ที่ทำเนียบ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ จะนัดวินิจฉัยประเด็นการทำประชามติเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญจำนวนกี่ครั้ง ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าต้องทำ 2 ครั้ง ก็หมายความว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย โดยมีสาระสำคัญที่มาของสสร. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน กระจายตามจำนวนประชากร และ พรรคประชาชน ที่ค้างอยู่ในรัฐสภา ก็สามารถเดินต่อไปได้เลย เพราะประธานรัฐสภา สั่งบรรจุวาระแล้ว และเดินหน้าต่อไปเลยจนถึงโหวตวาระ 3 ทั้งนี้ระหว่างการพิจารณาต้องดูเกณฑ์เรื่องเสียงของสว.ต้องเห็นชอบ 1 ใน3 ถึงจะสำเร็จได้ ดังนั้นเราต้องไปทำการบ้าน
เมื่อถามว่า ความคาดหวังของรัฐบาล หากศาลรัฐธรรมนูญบอกให้ทำ2 ครั้ง เป้าหมายอยากให้สำเร็จถึงขั้นตอนไหน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า มีอยู่เงื่อนไขหนึ่งว่าสว.จะเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งวันที่ 21 กค. ตนได้กระทู้เรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมวุฒิสภา และได้บอกขอความกรุณาว่าเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาก็ต้องช่วยกันหน่อย อย่างไรก็ตามหากเรื่องนี้ไปต่อได้ การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยไม่แตะหมวด 1 และ หมวด 2 โดยจะมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) และยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เข้าใจว่าอาจไม่ทันรัฐบาลชุดนี้
ดังนั้นตนจึงตั้งความหวังว่า แม้จะไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ตั้งสสร.ให้ได้ ดังนั้นประการแรก คือ สว. เห็นชอบ ประชามติครั้งแรกต้องผ่าน และจึงสามารถตั้งสสร.ได้ แม้จะมีการยุบสภาฯสสร.ก็ยังคงทำงานต่อได้ และเสนอรัฐธรรมนูญให้สภาฯชุดใหม่ดำเนินการต่อไปได้
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า แต่หากศาลรัฐธรรมนูญบอกต้องทำประชามติจำนวน 3 ครั้ง ก็หมายความว่าเราต้องเริ่มใหม่ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวทั้ง 2 ร่างใช้ไม่ได้ ต้องทำประชามติถามประชาชนก่อนว่าจะมีการให้แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับใหม่หรือไม่
Advertisement