เสี่ยบีเอ็มกับน้องหนูส่อซวย พยานแฉซิ่งเหยียบเกิน 90 ระทึกกู้ภาพตายจับโป๊ะโกหก (คลิป)

จากกรณีรถเก๋งสปอร์ต บีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น Z4 ทะเบียน 3กก7558 กรุงเทพมหานคร โดยมี นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง คนขับ อายุ 50 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร และน.ส.เมย์ อายุ 18 ปี ที่นั่งมาด้วย เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนนไปชนกับรถเก๋งซูซูกิ สวิฟต์ ทะเบียน 1ขฐ9316 กรุงเทพมหานคร ที่วิ่งมาทางตรงมุ่งหน้าเข้าตัว จ.เพชรบูรณ์ ทำให้คนขับและคนที่นั่งข้างคนขับมาที่อยู่ในรถเก๋ง สวิฟต์ เสียชีวิตทันที 2 ราย คือ น.ส.กรกฏ หิรัญ อายุ 31 ปี คนขับ และน.ส.วรรณกานต์ วรรณกายนต์ อายุ 29 ปี และคนขับบีเอ็มดับเบิ้ลยู เสียชีวิตด้วยนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดใจสาว 18 แจงเสี่ยบีเอ็มแค่เพื่อนชวนถ่ายงาน ปัดยุเสี่ยซิ่งอ้างหลับไม่รู้ชน 2 ศพ
- กูรูรถฟันธงเสี่ยบีเอ็มชนตาย 2 ศพ ไม่ได้เหยียบ 80 แจงเก๋งสวิฟต์ทำไมตายยกคัน
- พ่อแม่ยืนช็อกรับศพ 2 สาว ญาติเสี่ยบีเอ็มโร่ขมาปัดซิ่ง อึ้งโพสต์พลีชีวิตเป็นทาสพริตตี้
- ใจแทบขาด! พ่อร่ำไห้รดน้ำศพลูก รับไม่ได้เสี่ยบีเอ็มซิ่งตามคำยุพริตตี้ 2 ครอบครัวจ่อฟ้อง

วันที่ 15 มิ.ย. 64 นายศราวุธ บรรพทา อายุ 30 ปี เจ้าของกล้องหน้ารถที่บันทึกภาพก่อนเกิดเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนวิ่งเลนขวา ใช้ความเร็วประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นเห็นรถฮอนด้าซิตี้สีดำขับตามมา ตนจึงหลบซ้ายให้รถซิตี้สีดำขับแซง เมื่อซิตี้แซงไปพบว่าบีเอ็ม z4 ขับตามซิตี้ดำ และทำทีจะแซงด้านซ้าย แต่มีรถฟอร์จูนเนอร์อยู่ข้างหน้าจึงกลับมาขับตามซิตี้ดำ จนซิตี้ดำหลบซ้าย ทำให้บีเอ็มขับแซงขวาขึ้นไป ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นช่วงโค้งยาว

จากนั้น ตนก็ขับตามไปเรื่อย ๆ แต่เนื่องจากขณะนั้นฝนตก มีหมอกทำให้มองไม่เห็นทัศนวิสัยข้างหน้า จนเลยโค้งมาประมาณ 500 เมตร พบว่ารถบีเอ็มประสบอุบัติเหตุข้ามเกาะกลางไปอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้ว ตนจึงจอดรถเพื่อลงไปให้การช่วยเหลือ ซึ่งตอนแรกตนเดินไปที่รถบีเอ็ม พบว่าผู้หญิงที่นั่งข้างคนขับยังมีสติ พูดคุยได้ แต่บอกว่าขาติดอยู่ในรถ ส่วนคนขับแน่นิ่งไป มีรูคล้ายรอยกระแทกบางอย่างที่ศีรษะด้านซ้าย ซึ่งตอนนั้นตนบอกผู้หญิงให้รอเจ้าหน้าที่กู้ภัยก่อน จากนั้นเดินไปดูรถสวิฟต์ โดยงัดประตูเปิดออกมา พบว่า ผู้หญิงทั้ง 2 คนในรถแน่นิ่ง ตนจึงพยายามเรียก แต่ไม่มีการตอบสนอง จึงลองจับชีพจรพบว่าเสียชีวิตแล้ว

ระหว่างนั้นรถบีเอ็มมีไฟลุกจากห้องเครื่องด้านหน้า ตอนนั้นตนและคนที่เข้ามาดูเหตุการณ์พยายามหาถังดับเพลิง และรีบวิ่งไปช่วยคนเจ็บ พร้อมคนขับรถออกมาวางข้างนอกก่อนเพราะไฟเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งมีถังดับเพลิงเข้ามาช่วยดับไฟไม่ให้ลุกลาม ส่วนทรัพย์สินต่าง ๆ ในรถแทบดูไม่ออกว่ามีอะไรบ้าง เพราะทุกอย่างเละไปหมด ประกอบกับตนไม่ได้สนใจตรงนั้น ต้องช่วยคนเจ็บออกมาก่อน

ทั้งนี้เชื่อว่ารถบีเอ็มใช้ความเร็วเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแน่นอน โดยเฉพาะช่วงโค้ง ซึ่งแซงตนไปจนมองแทบไม่เห็นข้างหน้า
โดยช่วงเกิดเหตุฝนตก แต่ไม่หนักมาก บนพื้นมีน้ำขัง โดยเฉพาะเลนซ้ายที่เป็นทางยาวเพราะเป็นเลนรถบรรทุก ส่วนเลนขวามีน้ำขังเล็กน้อย ส่วนตัวคิดว่าการที่บีเอ็มขับเร็วก็คิดว่ารถคงสมรรถนะดี จนมาเกิดเหตุดังกล่าว

ขณะเดียวมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง บอกว่ากล้องหน้ารถของพ่อจับภาพวินาทีชนได้อย่างชัดเจน แต่เมมโมรี่การ์ดโดนเซฟทับไปแล้ว อยากให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยกู้ข้อมูล เนื่องจากอยากช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต คิดว่าภาพในกล้องหน้ารถพอจะเป็นหลักฐานที่มีประโยชน์กับครอบครัวคนตาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

นายเกียรติศักดิ์ หนุนวงษ์ อายุ 33 ปี ลูกชายของนายศรีศักดิ์ หนุนวงษ์ ผู้ที่ขับรถตามรถเก๋งซูซูกิสวีฟ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุพ่อไปทำธุระที่ จ.ปทุมธานี กับแม่และกำลังจะกลับบ้านที่ จ.เลย โดยได้ผ่านมาบริเวณทางหลวงหมายเลข 21 สายสระบุรี-หล่มสัก หมู่ 7 ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ฝั่งขาเข้าเพชรบูรณ์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุขับตามหลังรถเก๋งซูซูกิสวีฟต์ ที่ถูกรถเก๋งบีเอ็ม Z4 ข้ามเกาะจนเสียชีวิต รถของพ่อเป็นคันที่ 3 ระยะมองเห็นไม่ไกลมาก พ่อบอกว่าเห็นรถเก๋งบีเอ็มข้ามเกาะกลาง พุ่งมาชนกับรถเก๋งซูซูกิสวีฟต์จนเสียงดังสนั่น และเกิดไฟลุกขึ้น หลังจากนั้นพ่อจึงรีบจอดเพื่อลงไปช่วยเหลือ พร้อมเอาถังดับเพลิงในรถไปช่วยดับไฟ จนกระทั่งกู้ภัยมาถึงพ่อกับแม่จึงขับรถกลับบ้าน

 

หลังจากนั้นพ่อกับแม่ได้โทรเมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง กล้องหน้ารถของพ่อสามารถจับภาพไว้ได้ จึงได้นำเมมโมรี่การ์ดมาเปิดดูพบว่ามีปัญหาเนื่องจากไฟล์ภาพได้มีการเซฟทับไปแล้ว จึงมองไม่เห็นภาพ ด้วยความที่ตนเองสงสารครอบครัวคนตาย จึงอยากรีบกู้ไฟล์ภาพคืนมาเพื่อใช้เป็นหลักฐานในคดีนี้ได้ แต่ตอนนี้ยังกู้ไม่ได้ จึงโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนและคนรู้จัก จนกระทั่ง เพื่อนมาช่วยกู้ไฟล์คืนมาได้บางส่วน แต่ก็ยังเปิดดูไม่ได้ จึงอยากให้ผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือกู้ไฟล์ภาพจากเมมโมรี่การ์ดอย่างไรก็ตาม วันนี้พ่อกับแม่ไปทำธุระจึงไม่สามารถให้ข้อมูลได้

 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบรถยนต์เก๋งสปอร์ตย BMW รุ่น z4 และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟต์ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ

พ.ต.อ.พีรเพ็ชร อุบลจิตร์ ผกก.สภ.นาเฉลียง ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นสังเกตได้ว่ารถเก๋งสปอร์ต BMW รุ่น z4 นั้น มีสภาพหน้ายางที่ค่อนข้างจะเริ่มแข็งแล้วโดยยางผลิตปี 2018 หรือเป็นระยะเวลา 4 ปีแล้ว ส่วนความเร็วของเข็มไมล์ที่ค้างอยู่หน้าจอพบว่าความเร็วอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนรอบไมล์อยู่ที่ 2,000 รอบ