สามารถ บอก ผู้กองธรรมนัสไม่ได้อยู่ในสายตา ทำงานให้ บิ๊กป้อม ไม่ได้ทำให้พลังประชารัฐ โวเตรียมขนสส. 3 คันรถ พบหัวหน้าพรรคที่บ้านเย็นนี้
วันที่ 31 ก.ค. 67 นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาตอบโต้ให้หยุดเคลื่อนไหว ถ้าไม้เช่นนั้นจะตะเพิดพ้นพรรครอบ 2 นั้นว่า
ไม่ได้อยู่ในสายตาตน เพราะตนไม่ได้ทำงานให้พรรค แต่ทำงานให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคนเดียว พรรคไม่เกี่ยว เพราะตนไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในพรรค และตนกำลังจะบอกว่าพรรคเป็นหนี้บุญคุณตนด้วย พรรคต้องขอโทษตน
เพราะอย่างกรณีเรื่องมหาวิทยาลัย ที่เคยมีประเด็นเกิดขึ้นก็บอกแล้วว่าตนไม่ผิด แล้วทำไมพรรคถึงออกมาบอกว่าตนผิด และรีบตรวจสอบกัน ตนรู้แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลัง วันนี้ต้องออกมาขอโทษ ตนไม่เห็นมีใครออกมาขอโทษตนเลย ตนไม่เคยถูกขับออกจากพรรค
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าไม่ได้ให้ราคา ร.อ.ธรรมนัส และถ้าย้อนประวัติศาสตร์กลับไปได้สมัยมีข่าวว่าส่งคนไปเรียนไปสอบแทน และถูกพรรคขับไล่นั้น ถามว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนั้น นายสามารถ กล่าวว่า คนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ตนไม่อยากพูดถึงอดีต อยากให้มันผ่านไป ตนอโหสิ แต่ ณ วันนี้ตนเก๋ากว่าเดิมแล้ว ตนไม่ยอมโง่ซ้ำสอง ส่วนใครจะอยู่เบื้องหลังการดิสเครดิตตอนนั้น ตนคิดว่าประชาชนรับทราบ แต่ถ้ายังไม่หยุดเรื่องนี้ ตนจะออกมาแฉ เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับตน
วันนี้พรรคพลังประชารัฐต้องทำหนังสือขอโทษตน เพราะเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตรทราบดี รวมถึงนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก็ทราบ และตนยืนยันว่า ตนทำเอกสารชี้แจงไปหมดแล้ว มีเอกสารหลักฐานชัดเจน และสุดท้ายหัวหน้าพรรคก็ตั้งตนเป็นโฆษกประจำตัว พล.อ.ประวิตร ตนยังบอกเลยว่าไม่เอา เพราะเวลาตนให้สัมภาษณ์อะไร เดี๋ยวมีการพาดพิงถึงท่าน ซึ่งหนังสือแต่งตั้งก็มี แต่ตนไม่เคยนำออกมาใช้
เมื่อถามว่า ไปอยู่ข้างตัว พล.อ.ประวิตรได้อย่างไร ใครเป็นคนเชื่อมให้ นายสามารถ กล่าวว่า ตั้งแต่ พล.อ.ประวิตรยังเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค ยังไม่ใช่หัวหน้าพรรค ตนอยู่ทุกเหตุการณ์ รวมถึงเหตุการณ์การเลือกตั้งครั้งแรก และครั้งที่สอง ตนเห็นหมด ทั้งนี้เพื่อนของ พล.อ.ประวิตรก็สนิทกับตน เห็นว่าตนเป็นคนทำงาน เขาก็เลยเอาตนไปฝากกับพล.อ.ประวิตร ตั้งแต่ยังไม่ได้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ ส่วนตำแหน่ง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้นั้น คนที่ดูเรื่องนี้คือพล.อ.ประวิตร ต้องขอบคุณ พล.อ.ประวิตรเพราะเป็นคนให้โอกาสทางการเมืองกับตน เป็นเหมือนพ่อ และเป็นยิ่งกว่าเจ้านายของตน เพราะฉะนั้นตนฟังท่านคนเดียว และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาท่านยังโทรศัพท์มาบอกว่า ไม่มีใครปลดมึงได้ ไม่ต้องห่วง ท่านพูดคำนี้
เมื่อถามว่า ถ้า พล.อ.ประวิตรพูดแบบนี้ ก็แสดงว่าเป็นการชนกับ ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรรู้ว่าอะไรเป็นอะไรอยู่แล้ว และสิ่งที่ตนทำไม่ได้มีอะไรเสียหาย ตนคิดว่า พล.อ.ประวิตรเป็นผู้ใหญ่ และเรื่องเพลงตนก็แต่งกับ พล.อ.ประวิตร ซึ่งก็เป็นเพลงระหว่างตนกับ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ ประเด็นคือพาลกลัวเรื่องอื่นแล้วเอามาลงเรื่องนี้
เมื่อถามย้ำ หมายความว่ากลัวอะไรถึงเอามาลงกับเรื่องนี้ นายสามารถ กล่าวว่า ตนไม่รู้ เพราะที่ผ่านมามีนักข่าวถาม พล.อ.ประวิตรว่า พรรคพลังประชารัฐ คือพรรคเพื่อไทยสาขาสองหรือไม่ และพล.อ.ประวิตรก็ตอบว่าไม่มี จริงๆจะมีหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการเปิดตัวนาย วัน อยู่บำรุง เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ตนถามว่าถ้าเราเอาคนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคได้นั้นดีหรือไม่ ซึ่งในทางการเมืองจะถือว่าดีมาก และยิ่งเป็นคนมีความรู้ความสามารถ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ และมีฐานเสียง พรรคการเมืองอื่นเขาก็อยากได้ และอยากเปิดตัวทุกวัน แต่เขาไม่ได้ อีกทั้งะก่อนหน้านี้นายวัน ก็พูดอยู่บ่อยครั้งว่าถูกเบรก แต่กลายเป็นว่า พล.อ.ประวิตร อ้าแขนรับ ถามว่าเขาไปดีลกับใครหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ และมาโยนประเด็นว่าตนไปให้สัมภาษณ์สื่อ ที่ผ่านมาตนให้สัมภาษณ์ในนามของตน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค เพราะตนไม่จำเป็นต้องเกาะแสงใคร ถ้าเราพูดด้วยข้อมูลจริ งสื่อเขาก็จะตามเอง แต่ถ้าพูดเอาตำแหน่งมาใส่แล้ว พูดไม่รู้เรื่องก็ไม่มีใครเขาตาม
เพราะฉะนั้นการที่ตนวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี ก็วิพากษ์วิจารณ์แบบประชาชนตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ถ้านายกฯ เสียหาย เขาก็มาฟ้องร้องตน แต่วันนี้ตนก็ยังไม่เห็นนายกฯมาฟ้องร้องตนแม้แต่คดีเดียว แต่กลายเป็นว่าพรรคพลังประชารัฐเดือดร้อนแทนนายกฯ การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไม่ใช่เป็นพรรคขี้ข้า ไม่ใช่พรรคสาขาการ ไม่ใช่พรรคลูกไล่ การร่วมรัฐบาลกับเขา เพราะมีเจตจำนงเดียวกัน แต่ถ้าเขาทำไม่ถูกก็สามารถตำหนิได้ และตนถามกลับว่า ตนไม่มีตำแหน่งอะไรในพรรค และไม่มีตำแหน่งในรัฐบาล แต่ตนผู้แทนประชาชน กลับจะมาขับตนออกจากพรรค ถ้าห้ามสมาชิกพรรควิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ตนก็ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลือสมาชิกพรรคสักกี่คน
ตนแต่งเพลงเชียร์ พล.อ.ประวิตร และสัมภาษณ์โจมตีนายกเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ก็หวังว่า พล.อ.ประวิตรจะเป็นนายกฯ แต่กลับจะมาขับตนออกจากพรรค ถามว่าแบบนี้ความซื่อสัตย์ จงรักภักดีอยู่ไหน รู้จักคำว่า กตัญญูกตเวทีหรือไม่
เมื่อถามว่า ถามใคร นายสามารถ กล่าวว่า ถามทุกคนแหละ ที่บอกว่าตนทำไม่ถูก วันนี้ที่มาเป็น สส.พรรคพลังประชารัฐ ใช้พลกำลังของใคร ถามว่าเป็นของ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ แล้ววันนี้ทำไมถึงไม่อยากสนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรี และถ้าวันหนึ่งเกิดอะไรขึ้นกับนาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คุณจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเดียวเหรอ คุณไม่อยากเป็นพรรคแกนนำเหรอ หรือเพราะว่าแค่ต้องการตำแหน่งที่ตัวเองนั่งอยู่แค่นั้น ถ้าอยากเห็น พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ ต้องมาช่วย และขอบคุณตน
เมื่อถามถึง กรณีที่เคยโพสต์ว่า วันที่ 30 ก.ค. จะมีการเปิดตัวอดีต สส. พรรคเพื่อไทย ที่เป็นหลานชายอดีต สว. ตัวตึงเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตกลงบุคคลเหล่านั้นเป็นใคร นายสามารถ กล่าวว่า หลานอดีตสว. ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เมื่อถามย้ำว่า อดีต สส.พรรคเพื่อไทย นอกจากนายวันแล้วจะมีใครมาร่วมเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาอีกหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า มีอีกหลายคน ตขอเปิดวันนั้นเลยดีกว่า เพราะต้องให้เกียรติท่าน เดิมกำหนดจะเปิดตัวเมื่อวานนี้ แต่พล.อ.ประวิตรท้องเสียจึงเลื่อนออกไปก่อน
“ผมยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการแตกหักกับใครทั้งนั้น และต้องการให้ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ ถ้าเรามีหัวใจดวงเดียวกัน มีเป้าหมายเดียวกันเราคุยกันได้ และ สส.เราไม่ได้มีแค่ 40 คน แต่ สส.ในสภาฯมี 500 คน วันนี้ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับนายเศรษฐาเขาไม่มอง สส.พรรคพลังประชารัฐ แต่มันมีมากกว่านั้น ดังนั้น พล.อ.ประวิตรมองข้ามช็อตไปแล้ว และถ้าตนไม่มีของ ตนก็ไม่กล้าชน
ส่วนที่ตนโพสต์ถึงการตั้งพรรคการเมืองใหม่ และมี 26 สส. มาร่วมนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นเดียวกัน คิดไว้เหมือนกัน และตนเชื่อว่าถ้ามาทำพรรคใหม่นั้นรุ่งโรจน์ชัชวาล แต่ถ้าตนออกไปถามว่าใครจะอยู่กับ พล.อ.ประวิตร มี สส. 26 คนที่เขาอึดอัด มีบางคนถึงขนาดยกให้ตนเป็นหัวหน้าพรรค แต่ตนบอกว่าเหนือสิ่งอื่นใดต้องให้ พล.อ.ประวิตรเป็นคนตัดสินใจ
เมื่อถามว่า สุดท้ายแล้วทั้งหลายทั้งปวงจะมีความชัดเจนเมื่อไหร่ นายสามารถ กล่าวว่า วันนี้ช่วงเย็นตนจะนำ สส. จำนวน 3 คันรถ ไปพบ พล.อ.ประวิตรที่บ้าน และพูดคุยทางการเมืองกัน
Advertisement