เฮี้ยน! ฆ่าช่างโบกปูนซุกคฤหาสน์ ญาติขมาศพกรี๊ด "ขอกลับบ้าน" ล่าวงเหล้าใช้จอบตีตาย (คลิป)

18 ก.ค. 64

กรณีตำรวจสน.บางเสาธง รับแจ้งพบศพถูกฆาตกรรมฝังไว้ใต้พื้นบ้าน ภายในคฤหาสน์หรูพื้นที่ 4 ไร่ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ โดยที่เกิดเหตุอยู่ในโซนที่กำลังสร้างร้านกาแฟขนาดใหญ่ ใต้พื้นบ้าน 2 ชั้น ด้านในสุดพบศพนายสิทธิโชค หรือ ช่างสน สาโรจน์ อายุ 42 ปี ชาวจ.กาญจนบุรี นอนหงายอยู่ใต้พื้นบ้าน สวมผ้าขาวม้าผืนเดียว กางเกงในสีแดง ถูกห่อด้วยผ้าม่านสีครีมและปิดบังด้วยแผ่นคอนกรีตสำเร็จ โบกปูนทับอีกครั้ง และนำฟูกที่นอนพิงกำแพงตัวบ้านไว้อีกชั้น

280933300658

 ล่าสุดวันที่ 18 ก.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่คฤหาสน์หรูจุดเกิดเหตุ ภายในซอยบางเชือกหนัง 7 กรุงเทพฯ พบว่าบริเวณจุดก่อสร้างร้านกาแฟข้างคฤหาสน์หรู โดยเฉพาะตัวบ้านที่เป็นที่พักอาศัยของคนงานชั่วคราว ปิดกั้นพื้นที่เพื่อรอดำเนินการตรวจสอบ โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเรียกสอบคนงาน 5 คนที่อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว

628067137615

เบื้องต้นได้ควบคุมตัว 3 คน และยังไม่ได้ปล่อยตัวกลับ ได้แก่ นายนะ หัวหน้าคุมงานใหญ่ ทำงานมา 6 ปี, นายธีรวัตร คนที่นั่งดื่มเหล้ากับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย และนายรุ่ง ลูกน้องนายนะ ส่วนคนงานที่หายตัวไปหลังเกิดเหตุ ได้แก่ นายจะหวะ ลาหู่ หรือ พงษ์ โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายช่างสน ก่อนที่จะซ่อนอำพรางศพไว้ใต้พื้นบ้านหรือไม่ 

 

959459

เวลา 14.30 น. ครอบครัวของนายสิทธิโชค หรือ ช่างสน ได้เดินทางไปรับศพออกจากโรงพยาบาล นำร่างใส่โลงไม้สีขาว นิมนต์พระ 1 รูป มาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณ ตรงจุดที่มีการยัดศพใต้ถุนบ้าน โดยไม่สามารถที่จะโยงสายสิญจน์จากรถตู้ขนศพมาถึงจุดยัดศพได้ จึงได้นำใบไม้ 3 ใบมาปู จากนั้นได้ใช้ผ้าขาววางทับ และใช้กระดาษสีเงิน เขียนชื่อของผู้ตายแทนร่างที่จะนำมาวางในการเชิญดวงวิญญาณ และให้นายวิชาญ เสารสุดใจ อายุ 35 ปี ลูกพี่ลูกน้องคนตาย กล่าวเชิญดวงวิญญาณให้กลับบ้าน หลังจากมีการเรียกชื่อเสร็จ พระก็ได้เดินนำหน้าผูกสายสิญจน์ไว้ที่ป้ายชื่อ และพากลับไปที่รถขนศพ เพื่อนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามในพื้นที่จ.กระบี่

880830

ในช่วงก่อนหน้านี้ ทีมข่าวสังเกตว่าหลังจากที่รถตู้นำร่างของช่างรับเหมามาถึงที่คฤหาสน์ เพื่อประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณ นางสกิณา เสารสุดใจ น้าสาวของคนตาย ซึ่งอ้างว่าตัวเองมีองค์ปู่ สามารถสื่อสารกับดวงวิญญาณของหลานชายได้ ในขณะนั้นหลังจากที่รถตู้มาถึงบริเวณภายในพื้นที่คฤหาสน์ นางสกิณา ได้เกิดอาการทรุด นั่งอยู่บริเวณม้านั่ง พร้อมกับอยู่ในอาการร้องไห้เสียใจ และพูดออกมาตลอดว่า “อยากกลับบ้าน พากลับบ้านหน่อย” ผสมกับอาการร้องไห้ จากนั้นลูกสาวของนางสกิณา ก็ได้เข้ามาปลอบพร้อมทั้งบอกว่า “พี่สนใจเย็น ๆ ได้กลับบ้านแล้วนะ”

931922

นายวิชาญ เสารสุดใจ อายุ 35 ปี ลูกพี่ลูกน้องคนตาย และเป็นลูกชายของนางสกิณา ให้สัมภาษณ์ว่า จากอาการของแม่ที่พบเห็นไม่ใช่ตัวตนของแม่ แต่คนในครอบครัวรู้กันดีว่าแม่มีองค์ปู่ ซึ่งคล้ายกับร่างทรง โดยปกติก็มักจะผ่านร่างแบบนี้บ่อยครั้ง จึงเชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณของช่างสน ที่สิงร่างแม่แต่ไม่ได้มีความแค้นผู้ก่อเหตุ เพียงแค่ต้องการสื่สารว่าอยากกลับบ้าน และอยากออกไปจากสถานที่ตรงนี้ โดยครอบครัวก็พร้อมที่จะนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามต่อไป ทั้งนี้ตนเชื่อว่า 1 คน ไม่สามารถก่อเหตุได้ ต้องมีมากกว่า 1 คนอย่างแน่นอน และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็ว

266947

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังสังเกตว่าระหว่างการเชิญดวงวิญญาณ เจ้าของคฤหาสน์ก็ได้ยืนสังเกตการณ์ และร่วมส่งดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่สุคติ อีกทั้งบางช่วงยังประนมมือเพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเจ้าที่เจ้าทางเปิดทางให้ผู้ตายเดินทางกลับบ้านได้ และไม่จองจำหรือวนเวียนอยู่ในสถานที่แห่งนี้ 

479972

เจ้าของคฤหาสน์หรู เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่าเกิดจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนงาน ส่วนใหญ่เวลาสั่งงานตนจะสั่งผ่านนายนะ ซึ่งเป็นหัวหน้าคนงาน จากนั้นนายนะจะกระจายงานให้กับคนงานหรือช่างรับเหมาคนอื่น ๆ ฉะนั้นตนจึงไม่รู้จักกับใครเป็นการส่วนตัว เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ก็ต้องว่าไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ ในการหาตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี

139842

ส่วนกรณีที่ตำรวจสงสัยในตัวของนายนะ หัวหน้านายช่างใหญ่ที่คุมงานภายในคฤหาสน์ ตนขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจให้กับนายนะ ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายครั้งนี้ แม้ในวันเกิดเหตุนายนะ จะเป็นกลุ่มบุคคลที่นั่งดื่มเหล้า แต่นายนะ ขึ้นไปนอนก่อน ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่มีการทำร้ายร่างกายและซ่อนอำพรางศพ สิ่งที่ตนกล้ายืนยันเพราะได้พูดคุยกับนายนะแล้ว

โดยตอนนี้ได้มีการไหว้วานให้ไปทำงานในต่างจังหวัด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการสอบปากคำ ตนก็จะให้นายนะเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนคาดไม่ถึงว่าคนงานในจะแอบดื่มเหล้ากัน หากรู้ล่วงหน้าก็คงจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เพราะไม่ต้องการให้เกิดการตาย หรือคดีสะเทือนขวัญเกิดขึ้นภายในบ้าน

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.64) ตนเตรียมที่จะนิมนต์พระจำนวน 9 รูป มาประกอบพิธีทางศาสนาเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตาย ประกอบกับสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับคนในครอบครัว และให้คนงานที่อยู่ในบ้านไม่เกิดความหวัดกลัว หรือวิตกกังวลไปมากกว่านี้

813755

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสกิณา เสารสุดใจ น้าสาวของคนตาย เปิดเผยว่า หลังจากที่หลานชายหายตัวไป ทุกคนก็พยายามติดต่อ แต่ก็ไม่รู้ว่าเบาะแสหายไปที่ไหน กระทั่งตามมาที่ทำงานบ้านหลังนี้ ซึ่งในช่วงแรกที่เข้ามาก็พบว่าบางจุดได้กลิ่นคล้ายของเน่า แต่ก็ยังไม่รู้ว่าถูกซ่อนเอาไว้ที่ไหน จนไปพึ่งร่างทรงแนะนำว่าให้เข้ามาหาภายในรั้วคฤหาสน์ เพราะนายสิทะฺโชคอยู่ในกำแพง จึงได้เข้าไปพบจุดต้องสงสัยก็คือใต้ถุนบ้าน แต่ส่วนตัวก็เป็นคนมีองค์หรือมีความเชื่อเรื่องพวกนี้ ทุกครั้งที่เข้ามาภายในรั้วบ้านก็จะอึดอัด และสัมผัสได้ถึงความแรงของเจ้าที่ แต่สุดท้ายตนก็ต้องจุดธูปขอขมา และขอให้เปิดทางเจอร่างของหลานชาย หลังจากที่มีการประกอบพิธีก็เจอร่างโดยทันที

cg-1_1

อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้ว่าความคืบหน้าของคดีไปถึงไหนแล้ว แต่ก็มีลางสังหรณ์คิดว่าคนที่หลบหนีอยู่ในตอนนี้ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของหลานชายอย่างแน่นอน เพราะถ้าคุณไม่ผิดก็คงไม่หนี หากเป็นไปได้ก็อยากให้มามอบตัว ในเมื่อทำผิดแล้วก็อยากให้รับโทษ และหนีตำรวจไม่พ้น “ทำผิดก็มาสู้ไม่ต้องหนี หนีกระเสือกกระสนแค่ไหนก็หนีไม่ผล ยังไงก็โดนจับอยู่ดี” และที่สำคัญตนเชื่อว่าการก่อเหตุครั้งนี้ต้องไม่ใช่เพียงแค่ 1 คน อาจจะร่วมกันเพราะหากทำคนเดียว ก็คงจะทำไม่สำเร็จ หรือซ่อนอำพรางได้แบบนี้

196586

นายบูรณ์ (นามสมมติ) คนดูแลคฤหาสน์หรู ในฐานะคนงานเก่าแก่ของบ้าน พาทีมข่าวไปดูรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน ฒก 2683 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บริเวณโรงรถใกล้กับห้องของคนตาย โดยสภาพด้านหน้าของกระจกรถ มีรอยแตกเสียหาย 2 จุด และภายในรถยังคงมีเข้าของของผู้ตายเก็บเอาไว้ในรถเหมือนเดิมไม่มีใครขึ้นย้าย อาทิ บิลเงินสด ใบเสร็จชื้อของก่อสร้าง

174778

นายบูรณ์ กล่าวว่า ตนเห็นรอยนี้เกิดขึ้นประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น แต่ตนก็ไม่ทันได้คุยกับช่างสนว่าไปโดนอะไรมา เพราะหลังจากที่เกิดรอยที่หน้ารถก็ไม่ค่อยได้เจอกัน จึงไม่ได้พูดคุยหรือสอบถามอะไรกันมากนัก ที่สำคัญไม่รู้ว่าไปมีเรื่องกับใครมาหรือไม่ แต่ในมุมหนึ่งก็คิดว่าอาจจะขับรถแล้วถูกก้อนหินขว้างปา ก็มีความเป็นไปได้

นอกจากนี้ นายบูรณ์ ยังได้พาทีมข่าวเข้าไปดูภายในห้องของช่างสน ซึ่งพบว่าข้าวของทุกอย่างยังคงอยู่ภายในห้อง ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า หรือแม้แต่ปลั๊กไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างจะคงเสียบเอาไว้เหมือนเดิม ซึ่งผู้ตายออกจากห้องพักไม่ได้จับสิ่งของติดตัวออกไปแม้แต่ชิ้นเดียว ทั้งนี้ช่างสนเป็นคนที่ชอบสะสมพระ แต่ในวันเกิดเหตุออกไปเพียงแค่ตัวเปล่าแม้แต่พระสักองค์ก็ไม่ได้แขวนติดคอไปด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตนเห็นว่าช่างรับเหมาหายตัวไป ตนจึงออกตามหาร่วมกับภรรยาของคนงานอีกคน ซึ่งตามหาทุกวัน เพราะคิดว่านายสิทธิโชค ยังคงอยู่ภายในพื้นที่ของรั้วบ้าน จนกระทั่งช่วงประมาณวันที่ 10-13 ก.ค.64 ได้กลิ่นเหม็นเน่าออกมาจากใต้ทุนบ้านหรือพื้นบ้าน จึงได้ใช้เหล็กยาวแทงเข้าไปเผื่อจะเจอต้นตอของกลิ่น แต่ก็ไม่พบอะไร เพราะจุดที่ยัดศพเข้าไป อยู่อีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับจุดที่ตนแทงแท่งเหล็ก

223944

นายบูรณ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ญาติของคนตายมาตามหาเบาะแส และมีการเล่าให้ฟังว่าไปพึ่งร่างทรง โดยทราบว่าร่างของคนตายยังอยู่ในรั้วบ้าน และซ่อนอำพรางอยู่ในกำแพง ตนจึงมีความเชื่อและบอกกับญาติคนตายว่า ไปจุดธูปบอกกล่าวที่หน้ารถกระบะ เพราะคนตายเป็นคนรักและห่วงรถมาก ๆ อีกทั้งให้ไปบอกกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาในพื้นที่ของคฤหาสน์หลังนี้ เพราะเป็นเจ้าที่ที่ค่อนข้างแรง ดังนั้นต้องไปขออนุญาตเปิดทาง หลังจากที่มีการจุดธูปไม่นาน ญาติก็ไปเจอจุดที่มีการซ่อนศพใต้ถุนบ้านทันที

 

911310

ทีมข่าวได้เจอกับนายโย (นามสมมติ) คนงานก่อสร้างในคฤหาสน์หรู ในฐานะคนที่นั่งดื่มกินเหล้ากับคนตายเป็นกลุ่มแรก กล่าวว่า ในคืนวันเกิดเหตุ (8 ก.ค.64) เวลาประมาณ 19.00 น. ตนพร้อมด้วยนายสิทธิโชค หรือช่างสน และนายจะหวะหรือพงษ์ นั่งดื่มเหล้าขาวขวดเล็กอยู่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ โดยนั่งอยู่บริเวณโต๊ะไม้ จากนั้นเมื่อเหล้าขาวขวดเล็กหมด ตนอาสาขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปซื้อ เพราะผู้ตายฝากซื้อบุหรี่ 1 ซอง จากนั้นตนก็ได้ซื้อเหล้าขาวขวดใหญ่เพิ่มอีก 1 ขวด มานั่งดื่มกินด้วยกัน จนกระทั่งแยกย้ายเวลาประมาณ 20.00 น. จากนั้นได้อาบน้ำและเข้าห้องนอนไม่ได้สนใจใคร จึงไม่รู้ว่านายพงษ์ ผู้ต้องสงสัยที่หลบหนีอยู่ในขณะนี้ นั่งพูดคุยหรือดื่มกินกันต่อกับช่างสน นานแค่ไหน หรือมีเรื่องอะไรกันในตอนนั้นหรือไม่

cg-2_1

จากภาพกล้องวงจรปิดหน้าห้องของช่างสน บันทึกภาพเอาไว้ได้ เวลาประมาณ 22.16-23.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ปรากฏภาพของนายพงษ์ และคนงานอีกคนหนึ่ง ไปตะโกนเรียกให้ช่างสน ออกมาดื่มเหล้ากันต่อที่จุดเดิม โดยตอนนั้นตนทราบข้อมูลจากตำรวจ แต่ไม่รู้ว่ามีใครไปเรียกหรือมานั่งคุยอะไรกัน เพราะเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากที่ตนเข้านอนไปแล้ว แต่ส่วนตัวเชื่อว่าในวันดังกล่าวหากเกิดเหตุทะเลาะมีปากเสียงกัน ก็คงจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ชักชวนช่างสนออกมาดื่มเหล้าเป็นครั้งที่ 2 เพราะตอนที่นั่งอยู่กับตน นายพงษ์กับช่างสนไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน

806573

แต่หลังจากที่ช่างสนหายตัวไป ตนก็ไม่ได้ผิดสังเกตอะไร คิดว่าเขาอาจจะกลับบ้านไปแล้วก็ได้ รวมถึงช่างสนมีผู้หญิงหลายคน จึงคาดว่าอาจจะเดินทางไปเที่ยวหาผู้หญิงเหล่านั้นก็ได้ จึงไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องแปลก แต่สุดท้ายมาเจอศพถูกซุกอยู่ใต้บ้านที่ตนนอนอยู่ทุกคืน ก็รู้สึกกลัวและตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีคนมาทำร้ายจนถึงตาย แล้วนำศพมาซ่อนเอาไว้แบบนี้ 

678618

ในความเป็นไปได้ระหว่างกลุ่มผู้ต้องสงสัยใน 4 คน ตนเชื่อว่าคนที่น่าสงสัยมากที่สุดก็น่าจะเป็นนายพงษ์ เพราะเขาเป็นคนอารมณ์รุนแรง ตนก็เคยโดนนายพงษ์ทำร้ายร่างกาย ใช้ขวดทุบหัวจนแตก เพราะเกิดจากเหตุไม่พอใจในเรื่องของการแย่งการก่อสร้างภายในคฤหาสน์ ตนจึงเชื่อว่าอาจจะเป็นฝีมือของนายพงษ์ เพราะเท่าที่รู้จักกันเป็นคนอารมณ์ร้อน ประกอบกับใช้ความรุนแรงกับตนมาก่อน หากเป็นไปตามที่คาดตนก็อยากให้เขามอบตัว

176198

เวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนโรงพัก สน.บางเสาธง เขตตลิ่งชัน เดินทางลงพื้นที่มาพร้อมกับ พ.ต.อ.ศุภศักดิ์ โปรียานนท์ ผกก.สน.บางเสาธง เข้าไปสอบปากคำและขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปนิสัย และแรงจูงใจของการฆาตกรรมช่างรับเหมาก่อสร้างภายในพื้นที่คฤหาสน์หรู ซึ่งมีการสอบปากคำเจ้าของบ้านและคนที่อยู่ในบ้าน ประกอบกับมีการเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมไปตรวจสอบ อาทิ ไม้ถูพื้น 2 อัน ไม้กวางทางมะพร้าว 1 อัน จอบ 1 ด้าม ซึ่งมีการเก็บเพิ่มเติมภายในบ้านที่พักอาศัยของคนงาน โดยนำไปตรวจสอบเพื่อเชื่อมโยงเกี่ยวกับอาวุธที่ใช้ทุบนายสิทธิโชค เนื่องจากสภาพศพถูกของแข็งทุบบริเวณใบหน้า 

357997

ภายหลังใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ 1.30 ชม. พ.ต.อ.ศุภศักดิ์ โปรียานนท์ ผกก.สน.บางเสาธง เปิดเผยว่า เบื้องต้นขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการเรียกสอบปากคำครอบครัวของคนตาย และคนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านพักคนงานรวมทั้งสิ้น 5 ปาก และยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับใคร ส่วนใหญ่ทุกคนคือผู้ต้องสงสัย และยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดไปได้มากกว่านี้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ อีกครั้งเรื่องของแรงจูงใจก็ยังสรุปไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่เชื่อว่าคดีนี้เป็นคดีที่ไม่ได้มีความซับซ้อน เพราะทุกอย่างเริ่มคลี่คลายแล้วบางส่วน หลังจากที่พบเจอศพ

ขณะที่ผู้ต้องสงสัยหนึ่งราย เป็นชาวจ.เชียงราย ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ตอนนี้กำลังเร่งติดตามตัวเรียกให้เข้ามาให้ปากคำ เพราะยังไม่รู้ว่าใครเกี่ยวข้องหรือมีส่วนกับการตายบ้างหรือไม่ จึงต้องรอให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ จะสามารถออกหมายจับบุคคลที่ทำร้ายร่างกายให้ถึงแก่ความตายได้ และมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับซ่อนอำพราง ดังนั้งยังตอบไม่ได้ว่าจะมีการก่อเหตุเพียง 1 คน หรือก่อเหตุมากกว่า 1 คน เพราะอยู่ระหว่างขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส