เมื่อเวลา 19.30 น. (28 พ.ค. 2568) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม(กธ.)กล่าวอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ 133,177 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7,819 ล้านบาท ตนต้องขอบคุณรัฐบาลที่จัดสรรงบเพิ่มให้กับกระทรวงเกษตรฯ ที่มีภารกิจดูแลประชากรภาคการเกษตร 30 กว่าล้านชีวิต ดังนั้นชีวิตของเกษตรกรจะดีขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นกับว่า กระทรวงเกษตรฯจะใช้เงินงบประมาณนี้ให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องเกษตรกรอย่างไร
นายอรรถกร กล่าวต่อว่า จากเอกสารงบประมาณ แสดงให้เห็นว่ากระทรวงเกษตรฯให้ความสำคัญต่อแผนแม่บทของยุทธศาสตร์ชาติ 2 มิติ โดยจะลงทุนด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันจำนวน 36,747 ล้านบาท เน้นการส่งเสริมเกษตรอัตลักษณ์ท้องถิ่น การทำเกษตรมูลค่าสูง การทำเกษตรอินทรีย์ การทำเกษตรแบบผสมผสาน การยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร การสร้างความเชื่อมั่นสินค้าเกษตรและอาหาร และ การส่งเสริมแปรรูปสินค้าเกษตร นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังมีแผนลงทุนอีกประมาณ 83,000 ล้านบาท เป็นแผนดำเนินการบริหารทรัพยากรน้ำ และแผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ถือเป็นยุทธศาสตร์จะพัฒนาแหล่งน้ำเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้ทำให้ตัวเลขงบลงทุนของกระทรวงเกษตรฯ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 9.45
นายอรรถกร ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรฯเตรียมใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 2,900 ล้านบาท ในการพัฒนาพันธุ์พืชที่ดี ที่ทนต่ออากาศ ทนต่อโรค และให้ผลผลิตที่สูงขึ้น ผ่านการขยายพันธ์ุ การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวจากศูนย์ข้าวชุมชน หรือการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว นอกจากนี้ จะมีการส่งเสริมสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรมูลค่าสูงที่มีความต้องการตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ อาทิเช่น การเพิ่มพื้นที่ปลูกกาแฟ โรบัสต้า อาราบิก้า การส่งเสริมและแก้ปัญหาการส่งออกทุเรียนสดไปยังตลาดต่างประเทศ การเพิ่มความมั่นคงทางอาหารโดยเพิ่มการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ
ที่ผ่านมา การทำงานของกระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่ยุค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค มาจนถึง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม เราดำเนินนโยบายการปราบปรามลับลอบการนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นประมง ปศุสัตว์ พืช อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดก็มีการจับการลักลอบนำเข้าอโวคาโด ซึ่งช่วยไม่ให้สินค้าเกษตรจากต่างประเทศเข้ามา ทำให้ราคาสินค้าเกษตรในประเทศตกต่ำ และเรายังให้ความสำคัญกับการจัดที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรที่เรียกว่า โฉนดเพื่อการเกษตร นโยบายโฉนดต้นยางพารา และโฉนดต้นไม้ ที่จะแปลงต้นไม้ให้เป็นทรัพย์บนดินนำไปขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้
"ผมยืนยันว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดสรรงบประมาณโดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรเป็นที่ตั้ง ผมชื่นชมและเห็นชอบกับการจัดสรรงบประมาณภาคการเกษตรในครั้งนี้ คนจัดทำนั้น กล้าคิด กล้าลงมือ และกล้าทำ ขอให้ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล้าใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าเพื่อเกษตรกร" นายอรรถกร กล่าว
Advertisement