จากกรณีเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 12 ส.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบัวระเหว ได้รับแจ้งว่ามีบุคคลเสียชีวิตภายในบ้านพักภายแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 9 ตำบลหนองบัวระเหว อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ จึงได้ทำการประสานไปยังกู้ภัยสว่างคุณธรรม จุดอำเภอหนองบัวระเหว เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านลักษณะอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น โดยชั้น 2 ของบ้านเป็นห้องนอน เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดเข้าไปก็พบกับร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อต่อมาคือ นางกิติพร อาจจำนงค์ อายุ 60 ปี สภาพศพขึ้นอืด คาดเสียชีวิตมาแล้ว 4 วัน
วันที่ 13 ส.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ชั้นล่างมีการวางเตียงนอนไว้กลางบ้าน เป็นที่นอนของนายเพชร (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต เป็นผู้ป่วยจิตเวช อาศัยอยู่ข้างล่าง
ส่วนชั้นที่ 2 นายพชร ระวินหรรษ์ อายุ 36 ปี ลูกชายคนโตของผู้เสียชีวิต พาทีมข่าวขึ้นไปดูห้องของนางกิติพร ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นห้องนอนชั้น 2 อยู่ด้านหลังของบ้าน ภายในห้องนอนมีเตียงนอนวางอยู่กลางห้อง และเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิต ฟูกที่นอนมีการนำออกไปเผาทิ้งแล้วเมื่อวาน
นายพชร ระวินหรรษ์ อายุ 36 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต เล่าย้อนว่า พ่อกับแม่ตนเลิกกันตั้งแต่ตนยังอายุ 14 ปี แรก ๆ ตนก็อาศัยอยู่ที่บ้านกับแม่และน้องชายที่ป่วยจิตเวช แต่ย้ายออกไปทำงานที่อำเภอหัวเขียว ในจังหวัดชัยภูมิได้ประมาณ 4 ปีแล้ว ปกติแม่ตนจะมีการทำยาสมุนไพรขาย แต่เศรษกิจไม่ดี จึงไปทำงานรับจ้างเฝ้าร้านขายของได้ประมาณ 2 ปีแล้ว เท่าที่ตนทราบคือแม่มีภาวะความดันโลหิตสูง และเป็นคนที่ขวัญอ่อนตกใจง่าย
ส่วนน้องชาย ป่วยเป็นจิตเวชมานานกว่า 10 ปีแล้ว มีการรักษากับทางจิตเวช แต่ไม่ค่อยยอมกินยา และมักจะมีอารมณ์แปรปรวนชอบเอะอะโวยวาย และพูดไปเรื่อยไม่มีสาระ ซึ่งก็ไม่เคยมีอาการทำร้ายร่างกายคนในครอบครัวแต่อย่างใด
ตนได้มีโอกาสได้คุยกับนางกิติพร ผู้เสียชีวิต แม่ของตน เมื่อวันที่ 8 ส.ค.64 ที่ผ่านมา พูดคุยเรื่องมอเตอร์ไซค์พังจะเอาไปซ่อม และจะเอายาต้มสมุนไพรส่งไปให้ตนกิน ซึ่งก็ไม่มีลางสังหรณ์ กระทั่งวันที่ 11 ส.ค.64 ญาติของแม่ที่ จ.นครราชสีมา โทรมาหาตนแล้วบอกว่า แม่ของตนไม่มาทำงาน ติดต่อไม่ได้ ตนก็เลยโทรหาแม่ก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน ก็เลยตั้งใจว่าวันที่ 12 ส.ค.64 จะเข้าไปหาแม่ แต่คืนวันที่ 11 ส.ค.64 ตนได้กลิ่นเหม็นเน่าลอยมา คิดว่าน่าจะเป็นหมาตาย จากนั้นก็ได้ยินเสียงหมาเห่าหอนเสียงดัง แต่ก็ไม่ได้เอะใจ
พอมาถึงบ้านก็เห็นนายเพชร น้องชายตนนั่งอยู่ในบ้าน สอบถามว่าแม่ไปไหน น้องก็บอกว่าแม่อยู่ข้างบน ตนเลยขึ้นไปดูพบว่าแม่เสียชีวิตสภาพขึ้นอืดแล้ว ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านก็มีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ แล้วนำศพไปชันสูตร ผลออกมาว่าแม่ของตนเสียชีวิตจากสาเหตุเส้นเลือดในสมองแตก ผู้ใหญ่บ้านแนะนำว่าให้รีบจัดงานศพ รีบเผา เพราะศพสภาพอืดมาหลายวันแล้ว ก็เลยมีการเผาไปตั้งแต่ช่วงกลางวันไปแล้ว ด้วยการจัดงานแบบง่าย ๆ มีแค่ตนกับพ่อ และเพื่อนบ้านไม่กี่คน
ส่วนบ้านหลังนี้ เป็นการซื้อแบบผ่อนกับธนาคาร เดือนละ 5,100 บาท โดยเป็นชื่อของตน แต่แม่เป็นคนส่งเงิน ซึ่งจะยกให้เป็นหน้าที่พ่อ ในการจัดการเรื่องจะขายหรือให้เช่าต่อ ส่วนน้องชายเอง พ่อจะพาไปเลี้ยงดูแลเองที่ จ.ยโสธร
ด้านนายวิวัฒน์ชัย โอวาทวงษ์ อายุ 46 ปี เพื่อนบ้าน บอกว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเพื่อนบ้านที่ดี เจอกันทีไรก็จะยิ้มทักทายกันเป็นประจำ ซึ่งเป็นคนธรรมะธัมโม ชอบทำบุญ และแวะมาซื้อของที่ร้านของตนบ่อย เพราะตนขายเครื่องสังฑภัณฑ์ ส่วนนายเพชร ลูกชายของเขาป่วยเป็นจิตเวช ตนมักจะได้ยินเสียงลูกชายโวยวายเสียงดังประจำ แต่ไม่เคยทำร้ายร่างใคร
เมื่อช่วงประมาณวันที่ 10 ส.ค.64 ตนได้กลิ่นเหม็นลอยมา แต่ก็คิดว่าหนูตาย เพราะหนูตายแถวหน้าบ้านบ่อย กระทั่งมาทราบข่าววันที่ 12 ส.ค.64 เห็นตำรวจมาเต็มจุดเกิดเหตุ ก็รู้สึกตกใจ ไม่คิดว่านางกิติพรจะเสียชีวิตอยู่บนบ้านมาหลายวันแล้ว ส่วนลูกชายเขาที่ไม่รู้เรื่อง เพราะเขาป่วยจิตเวช
