"บุ๋ม ปนัดดา" ชี้เขมรเริ่มไม่ไว้ใจ "ฮุนเซน" ! เผยกองทัพไทยซุ่มแผนเด็ด
"บุ๋ม ปนัดดา" ชี้ "ฮุนเซน" แย่แล้ว ! ศรัทธาคนเขมรเริ่มระส่ำหนัก ลั่นกองทัพไทยซุ่มแผนเด็ด พร้อมรบถึงขั้นสุด เตือนจุดยุทธศาสตร์ที่น่ากลัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังคงตึงเครียด ล่าสุด "บุ๋ม ปนัดดา" หรือ ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ในฐานะผู้ที่ลงพื้นที่สัมผัสบรรยากาศแนวหน้า และใกล้ชิดวงในจริง ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การรบที่สำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่เนิน 350 ที่ไทยสามารถยึดคืนได้ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของความขัดแย้งในครั้งนี้
ทีมข่าว APOP Today ได้พูดคุยกับ "บุ๋ม ปนัดดา" ถึงความรู้สึกหลังวีรชนทหารกล้า "จ่าเริง" ได้กลับบ้าน เผยว่า ภาคภูมิใจในตัวทหารไทยที่เสียสละเพื่อแผ่นดิน โดยเฉพาะน้ำใจของกองทัพที่ไม่เคยทอดทิ้งเพื่อนทหารที่เสียชีวิตในหน้าที่ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อนำร่างวีรชนกลับมาส่งคืนครอบครัวให้สมเกียรติที่สุด พร้อมขอบคุณระบบกองทัพไทยที่ให้ความสำคัญกับกำลังพลทุกนาย
ส่วนเนิน 350 จุดยุทธศาสตร์ที่ได้ยึดคืนได้ ตนก็เผยว่าจากการที่เคยลงพื้นที่ไปมอบของและเยี่ยมบำรุงขวัญทหารที่เนิน 350 เป็นจุดนี้คือจุดที่รบยากที่สุดยิ่งกว่าจุดอื่น เนื่องจากความเสียเปรียบด้านพื้นที่ เนิน 350 มีลักษณะเป็นทางลาดชัน โดยฝั่งไทยอยู่ด้านล่าง ขณะที่ทหารกัมพูชาตั้งฐานอยู่บนยอดเขาที่สูงกว่า และมีป้อมปราการใต้ดิน ฝั่งกัมพูชาได้ขุดโพรงและทำบังเกอร์ถาวรมาเป็นเวลานาน มีลักษณะเป็นโพรงที่สามารถวิ่งเชื่อมต่อถึงกันได้ใต้ภูเขา โดยทหารกัมพูชาจะใช้วิธีออกมาระดมยิงปืนเล็กใส่ไทยแล้วมุดกลับเข้าโพรง ก่อนจะใช้ปืนใหญ่ระดมยิงซ้ำ
แม้จะมีการใช้เครื่องบิน F-16 เข้าโจมตี แต่ก็เป็นไปได้ยากที่จะทำลายฐานใต้ดินได้ทั้งหมด เพราะเป้าหมายหลบอยู่ภายในโพรงที่ซับซ้อน ในตอนแรกทหารในพื้นที่ประเมินว่าทำได้เพียงแค่ยันพื้นที่ไว้เท่านั้น แต่สุดท้ายทหารไทยสามารถยึดพื้นที่นี้มาได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นความเก่งกาจและน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
นอกจากประเด็นเรื่องศักดิ์ศรีแล้ว เจ้าตัวยังมองไปถึงนัยแฝงด้านเศรษฐกิจ โดยระบุว่า เหตุผลที่กัมพูชาเคลื่อนรถถังมาประชิดแนวปอยเปต 3 อำเภอ เพราะปอยเปต คือ จุดยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ หรือบ่อเงินบ่อทองของผู้นำกัมพูชา ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าจุดศักดิ์ศรีอื่นๆ
สำหรับกรณีที่ "ฮุนเซน" ประกาศเดินหน้าสู้รบต่อ เจ้าตัวมองว่า เป็นการสร้างภาพลักษณ์เพื่อเรียกคะแนนนิยมจากประชาชนชาวกัมพูชา เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่และเป็นที่พึ่งของประชาชนและสถานการณ์จะคลี่คลายได้อาจต้องรอการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างผู้นำของฝั่งนั้นเอง
ทั้งนี้ฮุนเซนยังได้มีการนำเด็กอายุเพียง 16-17 ปี รวมถึงผู้สูงอายุมาติดอาวุธและส่งมายังแนวหน้า เจ้าตัวมองว่า เขาอยู่ในภาวะขลาดแคลนทหาร โดยให้ค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ยังเล่าถึงเหตุการณ์สะเทือนใจในอดีตที่สะท้อนถึงความใจดำของผู้นำ ที่ปล่อยทิ้งร่างทหารของตนเอง และเก็บเพียงอาวุธกลับไป โดยไม่สนใจชีวิตหรือศพของกำลังพล
ยืนยันว่า กองทัพไทยปฏิบัติการด้วยความระมัดระวัง โดยใช้ฝูงบิน F-16 มุ่งเป้าไปที่การทำลายคลังอาวุธและฐานบัญชาการทางทหารเท่านั้น เพื่อลดทอนศักยภาพในการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม และพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมย้ำว่า ไทยมีความพร้อมรบต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีหน้าหากสถานการณ์ยังไม่สงบ
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือการพูดถึงศักยภาพยุทโธปกรณ์ โดยระบุว่า "ฮุนเซน" อาจมีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อเครื่องบิน F-16 แต่ในทางปฏิบัติยังขาดความพร้อม เพราะต้องใช้เวลาฝึกฝนนกบินนานถึง 3 ปี ในขณะที่กองทัพไทยมีอาวุธเด็ดในกองทัพเรือที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน พร้อมท้าทายให้ต่างประเทศส่งอาวุธมาให้ไทย "รีวิว" หรือทดสอบประสิทธิภาพในสนามจริงได้เสมอ อย่างล่าสุดมีการทดสอบลูกระเบิดประสิทธิภาพสูงจากเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นมาตั้งแต่สมัยสงครามเกาหลี
สุดท้ายเจ้าตัวก็วิเคราะห์ทิ้งท้ายถึงมูลเหตุจูงใจทางการเมือง โดยเชื่อว่าการที่ "ฮุนเซน" ต้องแสดงท่าทีแข็งกร้าวและจุดชนวนความขัดแย้ง เป็นเพราะคะแนนนิยมภายในประเทศกัมพูชากำลังตกต่ำอย่างหนัก จึงจำเป็นต้องสร้างภาพลักษณ์ความเป็นฮีโร่ผู้รักชาติ เพื่อดึงฐานเสียงกลับคืนมา โดยใช้ชีวิตของทหารและประชาชนเป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการเมือง
Advertisement
