รวบหนุ่มบุกรร. หวังอนาจาร ด.ญ. พบประวัติโชกแทงเมียร่างพรุน

วันนี้ 21 ก.ย. 61 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผู้กำกับการตำรวจภูธรนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้ควบคุมตัวนายสุรพล พินทอง อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุบุกเข้าไปในโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในเขตตำบลวัดละมุด อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม และบุกขึ้นไปดึงตัวเด็กเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อหวังกระทำอนาจารเด็กหญิง แต่เด็กต่อสู้และรอดพ้นจากการก่อเหตุ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น

การทำแผนประกอบคำรับสารภาพของนายสุรพล เริ่มจากจุดจอดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าโซนิค สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1กฎ 5550 นครปฐม มาจอดที่หน้าโรงเรียน และจุดที่พบนักเรียนหญิงชั้น ป.6 ตามที่พยาน 4 คน ให้การไว้ โดยโรงเรียนได้จัดให้นักเรียนทั้งโรงเรียนทำกิจกรรมอยู่ในห้องประชุมเพื่อป้องกันความแตกตื่น ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มผู้ปกครองส่วนหนึ่งมาปักหลักรอที่หน้าโรงเรียนและภายในโรงเรียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการควบคุมความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น โดยใช้เวลาทำแผนประมาณ 10 นาที จึงแล้วเสร็จ

นางอัญชลี เมฆะสุวรรณโรจน์ ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยคนร้ายไปพบนักเรียนหญิงชั้น ป.6 ที่ชั้น 2 และพยายามผลักนักเรียนหญิงคนดังกล่าวเข้าไปในห้องเรียนของชั้น ป.3 ซึ่งในช่วงที่คนร้ายพยายามจะก้มไปถลกกระโปรงของนักเรียนหญิง ได้มีนักเรียนชายชั้น ป.3 เข้ามาพบ ประกอบกับนักเรียนหญิงคนดังกล่าว ได้ฝึกศิลปะมวยไทยที่โรงเรียนได้จัดไว้ให้ จึงได้กำเส้นผมของคนร้ายและชกไปที่หน้า แล้วจึงได้ตะโกนให้มีคนช่วย ทำให้คนร้ายตกใจวิ่งหนีไป จากนั้นทางโรงเรียนได้เชิญผู้ปกครองมาพบและแนะนำให้แจ้งความ ก่อนจะแจ้งข่าวไปยังโรงเรียนเครือข่ายให้ทราบถึงพฤติกรรมของคนร้าย โดยพบว่าไม่กี่วันต่อมา คนร้ายได้พยามซุ่มก่อเหตุซ้ำในโรงเรียนใกล้เคียงอีก ตอนนี้จึงได้เตรียมติดกล้องวงจรปิดทั้งโรงเรียนไว้แล้ว และหลังจากเกิดเหตุได้มีข่าวลือไปต่าง ๆ นานา ว่ามีการชำเราเด็ก ซึ่งในความจริงไม่มีและคนร้ายแทบไม่ได้โดนตัวเด็กเลย

ด้านพ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผู้กำกับการตำรวจภูธรนครชัยศรี เผยว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เร่งติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุโดยเร่งด่วน กระทั่งทราบว่ามีคนที่เคยก่อเหตุฆ่าภรรยาของตัวเองโดยใช้ไม้กระถินแทงไปทั่วร่างกาย แล้วนำชุดชั้นในกางเกงและชั้นในไปแขวนไว้ในป่ารก โดยได้อำพรางศพไว้ในท่อระบายน้ำคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2555 โดยคนร้ายในคดีดังกล่าวมีลักษณะใบหน้าใกล้เคียงกับที่พยานทั้ง 4 คน ได้ชี้ภาพไว้ จึงบุกจับกุมตัวคนร้ายได้ที่สวนดอกรัก ม.2 ต.วัดละมุด ขณะกำลังช่วยแม่ทำสวนโดยไม่มีท่าทีตกใจ คนร้ายดังกล่าวถือเป็นบุคคลอันตรายที่กลับมาอยู่ในชุมชน เพราะถึงแม้จะถูกศาลตัดสินจำคุก 15 ปี แต่ติดจริงเพียง 4 ปี และออกมาก่อเหตุในครั้งนี้อีก โชคดีที่ทางโรงเรียนไม่ปกปิดข้อมูล ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถหาข่าวและติดตามตัวได้อย่างรวดเร็วก่อนที่คนร้ายจะไปก่อเหตุในพื้นที่อื่น เบื้องต้นทางผู้ต้องหาอ้างว่ามีปัญหาทางจิต แต่เมื่อฝากขังจะมีการนำไปตรวจอีกครั้ง ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำอนาจารเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 13 ปีไว้ก่อน และจะส่งตัวไปตรวจสอบ DNA ว่าคนร้ายคนดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีข่มขืนผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม เมื่อหลายปีก่อนหรือไม่อีกด้วย