ลูกคลั่งเบื่อเลี้ยงแม่พิการใช้มีดเสียบอก เมียกับลูกช็อกไม่กล้าช่วยต้องแชตแจ้งคนช่วย (คลิป)

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 14 ก.ย. 64 พ.ต.ท.ประภากร ทะชมภู สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลำปาง อ.เมือง จ.ลำปาง รับแจ้งเหตุคนถูกฆ่าตายที่บริเวณห้องพักแห่ง ในชุมชนเทศบาล 4 ถนนรอบเวียง ตำบลสวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ธานี ตันจันทร์กูล สว.สส. ชุดสืบสวน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง และหน่วยกู้ภัยสว่างธรรมสถาน

ที่เกิดเหตุเป็นห้องพักห้องที่ 9 พบศพนางบุญมา มูลคง อายุ 58 ปี สภาพศพนอนหงายอยู่บนเตียงนอน ขาห้อยลงมาทั้ง 2 ข้าง เจ้าหน้าที่ชันสูตรเบื้องต้น พบว่าผู้ตายมีรอยแผล คล้ายถูกของมีคมแทงบริเวณราวนมข้างขวา 1 แผล และมีรอยเลือดตกอยู่บนที่นอน ตามร่างกายคาดว่าน่าจะถูกทำความสะอาดคราบเลือดไปแล้ว

ที่เกิดเหตุมี นายเอก เพชรเลื่อน อายุ 40 ปี ลูกชายของผู้ตาย รอเจ้าหน้าที่อยู่ที่ห้องดังกล่าวพร้อมแจ้งว่า แม่ตัวเองเป็นโรคหัวใจและเสียชีวิตเอง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะขัดแย้งกับแผล และหลักฐานในที่เกิดเหตุ จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองลำปาง

เบื้องต้น จากการสอบถามภรรยาและลูกสาวของนายเอก ทราบว่านายเอกมีอาชีพเป็นคนขับรถส่งอาหารสัตว์ ที่ร้านแห่งหนึ่งในตัวอำเภอเมืองลำปาง ก่อนหน้านี้น้องชายของนายเอกได้นำนางบุญมา ผู้ตาย ซึ่งเป็นแม่ ให้มาอยู่ด้วย ตั้งแต่เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งภายในห้องพักมีนายเอก ภรรยา ลูกสาว และแม่นายเอก อยู่ด้วยกันรวม 4 คน

ก่อนเกิดเหตุ 2-3 วัน นายเอกได้ดื่มสุรา และถือมีดเดินไปมาภายในหอพัก และหน้าหอพัก โดยมีอาการเครียดกระสับกระส่าย จนทำให้ตนเองต้องพาลูกสาวไปหลบอยู่อีกห้องหนึ่ง จนกระทั่งเช้าวันที่ 13 ก.ย. 64 นายเอกอาการดีขึ้น และเป็นปกติ จนกระทั่งเกือบตี 3 ที่ผ่านมา เห็นนายเอกขึ้นคร่อมบนร่างของแม่ แล้วคล้ายกับใช้มือบีบคอ จากนั้น ตี 5 ได้ให้ลูกสาวแอบไลน์ไปบอกเจ้าของหอพักและมาทราบว่าในช่วงเช้ามืด แม่ของนายเอกเสียชีวิตด้วยการถูกแทง ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากความเครียด ที่นายเอกต้องรับภาระทุกอย่าง ทั้งทำงาน แม่ก็พิการ เดินไม่ได้ ต้องคอยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ และมีค่าใช้จ่ายสูง

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.สราวุธ วะเท ผกก.สภ.เมืองลำปาง, พ.ต.ท.ธานี ตันจันทร์กูล สว.สส.นำตัวนายเอกไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยอ้างว่าที่ฆ่าแม่ของตัวเองตาย เพราะระแวงแม่จะมาทำร้ายจึงก่อเหตุ ตอนนี้รู้สึกสำนึกผิดแล้ว ทั้งนี้ได้ให้นายเอกชี้จุด และทำท่าทางตอนที่ลงมือฆ่าแม่ของตนเอง เพื่อประกอบคำรับสารภาพ ก่อนที่จะนำตัวไปที่ สภ.เมืองลำปาง และจากการตรวจปัสสาวะของผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นไม่พบสารเสพติด

ขณะที่ทางทีมข่าวเองได้ลงพื้นที่ไปยังห้องเช่า ไม่มีชื่อ ชุมชนหลังโรงเรียนเทศบาล 4 เขตเทศบาลนครลำปาง อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ

นางโบว์ มณี อายุ 39 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หลังจากที่นายเอก เพ็ชรเลื่อน อายุ 40 ปี ผู้ก่อเหตุเกิดหลอนหวาดระแวงว่าผู้ตายหรือ แม่เป็นผู้พิการไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จะทำร้ายและฆ่าตัวเองทำให้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาได้ขึ้นคร่อมบีบคอและใช้มีดแทงที่ราวนมวาจนเสียชีวิต ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาตรวจสอบและดำเนินการจับกุมตามกฎหมาย

ในส่วนของแม่สามีนั้นได้เดินทางมาอยู่กับตนและลูกสาว รวมไปถึงสามีมาประมาณครึ่งปีกว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุ โดยช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาด้วยท่านเองค่อนข้างเป็นหลายโรค ทั้งความดัน ไทรอยด์ หัวใจ และผังผืดเกาะเส้น เพิ่งเดินไม่ได้เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เลยทำให้ทางสามีและตนเองต้องช่วยกันดูแล รวมไปถึงต้องหาเงินชื้อค่าผ้าอ้อม แผ่นรองฉี่ ประจวบกับทางสามีของตนเองค่อนข้างเครียดจากเรื่องงานที่ไม่สามารถหาเงินได้ในช่วงนี้ คิดว่าเกิดจากความเครียดจากตรงนี้ ส่วนทางน้องชายของเขาเองที่อยู่ จ.อุตรดิตถ์ก็ไม่มาสนใจใยดี ทิ้งแม่ให้เขาดูแล โทรไปกี่รอบก็ไม่สนใจ เชื่อว่าปมนี้ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการที่ทำให้เขาตัดสินใจฆ่าแม่

ตนยอมรับว่าช่วงที่เกิดเหตุตนเองเห็นเหตุการณ์ แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะเขาขู่ว่าหากช่วยจะโดนไปด้วย ก่อนหน้านี้สามีเองค่อนข้างโมโหร้าย ช่วงหลังที่แม่ของเขาเดินไม่ได้ ชอบขู่แม่ถึงขั้นตนเคยเตือนแล้ว ก่อนหน้านั้นเขาก็ฟัง แต่ก่อนข่วงเกิดเหตุ 1 วันเขาถือมีดตระเวนหาตนทั้งคืน เพราะตนเองกับลูกหนีไปนอนอีกห้อง เนื่องจากดูอาการเขาแล้วค่อนข้างผิดปกติ

ตนยืนยันว่าตนเองไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเรื่องนอกใจ แต่เขาค่อนข้างเป็นคนหวาดระเเวง หูแว่วบ่อย ๆ ซึ่งหากดูจากพฤติกรรมแล้วตนเองมองว่าเขาเองอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับทางจิตเวชด้วย ก่อนหน้านี้ช่วงวัยรุ่นเขาเองเคยมีการนับถือเกี่ยวกับการบูชาเลือด หรือสิ่งลี้ลับ แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดลึก

หลังจากนี้ ก็คงต้องกัดฟันต่อสู้ต่อไป ใจเป็นห่วงลูก ลูกเรียนอยู่ที่นี่ แม้ว่าตนเองจะเป็นคนสัญชาติลาว แต่ในใจอยากให้ลูกเรียนและมีอนาคตที่ดี ไม่อยากกลับประเทศก่อน ทั้งที่มีคนบอกว่าให้กลับไปบ้านเกิด แต่มองลูกเป็นหลัก หลังเกิดเหตุทางผู้ก่อเหตุเองได้มีการสวมกอดลูกสาว แล้วบอกว่า "พ่อรักลูกนะ ลูกต้องดูแลตัวเอง" พร้อมหันมากำชับตนให้ดูแลลูกให้ดี ความหวังที่ให้เขารอดคดีคงไม่มี ส่วนห้องเช่าก็คงต้องย้ายออกจากห้องดังกล่าวไปอยู่ห้องใหม่