
หลังจากเมื่อวานนี้ (27 ธ.ค.68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ตัวแทนฝ่ายไทย และ พล.อ.เตีย เซยฮา รมว.กลาโหมกัมพูชา ตัวแทนฝ่ายรัฐบาลกัมพูชา พร้อมคณะทำงานระดับสูงของทั้งสองประเทศได้เข้าร่วมหารือท่ามกลางสถานการณ์ที่ทั่วโลกจับตามอง โดยใช้เวลาเพียง 30 นาที ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงและลงนามในถ้อยแถลงร่วมเพื่อหยุดยิงตามแนวทางข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีไฮไลท์สำคัญคือฝ่ายกัมพูชายอมรับข้อเสนอที่จะหยุดยิงเป็นเวลา 72 ชั่วโมงเพื่อแลกกับการที่ฝ่ายไทยจะส่งตัวทหารกัมพูชาจำนวน 18 นายที่ถูกจับเป็นเชลยศึกกลับประเทศซึ่งเรื่องนี้ผ่านการกลั่นกรองจากฝ่ายเลขานุการฯ ของทั้งสองฝ่ายมาแล้วอย่างถี่ถ้วน
การเจรจาครั้งนี้ยังมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) นำโดย พลจัตวา ซัมซุล ริซัล บิน มูซา ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย ในฐานะหัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ฯ เข้าร่วมรับฟังเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามมาตรฐานสากลและเกิดความโปร่งใสทั้งสองฝ่าย
ที่ผ่านมามีหลายฝ่ายแสดงความเห็นว่าการแก้ไขปัญหาขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ควรจะสร้างกำแพงกั้นไปเลย
ล่าสุด นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ระบุว่า
ถ้าสร้างกำแพงถาวร จะถือว่าไทยทำผิดข้อ 5 ของ MOU 2543 ในการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมโดยรัฐในระหว่างปักปันเขตแดน ดังนั้นถ้าจะทำ ต้องยกเลิก MOU 2543
Advertisement