อิตาลี ประกาศ ยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่กลางแจ้งทั้ง 20 แคว้นทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ (28 มิ.ย.) หลังจากพบว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลงอย่างมาก เช่นเดียวกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอิตาลีที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ไบเดนไฟเขียว ฉีดวัคซีนโควิด ครบสองเข็ม ไม่ต้องใส่หน้ากากในสหรัฐฯ
การประกาศยกเลิกการบังคับประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัยในครั้งนี้ ถือเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญ ที่บ่งชี้ว่า มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของทางการอิตาลีประสบความสำเร็จ จากเดิมที่อิตาลีเคยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นับจากที่พบผู้ติดเชื้อรายแรกในอิตาลีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563 ที่ผ่านมา
ข้อมูลจากทางการอิตาลีล่าสุดระบุว่า ขณะนี้ มีผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในอิตาลี อย่างน้อย 1 โดสแล้ว ราว 54.77% ของประชากรทั้งประเทศ ขณะเดียวที่ผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วมีสัดส่วนราว 29% ของประชากร 60.3 ล้านคนทั่วประเทศ
นอกเหนือจากการประกาศเลิกบังคับประชาชนสวมหน้ากากอนามัย รัฐบาลอิตาลียังประกาศ เริ่มเปิดรับนักเดินทางจากสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา และญี่ปุ่น ให้สามารถเดินทางเข้ามายังอิตาลีได้แล้ว หากเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มาแล้ว หรือมีเอกสารทางการแพทย์ที่ยืนยันว่า ไม่ติดเชื้อ
ทั้งนี้ อิตาลีมียอดผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดวันที่ 29 มิ.ย.64 อยู่ที่ 4,258,45 คน และมีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ 127,500 ราย
อู่ฮั่น จัดพิธีจบการศึกษาให้ น.ศ.นับหมื่นคน ไม่ต้องสวมแมสก์-เว้นระยะห่าง
รมว.สาธารณสุข อังกฤษ ลาออกเซ่นปมละเมิดกฎเว้นระยะห่าง หลังโดนแฉจูบผู้ช่วยในกระทรวง