(28 มิ.ย. 2568) ที่ห้องประชุมราชา โรงแรมรัตนโกสินทร์ คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธ์, นายนิติธร ล้ำเหลือ, นายพิชิต ไชยมงคล, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร่วมกันแถลงข่าวการจัดกิจกรรมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย. นี้ โดยจะเป็นการแถลงข่าวถึงความพร้อมในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้
นายพิชิต ไชยมงคล กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการแถลงข่าวครั้งที่ 2 หลังจากตัวแทนไก้ไปดูพื้นที่ที่จะจัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และประสานความร่วมมือกับตำรวจ กทม. และหน่วยงานพยาบาลต่างๆ เพื่อให้กิจกรรมในวันที่ 28 มิ.ย. นี้ เวลา 16.00-21.00 น. ซึ่งเป็นการรวมพลังแผ่นดินครั้งใหญ่ของประชาชนทั่วประเทศ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยง่านต่างๆ เป็นยังดี ยืนยันกิจกรรมยังเดินหน้า และขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกภาคส่วนเดินทางมาร่วมชุมนุมกัน
ส่วนในวันพฤหัสบดีที่ 26 มิ.ย. ขอเชิญชวนพี่น้องในต่างจังหวัด รวมพลังกันนำธงชาติไปโบกสะบัดร้องเพลงชาติพร้อมกันในสถานที่ที่นัดหมาย และเชิญชวนประชาชนในโซเชียลมีเดีย ร่วมกันติดแฮชแท็ก #28มิถุนามาแน่ และติดสัญลักษณ์ธงชาติที่รถยนต์ของตนเอง
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่วันนี้ ทางกลุ่มจะมีกิจกรรมต่อเนื่อง วันนี้ขอให้ประชาชนที่พร้อมจะมาร่วมชุมนุมในวันที่ 28 มิ.ย. นี้ ให้แสดงตัวด้วยการติดแฮชแท็ก #28มิถุนามาแน่ เพราะต้องการจะทราบจำนวนของประชาชนในทุกแพลตฟอร์ม และกูเกิ้ลเทรนด์จะบอกความต้องการของประชาชนได้
และกิจกรรมที่จะเหมือนเป็นการซ้อมใหญ่ แสดงพลังของประชาชนทั่วประเทศ คือในวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย. 2568) ให้แต่ละพื้นที่ รณณรงค์พี่น้องประชาชนในพื้นที่ของตัวเองด้วยการติดสัญลักษณ์ธงชาติไทย ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้าน หรือรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และในวันที่ 26 มิ.ย. ก็ให้ร่วมกันไปร้องเพลงชาติ
กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย ได้ประชุมและเห็นตรงกันว่า เพื่อแสดงพลังอันบริสุทธิ์ของประชาชน โดยยืนยันว่าไม่มีนายทุนหรือนักการเมืองหนุนหลัง จึงให้มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เป็นผู้เปิดรับบริจาคด้วยความโปร่งใส และให้มอบหมายผู้ตัดสินใจเบิกจ่ายเงิน 3 คน คือ ตน นายนิติธร ล้ำเหลือ นายแก้วสันต์ อติโพธิ ซึ่งตอนนี้มีพี่น้องประชาชนบริจาคเข้ามาแล้วหลังประกาศไป 1 วัน 2 ชั่วโมง รวมประมาณ 12,000 คน ได้ยอดเงิน 10 ล้านบาท
เน้นย้ำว่า นี่ไม่ใช่การหากินจากการชุมนุม แต่เป็นการวัดพลังใจของประชาชน ที่ต้องการแสดงให้เห็นว่าพวกเขารักชาติ รักแผ่นดิน ด้วยใจบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีขบวนการเตะตัดขา อ้างว่ามีการเตรียมสคริปต์ให้นายจตุพรด่าลุงตู่ ซึ่งยืนยันว่าเป็นเรื่องเท็จ สิ่งเดียวที่จะทำคือปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยจะชุมนุมอย่างโปร่งใส ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ
สำหรับเงินที่ได้รับบริจาค จะปิดรับบริจาคในวันที่ 28 มิ.ย. นี้ หากมีส่วนเกินจากค่าใช้จ่ายการชุมนุมจริง จะนำเงินส่วนเกินทั้งหมดไปสนับสนุนภารกิจของกองทัพภาคที่ 2 ทั้งหมด 100% หากกองทัพต้องการให้ซื้อสิ่งใดสามารถบอกได้ หรือจะรับมอบเป็นเงินสดก็ได้ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องทหารที่เป็นรั้วของชาติ
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ขณะนี้ มีบุคคลที่เป็นคนใหญ่คนโตไปสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดว่าถ้าประชาชนจังหวัดใดเดินทางมาร่วมกิจกรรมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จะมีการคาดโทษกัน ซึ่งเรื่องนี้อยากฝากไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่ถูกสั่งว่า ขอให้เคารพสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวหาโดยขบวนการ io พรรคเพื่อไทยว่า การชุมนุมครั้งนี้มีการไปจ้างประชาชนหัวละ 1 บาท ให้เข้ามาร่วมชุมนุม และเป็นการเรียกร้องให้ทำรัฐประหาร รวมถึงจะโจมตีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตนขอชี้แจงทุกประเด็นว่า คนที่หนุนหลังการชุมนุมครั้งนี้ ก็คือประชาชนทุกคนที่ได้ร่วมมาเป็นเจ้าภาพ และเงินบริจาคที่ได้รับมาก็จะใช้เพียงแค่วันเดียว ที่เหลือก็จะมอบให้กับกองทัพภาคที่ 2 ทั้งหมด
ส่วนประเด็นที่บอกว่าเป็นการเรียกร้องรัฐประหาร ยืนยันว่าการจัดกิจกรรมในชุมนุมครั้งนี้ มีเป้าหมายคือให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และปกป้องอธิปไตยไทย ไม่เกี่ยวข้องกับการอยากให้ทำรัฐประหาร
ส่วนคนที่ปล่อยข่าวว่าการปราศรัยจะเป็นการโจมตีพลเอกประยุทธ์ ก็คือกลุ่มคนที่บอกว่ารักบิ๊กตู่แต่ไปอยู่กับนางสาวแพทองธาร ซึ่งขบวนการเหล่านี้พยายามจะปั่นข่าวเพื่อหยุดยั้งประชาชน โดยเฉพาะประชาชนภาคใต้ที่กำลังจะเดินทางเข้ามาร่วมกิจกรรม
อย่างไรก็ตาม มีคำถามว่า ถ้ารัฐบาลไม่ทำตามข้อเรียกร้องของคณะฯ จะทำยังไงต่อ ตนขอบอกว่า คำตอบจะขึ้นอยู่กับวันที่ 28 มิ.ย. นี้ หากประชาชนมาร่วมกันแบบมืดฟ้ามัวดิน นั่นคือคำตอบว่านายกรัฐมนตรีควรจะอยู่หรือไป
ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย บอกว่า ในวันที่ 28 มิ.ย. นี้ จะเป็นวันที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ขับไล่รัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ให้ลาออก กิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้จัดขึ้นเล่นๆ เปรียบเทียบกับการที่ตนจับคนร้ายสมัยเป็นตำรวจ ตนก็ไม่เคยทำเล่นๆ และในการชุมนุมครั้งนี้จะมีอดีตทหารมาร่วมปราศรัยด้วย
ส่วนเรื่องจัดการปัญหาระหว่างดินแดน ตนก็อยากให้มีการจัดการอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่การสั่งปิดด่านอย่างในตอนนี้ แต่อยากให้มีการยึดพื้นที่ของประเทศไทยคืนกลับมาทั้งหมด ไม่เช่นนั้นปัญหาพวกนี้จะไม่จบ แต่ที่ปัญหาพวกนี้ไม่สามารถจัดการได้ก็เพราะตระกูลชินวัตร ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ดังนั้น หากปล่อยให้รัฐบาลชุดนี้ทำงานต่อไป เรื่องปัญหาดินแดนระหว่างไทยหับกัมพูชาก็จะไม่จบ เพราะยังไงนายทักษิณ และนางสาวแพทองธาร ก็ต้องยอมสมเด็จฮุนเซ็น แน่นอน เนื่องจากทั้งสองตระกูลมีผลประโยชน์ร่วมกัน
Advertisement