมวลชนมองไปไกลแล้ว
Advertisement