วันที่ 22 ส.ค. 68 ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ชุณหเมธาทิพย์ รอง สว.สอบสวน สน.บางคอแหลม รับแจ้งพบร่างผู้เสียชีวิตลอยน้ำ เป็นชาย 1 ราย บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้เคียงท่าน้ำธนาคารกสิกรสำนักงานใหญ่ จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาสาสมัครได้รับแจ้งจากประชาชนผู้สัญจรทางน้ำผ่านมา เห็นว่ามีร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้เคียงท่าน้ำธนาคารกสิกรสำนักงานใหญ่ ถนนราษฎร์บูรณะ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร จึงรีบรุดจัดเตรียมเรือตรวจการทางน้ำตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อมาถึงบริเวณดังกล่าวจึงได้พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย แต่งกายภูมิฐาน สวมใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวลายตารางสีขาว กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนังสีดำ ลักษณะลอยน้ำคว่ำหน้า จึงทำการผูกลากจูงนำมาที่ท่าน้ำ สน.บางคอแหลม เพื่อให้แพทย์นิติเวชตรวจสอบเบื้องต้น และจากการตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตแล้วไม่พบเอกสารบัตรประชาชนติดตัว และไม่พบทรัพย์สินไดๆ ติดตัว และไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนดูจากสภาพศพแล้วคาดว่าน่าจะเสียชีวตมาแล้วประมาณ 3 วัน
และภายในวันเวลาใกล้เคียงกัน ร.ต.อ.คุณากร ศาศรี รอง สว.สอบสวน สน.บวรมงคล ได้รับแจ้งจากประชาน พบร่างผู้เสียชีวิตลอยน้ำอยู่บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้เคียงสะพานพระราม8 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ซึ่งจากการตรวจสอบผู้เสียชีวิตดังกล่าวพบเป็นหญิง 1 ราย การแต่งกายภูมิฐาน สวมใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวลายหลากสี กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ ในลักษณะลอยน้ำหงายหน้า เมื่อนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาตรวจสอบไม่พบเอกสารติดตัวและไม่พบทรัพย์สินติดตัวเช่นกัน ส่วนภายในร่างกายของผู้เสียชีวิตไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนสภาพศพคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน
ต่อมาไม่นานมีญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาดูร่างของผู้เสียชีวิตจึงยืนยันว่าเป็นญาติของตนเองที่กำลังตามหาอยู่ ต่อมาจึงทราบชื่อของผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ซึ่งผู้ชาย ชื่อนาย สมคิด (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ส่วนผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้หญิงชื่อ นาง ดารณี (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน
ซึ่งสืบเนื่องจากวันที่ 20 ส.ค. 68 ในช่วงเวลา 20.00 น. ทั้งคู่ได้เดินจูงมือกันไปบริเวณตรงกลางสะพานพระราม 7 แล้วเมื่อถึงบริเวณดังกล่าวก็จูงมือกันปีนข้ามราวกั้นขอบสะพาน และหลังจากนั้นก็กระโดดลงไปภายในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยกัน ซึ่งในตอนนั้นมีพลเมืองดีขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นพอดี แล้วเขาก็ได้เล่าว่าเหตุเกิดเวลาประมาณ 19.30 น. หลังจากตนเลิกงาน จังหวะที่ตนกำลังขับขี่รถผ่านมา พบ 2 สามีภรรยาปีนราวสะพาน และกอดเอวกันกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนจมหายไป ซึ่งไม่ได้มีการตะโกนร้องขอให้ช่วย เหมือนตั้งใจมากระโดด
จากนั้นตนจึงได้เดินไปแจ้ง รปภ.ให้โทรแจ้งตำรวจ ยืนยันว่าตนเห็นจริงๆ คาดว่าอายุประมาณ 40 ปี ผู้ชายสวมเสื้อสีขาว ใส่กางเกงขาสั้น ส่วนผู้หญิงใส่เสื้อสีชมพูลายดอก ตนเห็นแค่นั้น เพราะเป็นช่วงกำลังกอดเอวกันก่อนกระโดดลงไป
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสะพานได้โทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้ากู้ภัยทันที แล้วเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งก็มาถึงแล้วจัดทีมนักประดาน้ำจำนวน 5 นาย ลงค้นหาร่างของ 2 สามีภรรยาโดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลางมหาร่างกว่า 5 ชั่วโมง ยังไม่พบร่าง ก่อนจะยกเลิกการค้นหาเนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง ซึ่งเหตุการณ์ในขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดบนสะพานดังกล่าวจับภาพเอาไว้ได้ทั้งหมด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งสองสน. ต่างลงความเห็นว่าให้อาสาสมัครนำร่างของผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และเมื่อเเพทย์ทำการตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วจะให้ญาตินำเอกสารมารับร่างผู้เสียชีวิตกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนเรื่องปมเหตุดังของการตัดสินใจกระโดดสะพานจบชีวิตคู่กันของทั้งสองคนยังคงสรุปไม่ได้ว่าสาเหตุของการคิดสั้นครั้งนี้เกิดจากอะไร
Advertisement