วันที่ 24 มิ.ย. 68 Khmer Times สื่อภาษาอังกฤษของกัมพูชา รายงานว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ หลังจากที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยออกมาแถลงว่า กัมพูชาเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมระดับโลก ซึ่ง 40% ของ GDP กัมพูชามาจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ฝั่งกัมพูชาตอบโต้อย่างดุเดือดว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จที่บ่อนทำลายความร่วมมือในภูมิภาค หากรัฐบาลไทยมีข้อมูลจริงก็ควรเปิดเผยออกมาให้ประชาคมโลกเห็น เรื่องนี้ไม่ต่างอะไรจากการแสดงท่าทีทางการเมือง โดยใช้กัมพูชาเป็นแพะรับบาป เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาภายในของประเทศไทย
ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา กัมพูชาได้ดำเนินการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง โดยเฉพาะ ชาวต่างชาติ และอาชญากรรมข้ามพรมแดน มีผู้ถูกจับกุม หรือเนรเทศหลายพันคน เช่น จีน เวียดนาม และไทย
แถลงการณ์ของกัมพูชาอ้างว่า กลุ่มอาชญากรจำนวนมากที่ปฏิบัติการในกัมพูชานั้น ดำเนินการ หรือมีพนักงานเป็นคนไทย ผู้กระทำผิดบางส่วนที่ถูกจับกุมในกัมพูชาก็ถือหนังสือเดินทางไทย การค้ามนุษย์โดยลักลอบพาคนไทยเข้าไปในแหล่งกบดานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนหนึ่งก็เกิดจากการบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอภายในประเทศไทย ผู้ค้ามนุษย์และนายหน้ายังคงดำเนินการอย่างเปิดเผยบนสื่อสังคมออนไลน์
หากประเทศไทยจริงจังกับการยุติปัญหาแก๊งหลอกลวงก็ควรสะสางปัญหาภายในบ้านตนเองก่อน รวมถึงกลุ่มผู้มีอิทธิพล และเครือข่ายทุจริตภายในดินแดนของตนด้วย
และว่าคำพูดของนายกรัฐมนตรีแพทองธารอาจตอบสนองจุดประสงค์ทางการเมืองภายในประเทศ แต่กลับสร้างความเสียหายต่อความเป็นปึกแผ่นในภูมิภาคที่จำเป็นอย่างยิ่งในการต่อสู้กับอาชญากรรมที่เธออ้างว่าต่อต้าน ถึงเวลาแล้วที่จะต้องแทนที่การกล่าวหาด้วยความร่วมมือ และแทนที่วาทกรรมด้วยความรับผิดชอบ
Advertisement