เปิดใจ บอย เจ้าของเพจดัง ตั้งคำถามถึง อั้ม พัชราภา รักหมาจรจัด ราวชีวิตคนอาจถูกด้อยค่ากว่าหมา

14 ก.ค. 64

บอย เจ้าของเพจดัง เปิดใจ ยก อั้ม เป็นเคสสตาร์ดี้ เพื่อพูดถึงคนดังทุกคนในประเทศตอนนี้ได้ฉุกคิดว่า คุณค่าตอนนี้ถูกด้อยค่าต่ำกว่าสุนัขกันอยู่ไหม เชื่ออีกฝ่ายไม่ฟ้องคนชี้แสงสว่างแห่งปัญญาให้

กรณีเพจดัง Branding by Boy ได้ทำรูปมีมพร้อมกับมีข้อความเชิงตั้งคำถามถึงนางเอกชื่อดัง อั้ม พัชราภา โดยมีข้อความว่า “อั้ม พัชราภา รักหมาจรจัด ราวกับชีวิตคนไทยที่สนับสนุนอั้ม (อาจ) ถูกด้อยค่ากว่าหมาจรหรือไม่? รักหมา ช่วยหมา แต่ยังไม่ช่วยประชาชน ที่สนับสนุนตนเองผ่านการคอลเอาท์ พอคนเข้าไปสอบถามเลยขอเวลาส่วนตัวปิดไพรเวทไอจีนั้น

s__4431879

ล่าสุด คุณบอย เจ้าของเพจ Branding by Boy ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า “ต้องบอกว่าการเขียนบทความเรื่อง คอลเอ้าท์ หรือประชาธิปไตยในช่วงนี้ มันพูดในหลายๆแบบ บางบทความพูดตรงๆ ก็อ่านรู้เรื่องว่าพูดว่าอะไร แต่บางเรื่องอย่างเรื่องคุณอั้ม มันเป็นการเขียนที่ในประวัติ ที่ต้องอ่านซัพเจค เราไม่ได้พูดถึงเรื่องคุณอั้มคนเดียว เรากำลังพูดเรื่องคุณอั้ม ที่หยิบยกมาเป็นโรลโมเดล เพื่อสะท้อนคนดังทั้งประเทศ ที่ตอนนี้ ดังแล้วยืนท่ามกลางฟอลเลิฟเวอร์อันมากมาย และถามจริงถ้าคุณยังเงียบอยู่ คุณภาพชีวิตคนไทยตอนนี้ เอาตรงๆ ต่ำกว่าสุนัขอีก ไม่ได้บอกว่าให้ไปอิจฉาสุนัข แต่ถามตัวเองว่า ออกจากบ้าน วิ่งสะดวกออกนอกบ้าน ได้เท่ากับหมาที่วิ่งไปโลดแล่น

ตอนนี้หมาเห่า หมายังปลอดภัย คนไทยส่งเสียงออกไปเริ่มโดนปิดปาก เรื่องของการฉีดวัคซีน สุนัขมีวัคซีน พิษสุนัขบ้า ฉีดในแต่ปี ตัวมันรอด ตัวมันอยู่ได้ ตัวมันเดินโลดแล่นได้อย่างปลอดภัย แต่เราต้องล็อคดาวน์ เราพูดไม่ได้ เพราะกฎหมายบอกว่า ต่อให้บางเรื่องจริง แต่สร้างความหวาดกลัว ถ้าพูดจะโดนปรับ หรือแม้กระทั่งวัคซีนที่สุนัขมีวัคซีนดีๆฉีด และเขาปลอดภัย แต่ตัวเราเป็นคน ในความปลอดภัย สาธารณะสุข อิสระในการใช้ชีวิต หรือแม้กระทั่งอิสรภาพ ในการแสดงความคิดเห็นเราถูกหายไป เลยพูดผ่านเรื่องราวนี้ โดยที่เราใช้คุณอั้มเป็นสัญลักษณ์ในการเล่า แต่ไม่ได้เล่าเรื่องเธอ อินไซต์ เจาะลึกหรือคุยเรื่องคุณอั้มอยู่นะ ดังนั้นในฐานะของครูด้านสื่อสารการตลาด เราใช้คุณอั้ม เป็นตัวโมเดลสื่อผ่านเรื่องนี้ แมสเสจเรื่องนี้ไปยังสังคม แต่เราไม่รู้ว่าคนอ่าน ได้เข้าใจในสิ่งที่เราเขียนหรือเปล่า

s__4431877

การที่คุณอั้มไม่คอลเอ้าท์ ส่วนตัวเป็นสิทธิ์ของเขา แต่การที่เรายกเรื่องของคุณอั้มมาเป็นเคสสตาร์ดี้ พูดหรือวิจารณ์ในสังคมก็เป็นเรื่องของเรา ที่จะเราเรื่องผ่านเขา เพื่อพูดถึงคนดังทุกคนในประเทศตอนนี้ว่า แม้กระทั่งชีวิตพวกเธอเอง คนดังคุณค่าตอนนี้ ถูกด้อยค่าต่ำกว่าสุนัขกันอยู่ไหม และเราจะไม่ทำอะไรอีกหรอ

ถามว่า การพูดครั้งนี้กลัว “อั้ม พัชราภา” โกรธไหม คุณบอยชี้แจงว่า “ถ้าคุณอั้มเห็นรูปอาร์ตเวิร์ค และข้อความที่เราเขียนในเพจ เราเชื่อว่าเขาอ่านต้องเข้าใจความหมาย เชื่อว่าเขาฉลาด เพราะเขาอยู่ในวงการมานาน อยู่ดีๆมีคนมาเขียนถึงหรือพูดถึงเขาพูดถึงในมุมมอง เรื่องอะไรอยู่ หรือเขาเล่าเรื่องอะไรกันอยู่ เชื่อว่าไม่โกรธ แต่สิ่งสุ่มเสี่ยงคือ คนแวดล้อมคุณอั้มมากกว่า ที่อาจจะพูดว่า ให้ฟ้องคุณบอยเลย ฟ้องหมิ่นประมาทเลย แต่ในมุมมองเราเชื่อว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่มานั่งฟ้องหมิ่นประมาทคนที่เขานำเสนอแสงสว่างแห่งปัญญาให้กับคุณ ถ้าคุณรู้ว่า สิ่งเหล่านี้เขากำลังเทคแอคชั่นอะไรบางอย่างกับคุณ ถ้าเราเป็นเขา เราจะรีบทำบางอย่างเพื่อเปลี่ยนวิธีคิดทางสังคม และทำให้คนเข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้นว่า เห้ย..ฉันไม่ได้รักแค่หมา ฉันมองว่าเรื่องปากท้อง โรคระบาด เรื่องของสถานการณ์สังคม บ้านเมืองก็สำคัญไม่แพ้กัน”

s__4431880

คุณบอยเชื่อว่า การแก้เกมส์ในเรื่องของภาพลักษณ์ของอั้ม พัชราภา หากอยากสร้างความน่าเชื่อถือกลับมา ให้กลับตัวเอง เราต้องไม่โกรธคนสะท้อนถึง เราต้องรับฟังเสียงต่างๆ แล้วประมวลผล ว่า ในสถานการณ์แบบนี้เราเลือกที่จะปิดไอจีเป็นไพรเวท หรือเราจะเลือกเปิดไอจีเป็นสาธารณะเพื่อพูดข้อความบางอย่างที่ขับเคลื่อนสังคม เช่น ไม่ว่าจะหมาหรือคน อั้มก็รักค่ะ

ตอนนี้ที่ “อั้ม พัชรภา” ปิดไอจีไป ในมุมมองของคุณบอยกล่าวว่า “สิทธิ์ในการเงียบ หรือจะปิดไอจีเป็นส่วนตัว หรือจะทำอะไรก็ตาม เป็นสิทธิ์ของคุณอั้ม เขามีสิทธิ์ทุกอย่าง อาจจะรำคาญหรือรู้สึกรบกวนเลยเลือกที่จะปิด แต่ถ้าความคิดเราคิดว่า หากสปอตไลท์ส่องมาเบอร์นี้ คนก็ต้องคาดหวังแล้วว่า อั้ม อาจจะเปิดไอจีมาพร้อมกับคลิปวิดีโอปังๆที่สังคมกำลังรอฟัง”

หากคนที่มองว่า การตั้งคำถามแบบนี้คือการคุกคาม ตนต้องย้อนกลับไปถามว่า “คุณโตมาแบบไหน ระบบการศึกษาแบบไหนถึงห้ามถาม หรือห้ามแสดงความคิดเห็น ดังนั้นประเทศที่จะเปลี่ยนการวิธีคิดนี้ได้ ต้องเปลี่ยนระบบการเรียนรู้ก่อน คือเชื่อในการถาม การตอบ การวิพากษ์วิจารณ์ อยากจะบอกว่าคุณอั้มไม่ได้ผิด และความกดดันทางสังคมก็ไม่ผิดเช่นกัน เพราะไม่ว่าตอนนี้จะเงียบหรือจะพูดมันจะมีต้นทุนที่ต้องแลก สุดท้ายอยากฝากไปถึงคนดังว่า ทุกวันนี้เวลาออกรายการ ก็ต้องใส่หน้ากากอนามัย ชีวิตคุณอยู่กับความสวยและใบหน้าตลอดเวลา แต่ต้องมาใส่หน้ากากอนามัยบดบังความสวยงามบนใบหน้า ลองกลับไปถามตัวเองดี ๆ ว่า สุขสบายจริงหรือเปล่า”

อั้ม พัชราภา ฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม เรียบร้อยแล้ว อวดความสวยสดใส
อั้ม พัชราภา พาทั้งครอบครัว ฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรก แต่ดันเกิดดราม่าเบาๆ
อั้ม พัชราภา โพสต์ภาพอ่านหนังสือแบบสวยๆ แต่งานนี้แฟนๆโฟกัสที่ชื่อหนังสือ!

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ