(15 พ.ค. 2568) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังกรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ และการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat: JCR) ไทย - เวียดนาม ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 15-16 พฤษภาคม 2568
โดยก่อนการเดินทาง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณี ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่สั่งการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะให้ใครดูแลแทน โดย นายกรัฐมนตรี ได้หันไปถาม นายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก่อนจะหันมาตอบว่าจะต้องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
ส่วนนายกรัฐมนตรีจะกำกับดูแลเองหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดี๋ยวคงมอบหมายว่าจะให้ใครดูต่อ
ส่วนจะกระทบกับการทำงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องให้ พ.ต.อ.ทวี คุย ว่าจะส่งมอบงานที่ยังคั่งค้างอยู่อย่างไร ซึ่งไม่เป็นไร เดี๋ยวจะมีการพูดคุยกันในคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
ขณะที่ความคืบหน้าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงิน 10,000 ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เนื่องจาก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าจะต้องมีการทบทวนนั้น นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ใช่ค่ะ จะต้องมีการทบทวน เพราะมีความเห็นเข้ามา เมื่อมีสถานการณ์เรื่องกำแพงภาษีทั่วโลกและมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา จึงต้องฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม หากได้ผลสรุปอย่างไรจะรีบบอก
เมื่อถามย้ำว่ามีกระแสข่าวว่าจะยกเลิกโครงการดังกล่าว อาจทำให้กลุ่มคู่มีสิทธิ์ใจเสีย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรากำลังหาวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ผลมากที่สุด และย้ำว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ยกเลิก แต่ขอรับฟังความคิดเห็นให้ครบก่อน ซึ่งรัฐบาลพยายามผลักดันทุกแง่มุม
ส่วนจะสามารถปรับรูปแบบไปใช้ในลักษณะ โครงการคนละครึ่ง ซึ่งเป็นของรัฐบาลก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรามีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่าง ที่ต้องช่วยกันหลายด้าน พอส่งผลกระทบกับทั่วโลก ที่ต้องใช้เม็ดเงินและนโยบายในการกระตุ้นทั้งหมด ไม่ใช่เพียงช่วงอายุใด อายุหนึ่ง เนื่องจากแผนเดิมเราจะมีการแบ่งเป็นช่วงอายุ
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถามถึงการทบทวนนโยบายจะส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่
Advertisement