โกดังพลุระเบิดวอดทั้งหลัง "ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา" สั่งตรวจสอบโรงงานพลุทั้งจังหวัด

29 ก.ย. 61
วันที่ 29 ก.ย. 61 เมื่อเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งนำตัว นายทนงศักดิ์ เจริญผล อายุ 41 ปี ผู้บาดเจ็บจากเหตุโกดังเก็บพลุระเบิดถึงนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร โดย ร.ต.อ.พิชิต วรรณารักษ์ รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา เร่งเข้าตรวจสอบโกดังเก็บพลุที่ระเบิดดังกล่าว ภายใน ต.บางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
ภาพเหตุการณ์ขณะไฟไหม้
โดยในที่เกิดเหตุรถน้ำเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จำนวน 9 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา และทหาร กำลังเร่งช่วยกับดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างหนัก จนเป็นวงกว้างก่อนโกดังที่เป็นไม้มุงสังกะสีจะพังถล่มลงมา พร้อมกับเสียงระเบิดเป็นระยะ ๆ เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำแบ่งออกเป็น 3 ชุด เพื่อควบคุมเพลิงโดยเจ้าหน้าที่ทหารต้องช่วยกันยกถังสีฟ้าขนาด 50 ลิตร ที่ภายในบรรจุดินประสิวออกจากที่เกิดเหตุเพราะเกรงว่าอาจจะระเบิดซ้ำตรวจสอบโดยรอบพบมีหลุมขนาดใหญ่บริเวณที่เกิดเหตุนอกจากนี้ยังพบท่อ PVC ที่ใช้บรรจุพลุกระเด็นลอยไปตกในบริเวณรอบ ๆ บ้านส่วนบ้านปูนลักษณะชั้นเดียวของเจ้าของบ้านและบ้านเรือนของเพื่อนบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงในระยะ 20-50 เมตร ได้รับความเสียหายหลายหลังทั้งกระจกหน้าต่างแตกหลังคาบ้านทะลุฝาผนังบ้านแตกร้าว และยังมีรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ที่จอดอยู่ภายในโกดังถูกเพลิงเผาไหม้ทั้งคัน และรถยนต์ที่จอดใกล้เคียงกระจกด้านหน้ารถแตก โดยขณะเกิดเหตุนายการุณ รักษานนท์ อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน ไม่อยู่ภายในบ้านพบเพียง นายทนงศักดิ์ เจริญผล ซึ่งเป็นคนงานเฝ้าโกดังอยู่ได้เดินมาตรวจดูความเรียบร้อยที่โกดัง เพราะวันนี้เป็นวันหยุดจึงไม่มีคนทำงานระหว่างที่เดินตรวจสอบอยู่นั้น จู่ๆ ก็เกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุก่อนจะมีกลุ่มควันและเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าอาจจะเกิดจากความร้อน เนื่องจากหลังคาโกดังเป็นสังกะสีจึงทำให้มีความร้อนสะสมจนระเบิดขึ้น ซึ่งต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง
นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา
ในขณะที่ นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้เดินทางเข้าตรวจสอบยังสถานที่ดังกล่าวและได้รับทราบว่าสถานที่ดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการต่อใบอนุญาตตั้งแต่เดือน มิ.ย. แล้ว เพราะเนื่องจากว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ภายในตัวเมืองและใกล้แหล่งชุมชน อีกทั้งยังมีเส้นทางเข้าที่ลำบากเนื่องจากคับแคบ
พี่ชายของนายการุณ รักษานนท์
ด้านพี่ชายของนายการุณ รักษานนท์ เผยว่า น้องได้ทำพลุมาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี แล้วในสถานที่ดังกล่าวตั้งแต่สมัยยังไม่มีบ้านเรือนประชาชนในบริเวณนั้นแต่ต่อมาน้องชายได้ซื้อที่แห่งใหม่ซึ่งอยู่นอกตัวเมืองเพื่อเตรียมย้ายสถานที่แห่งนี้หลังฝ่ายปกครองได้มีคำสั่งให้ย้ายและไม่ต่อใบอนุญาตให้เพราะเห็นว่าอยู่ในแหล่งชุมชนซึ่งน้องชายก็กำลังเตรียมที่จะย้ายออกโดยในช่วงนี้ไม่ได้ทำพลุแล้วมีเพียงพลุที่สั่งมาจากที่อื่นเพื่อเก็บไว้และส่งให้ลูกค้าที่จะนำไปใช้จุดในงานศพเท่านั้นซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไปใน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งเหลืออายุราชการในการทำงานอีกแค่ 1 วัน ก่อนเกษียณอายุราชการ และได้เตรียมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอบเร่งตรวจสอบสถานที่ที่มีการผลิตพลุและดอกไม้ไฟทุกแห่งในพื้นที่ของจังหวัดหากพบสถานที่ได้มีความไม่ปลอดภัยหรือไม่มีใบอนุญาตให้เร่งดำเนินการแก้ไขในทันทีเพราะหากเพิกเฉยอาจส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนในลักษณะนี้อีกเป็นได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ