ชาวบ้านมอง ฝูงห่านกินวัชพืชไม่ผ่านโปรแน่นอน แนะเทศบาลแก้ปัญหาให้ตรงจุด
ฟังอีกมุม! ชาวบ้านมอง ฝูงห่านกินวัชพืชไม่ผ่านโปรแน่นอน แนะเทศบาลแก้ปัญหาให้ตรงจุด ถึงจะกลายเป็นแลนด์มาร์ก แต่พื้นที่ในการเลี้ยงและผลลัพธ์ที่ได้ไม่คุ้ม
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่เทศบาลนครเชียงใหม่ โดยการนำของ นายอัศนีย์ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีฯ นำฝูงห่าน10ตัวมาปล่อยเลี้ยงไว้ในคูเมืองเชียงใหม่ด้านทิศใต้ เพื่อทดลองให้ฝูงห่านแก้ไขปัญหาน้ำเสีย โดยเป็นตัวที่จะมากำจัดวัชพืชจำพวกจอกแหนและสาหร่าย หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้น้ำเสีย โดยมีการทำกรงและจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาดูแลทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน เบื้องต้นจะทดลอง 1 สัปดาห์ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 2 แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แม้คืนที่ผ่านมาจะมีภาพของเจ้าหน้าที่เทศบาลไล่ต้อนฝูงห่านเพื่อให้เข้าเล้าที่จัดทำไว้ใกล้กับสะพานลอยข้ามคูเมือง จนฝูงห่านแตกฝูงวิ่งลงไปบนท้องถนนจนเกือบจะทำให้เกิดอุบัติเหตุทางจราจร อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังต้องลงทุนกระโดดลงน้ำเพื่อไล่ต้อนฝูงห่านให้เข้าเล้านานกว่า 1 ชั่วโมง จนมีการเผยแพร่ภาพทางโลกออนไลน์ และทำให้เกิดเสียงแตกออกเป็นสองฝั่ง คือ มองว่าพื้นที่และแนวความคิดดังกล่าวไม่เหมาะสม อาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนน และตัวห่านเอง อีกฝั่งมองว่าเป็นความน่ารักอาจจะกลายเป็นจุดดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยว และมองดูเป็นธรรมชาติดี
ซึ่งทางนายกเทศมนตรีเองยืนยันว่า จะเดินหน้าทดลองต่อไป และหากได้ผลจะขยายเพิ่มอีกหลายจุด แม้จะมีคนทักท้วงห่วงเรื่องของความปลอดภัย เพราะเป็นพื้นที่ใกล้กับการจราจรก็ตาม
ทั้งนี้ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของชาวบ้าน โดย นายหวัน ผู้ประกอบการรถโดยสารรับจ้างสี่ล้อแดง เผยว่า ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นห่านของใครนึกว่าเป็นของชาวบ้านหลุดออกมา แต่ก็มองว่าสวยงามน่ารักดี และวันนี้พอทราบข่าวว่าเป็นการนำมาทดลองเพื่อแก้ปัญหาน้ำในคูเมือง ก็มองว่าอาจจะได้ผล เพราะธรรมชาติของห่านจะกินไม่เลือกอยู่แล้ว แม้แต่หญ้าก็จะเล็มกินได้ ที่สำคัญที่ผ่านมาพบว่ามีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาถ่ายภาพกันคึกคัก ส่วนเรื่องของความปลอดภัยเชื่อว่า ห่านเป็นสัตว์ที่ขี้กลัวอยู่แล้วไม่น่าจะกล้าลงไปบนท้องถนน
ขณะที่ นายธีรวุฒิ แก้วฟอง อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ จากพรรคประชาชน ให้ความเห็นในฐานะประชาชนชาวเชียงใหม่คนหนึ่งมองว่า
"ว่าเป็นการทำมากได้น้อย เพราะว่าต้องมีการลงทุนซื้อห่าน 10 ตัว ทำคอกเลี้ยงและต้องใช้คนเฝ้าอยู่ตลอดเวลา เมื่อวานเห็นในโซเชียลพบว่ามีเจ้าหน้าที่ถึงสี่คนที่ต้องดูแลห่านทั้ง 10 ตัว หรือเป้าหมายเพียงเพื่อที่จะทำให้น้ำใสขึ้นเพื่อที่จะให้ห่านไปกินจอกแหนเป็นวิธีการบำบัดทางธรรมชาติ โดยตั้งเป้าว่าจะให้น้ำใสขึ้น มองว่าน่าจะเป็นการทำที่ไม่มีประสิทธิภาพมากนัก เพราะหากต้องใช้คนสี่คนในการดูแลห่าน แต่จะดีไหมถ้าเปลี่ยนพนักงานสี่คนนั้นให้ไปตักจอกแหนขึ้นมา จะมีประสิทธิภาพมากกว่าหรือไม่ ก็ให้พัฒนาปรับปรุงคุณภาพน้ำโดยวิธีอื่น เช่น การใช้สารเคมี หากมีความจำเป็น หรือการใช้สารอีเอ็ม โดยเฉพาะเรื่องของการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอบริเวณคูเมืองด้านประตูเชียงใหม่ ซึ่งอย่างที่เราทราบว่าเป็นโซนของตลาดร้านค้า และร้านอาหารมีบางส่วนที่จะทำให้เกิดน้ำเสียจากตลาด หรือสถานประกอบการ โดยเฉพาะน้ำที่มีส่วนผสมของผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจาน ซึ่งตรงนี้จะมีผลโดยตรงกับสิ่งมีชีวิตประเภทพืชหรือสาหร่ายในน้ำ เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วเพราะเป็นสารอาหาร
ส่วนเรื่องของสุขอนามัยมองว่า มันเป็นพื้นที่ที่ติดถนนก็เป็นห่วงว่าจะมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมหรือไม่กับการเลี้ยงห่าน เพราะเมื่อวานยังเห็นภาพของการต้อนห่านจนวิ่งลงไปบนท้องถนน ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้ แต่ในทางกลับกันก็ส่งผลดีต่อภาพของการท่องเที่ยว คือ กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ที่นักท่องเที่ยวและชาวเชียงใหม่ไปถ่ายรูปน้องห่าน กลายเป็นผลพลอยได้ที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของโครงการ ที่จะทำ
ซึ่งความเป็นจริงแล้วตัวห่านเองมีความน่ารัก แต่เราลืมจุดประสงค์แรกหลักในการที่จะนำมาทดลองใช้บำบัดน้ำเสีย ในส่วนตัวแล้วมองว่าน้องๆทั้ง 10 ตัวน่าจะสอบตกในเรื่องของการทำงานด้านการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งคอยดูว่าหลังจากนี้อีกประมาณ 10 วัน จะทำให้สภาพน้ำดีขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้กลับสอบผ่านในด้านของการเป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยว จึงควรจะไปอยู่ในส่วนที่เหมาะสมและปลอดภัยในจุดต่างๆ ของเทศบาล อย่างเช่น สวนสาธารณะหนองบวก หาดสวนหลวงล้านนา ซึ่งมีทั้งสระน้ำขนาดใหญ่และมีพื้นที่มีรั้วรอบขอบชิด ซึ่งก็จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างภูมิทัศน์ที่ดีให้กับคนที่ไปท่องเที่ยวและออกกำลังกาย ซึ่งห่านเองก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าริมถนน
มองว่ายังไงก็ตามทั้ง 10 ตัว ไม่ผ่านโปรในการฝึกงานอย่างแน่นอน เพราะเป็นการโฟกัสที่ผิดจุด เราไปโฟกัสกับสิ่งมีชีวิตที่ทำให้เมืองมีชีวิตชีวากลายเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ จนทำให้แนวคูเมืองเป็นจุดสนใจ แต่จริงๆ แล้ว ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์หลักของทางเทศบาลที่ต้องการ คือการบำบัดน้ำเสียเทศบาล ควรที่จะไปดำเนินการกับต้นตอของสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำเสียและแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด
ที่ผ่านมาการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องสภาพน้ำของคูเมืองนั้นมองว่า ทางเทศบาลเองยังต้องปรับปรุงแก้ไขในหลายจุด เพราะลักษณะของแต่ละโซนของคูเมืองนั้นมีความแตกต่างกัน เนื่องจากกิจกรรมบริเวณรอบคูเมืองแต่ละจุดมีความแตกต่างกัน อย่างเช่น กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจ จำพวกตลาดร้านอาหารแผงลอย มีความน่าเป็นห่วงที่อาจจะทำให้น้ำพื้นที่ดังกล่าวมีคุณภาพที่ไม่ดี เพราะน้ำเสียลงไป โดยเฉพาะฝั่งทางด้านทิศใต้ในโซนของคูเมืองใกล้กับประตูเชียงใหม่ ด้านนี้น้ำค่อนข้างจะนิ่งและยังมีโอกาสรับน้ำเสีย จึงทำให้วัชพืชและสาหร่ายสีเขียวเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ต่างจากคูเมืองด้านทิศเหนือ ซึ่งห่างจากร้านค้าร้านอาหารสถานประกอบการหรือตลาด และเป็นจุดที่รับน้ำเข้ามาสู่คูเมือง จึงทำให้น้ำมีการไหลเวียน คุณภาพน้ำจึงแตกต่างจากน้ำในคูเมืองทางด้านทิศใต้
จึงต้องเข้าใจสภาพของคูเมืองให้ได้ว่ามีความแตกต่างอย่างไร มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันอย่างไร ตรงไหนที่จะต้องระวังเป็นพิเศษ ตรงไหนที่จะวางใจได้ ยังต้องทำการบ้านอีกเยอะ ซึ่งจริงๆ แล้วเมืองเชียงใหม่มีผู้รู้อีกเยอะ ทั้งสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งภาคประชาชนเองก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้าไปช่วย ที่ทางเทศบาลนั้นจะเปิดใจหรือยินดีรับความช่วยเหลือดังกล่าวเพื่อไปพัฒนาบ้านเมืองต่อไป"
Advertisement
