การ์ดเสื้อแดงเตือนม็อบรุ่นน้อง อุทาหรณ์ประทัดยักษ์ระเบิดมือขาด ยิ่งรุนแรงยิ่งเข้าทาง จนท. (คลิป)

12 ส.ค. 64

กรณีกระแสข่าวตำรวจนำประทัดยักษ์ ยัดใส่มือผู้ชุมนุม #ม็อบ11สิงหาคม และบังคับให้กำประทัดจนแตกใส่มือนั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบกับกองบัญชาการตกรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม

879943

ล่าสุดวันที่ 12 ส.ค.64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่ามีการตรวจพบข่าวปลอม โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า วันที่ 11 ส.ค.64 มีผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่า #ม็อบทะลุฟ้า มาชุมนุมกันที่บริเวณ แยกดินแดง เขตดินแดง กทม. ได้มี ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี สวมใส่เสื้ออาชีวะได้จุดประทัดยักษ์ แต่เกิดพลาดระเบิดใส่มือข้างซ้ายของตัวเอง ทำให้ได้รับบาดเจ็บ

834690

ดังนั้น จากกระแสข่าวดังกล่าว ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เอาประทัดยักษ์ยัดใส่มือแต่อย่างใด ปัจจุบันเด็กคนนี้ถูกนำตัวส่ง รพ.รามาธิบดี และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่โรงพยาบาลพบว่าได้นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU แพทย์จึงได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ร่วมด้วย ปรากฏว่าผลการตรวจเบื้องต้นพบติดเชื้อโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.metro.police.go.th/ หรือโทร. 0-2282-8209

282396

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ติดต่อไปยัง นพ.ทศพร เสรีรักษ์ เพื่อสอบถามรายละเอียดของชายรายดังกล่าว โดยนพ.ทศพร กล่าวยอมรับว่า ตนก็ไม่ได้รู้จักเด็กคนดังกล่าวเป็นการส่วนตัว เเละไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เเต่ขณะนี้ก็พอจะทราบเรื่องราวเเล้ว ซึ่งตนก็กำลังประสานไปที่กลุ่มวีโว่ เพื่อให้ช่วยติดตามความคืบหน้า เพราะตนก็เป็นห่วงผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากทราบว่าอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น

587860

นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ หัวหน้ากลุ่มวีโว่ กล่าวยืนยันว่า ผู้บาดเจ็บคนดังกล่าว เป็นนักเรียน อายุ 14 ปี และยังเป็นเยาวชน เเต่ส่วนตัวไม่เคยรู้จัก ไม่ทราบชื่อ นอกจากนี้ ผลตรวจเบื้องต้นพบว่าเขาติดโควิด-19 เเต่เป็นเชื้อตายซึ่งไม่สามารถเเพร่กระจายสู่คนอื่นได้ คาดว่าอาจเคยติดเชื้อโควิดเเต่หายเเล้ว หรือเพิ่งไปฉีดวัคซีนมา เเล้ววัคซีนกำลังต้านกับไวรัสอยู่หรือไม่ ผลตรวจจึงออกมาเป็นว่าเชื้อตาย เบื้องต้นเเพทย์สั่งห้ามเยี่ยม เเม้เเต่ญาติก็ไม่สามารถเยี่ยมได้ ดังนั้นจึงยังไม่มีใครทราบอาการที่แน่ชัด
601112

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนายสมบัติ ทองย้อย อดีตหัวหน้าการ์ดเสื้อเเดง กล่าวว่า ส่วนตัวเข้าใจผู้ชุมนุม ที่เขาอาจมองว่าตัวเขาถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่ก่อน ทั้งกระสุนยาง หรือเเก๊สน้ำตา เขาจึงมองว่าตัวเขาเองก็มีสิทธิ์ตอบโต้ด้วยสิ่งเหล่านี้ เเต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการตอบโต้ด้วยความรุนเเรง หรือประทัดยักษ์ เพราะจะเป็นอันตรายดังภาพที่สื่อมวลชนบันทึกได้ว่าเด็กอายุ 14 มือขาด

นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าว จะมีเเต่เสียเปรียบ เพราะประทัดยักษ์เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ชี้ว่าผิดกฎหมาย เเต่กระสุนยางหรือเเก๊สน้ำตา เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่อ้างความชอบธรรมว่าอยู่ในกรอบของกฎหมายไทย สำหรับการชุมที่เห็นกันอยู่ขณะนี้ หลายครั้งที่เเกนนำประกาศยุติ เเต่ผู้ชุมนุมไม่ยอมกลับ เเล้วก็เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่

374870

ฉะนั้น การชุมนุมเเบบนี้มีทั้งข้อดีเเละข้อเสีย ข้อดีคือเป็นการเเสดงให้เห็นว่าการชุมนุมเป็นอิสระ ไม่ถูกครอบงำจากใครคนใดคนหนึ่ง เเต่ข้อเสียคือหากเราตอบโต้เเบบนี้ทุกวัน ทำให้เจ้าหน้าที่จับทางได้ เเละรู้วิธีจัดการผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ก็จะยั่วยุ เช่น ยิงกระสุนยาง หรือเเก๊สน้ำตา ทำให้ฝั่งผู้ชุมนุมซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ระเบิดอารมณ์ได้ง่าย เเล้วก็เกิดภาพความรุนเเรง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์การชุมนุม ทำให้ขณะนี้ฝั่งที่คุมเกม คือ เจ้าหน้าที่รัฐ เพราะยิ่งเกิดความรุนเเรง ก็จะยิ่งเข้าทาง

ดังนั้นปัญหาตอนนี้ คือ ฝั่งผู้ชุมนุมไม่มีเเกนนำ ไม่มีการจัดระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี ซึ่งคนที่ขึ้นไปอยู่บนเวที ถึงเเม้จะประกาศตัวว่าไม่ใช่เเกนนำ เเต่โดยบริบทเเล้วจะต้องคุมมวลชนให้ได้ พามวลชนมาอย่างสวัสดิภาพให้ได้ และต้องส่งมวลชนกลับอย่างสวัสดิภาพเช่นกัน ตนจึงอยากให้ทุกคนระมัดระวัง โดยเฉพาะคนที่เเฝงตัวมาสร้างสถานการณ์ ที่ผ่านมาตนโดนเด็กด่ามาเยอะ เเต่อยากบอกว่าเตือนด้วยความเป็นห่วง เพราะถึงอย่างไร เราก็ต้องต่อสู้อยู่ในเส้นทางเดียวกัน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส