ถอดรหัสขน 3 เส้นปิดคดีชมพู่ 8 พยานมัดคนร้ายไม่ผิดตัว (คลิป)

กรณีคดีน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ชาวหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ที่หายตัวจากบ้าน และไปพบเสียชีวิตบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพักกว่า 2 กม. กระทั่งพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เปิดเผยว่า มีคำตอบในเรื่องนี้แน่นอน

เนื่องจากพบหลักฐานเส้นขนจำนวน 3 เส้น ที่ตรวจดีเอ็นเอจนสามารถระบุได้แล้วว่าเป็นของใคร รวมถึงเส้นผมของน้องชมพู่ที่ถูกหั่น 36 เส้น และคำให้การของพยานแวดล้อมทั้งหมด 8 รายที่ได้เข้าเครื่องจับเท็จ

สำหรับบุคคลที่เข้าเครื่องจับเท็จในคดีน้องชมพู่ ได้แก่ นายอนามัย นางสาวิตรี นางจุไรภรณ์ นายเสริม นายนรินทร์ น.ส.สายฝน นายไชย์พล ครูบารัตน์ พระบุญมา นางส้มโอ นางดอน ด.ช.ก๊วยเจ๋ง และพ่อแบม 

ล่าสุดวันที่ 1 มิ.ย.64 เวลาประมาณ 07.00 น. นางสาวีตรี นายอนามัย วงศ์ศรีชา แม่และพ่อน้องชมพู่ ได้เตรียมสังฆทานโดยเขียนข้อความว่า อุทิศให้ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา (ชมพู่) พร้อมกับอาหารคือลาบปลาดุก ต้มไก่ ไก่ทอด ขนมและนมเปรี้ยว เพื่อไปทำบุญวันคล้ายวันเกิดที่วัดถ้ำภูผาแอก วัดประจำบ้านกกกอก

เมื่อมาถึงที่วัดถ้ำภูผาแอก แม่น้องชมพูได้จัดเตรียมอาหารใส่ถาด เพื่อถวายพระอาจารย์บุญมา พระประจำวันถ้ำภูผาแอก จากนั้นพระอาจารย์บุญมา ได้สวดมนต์ให้พรแม่น้องชมพู่ หลังฟังพระสวดเสร็จ พ่อและแม่น้องชมพู่ ได้ไปกรวดน้ำที่ต้นไม่ข้างศาลาวัด

ต่อมาพ่อและแม่น้องชมพู่ ได้เดินทางมาที่โกศเก็บกระดูกของน้องชมพู่ พร้อมกับนำขนมและนมเปรี้ยว มาวางที่หน้าโกศ จากนั้นพ่อและแม่น้องชมพู่ได้พูดสั้น ๆ ว่า "แม่เอาขนมและนมมาให้แล้วนะ"

หลังทำบุญวันเกิดเสร็จ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา หรือ แม่น้องชมพู่ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ (1 มิ.ย.64) ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของตน จึงถือโอกาสมาทำบุญวันเกิดตามปกติที่เคยทำ ตนก็ได้ขอพรให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ส่วนเรื่องคำตอบของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตนก็ลุ้นความคืบหน้าคดีอยู่เหมือนกัน สำหรับวันนี้ตนจะรอคำตอบจาก ผบ.ตร. จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.64

ถ้าวันนั้นมาถึงจริง ๆ ตนอยากจะถามคนร้ายว่าเขาทำได้อย่างไร ทำไปเพื่ออะไร ไม่ว่าคนร้ายจะเป็นใคร ก็จะไม่อโหสิกรรมให้แน่นอน เพราะใครที่กล้าทำให้คนตายไม่ควรให้อภัย เนื่องจากทำให้ตายโดยเจตนา ไม่ใช่อุบัติเหตุ หรือพลาดพลั้ง ที่ตนมาที่โกศของน้องชมพู่ ตนไม่ได้มาบอกลูกสาวถึงคืบหน้าคดีแต่อย่างใด ตนแค่เอาขนมและนมเปรี้ยวมาให้ ตนอยากให้ลูกสาวเป็นเด็กต่อไป ทั้งนี้ ตนรอให้ถึงวันที่ได้ตัวคนร้าย ตนก็จะมีอะไรบอกน้องชมพู่แน่นอน ตนยังยืนยันเหมือนเดิมว่า น้องชมพู่ไว้วางใจหรือสนิทกับคนใกล้ชิดเท่านั้นถึงจะยอมให้อุ้ม หรือไปไหนมาไหนด้วย

เวลา 17.00 น. นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อน้องชมพู่ ได้นำเค้กลายดอกไม้ เข้ามาเซอร์ไพรส์นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 40 ปี พร้อมกับร้องเพลงอวยพรวันเกิด ซึ่งระหว่างร้องเพลง พ่อน้องชมพู่ มีน้ำตาคลอเล็กน้อย ก่อนจะยื่นเค้กให้แม่ชมพู่ ซึ่งหลังรับเค้ก แม่น้องชมพู่ ได้นำเค้กยกขึ้นเหนือศีรษะเพื่ออธิษฐานขอพร ซึ่งแม่น้องชมพู่ได้อธิฐานในใจ

แม่น้องชมพู่ ยอมรับว่า รู้สึกดีใจที่ถูกเซอร์ไพรส์ในวันเกิดปีนี้ โดยเค้กก้อนนี้ถือเป็นเค้กก้อนแรกในชีวิต เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยจัดงานวันเกิด ตนเคยแต่ทำบุญตักบาตร ส่วนเรื่องคดี วันนี้ตนยังไม่อยากพูดถึง เพราะเป็นวันเกิด ที่ผ่านมาวันเกิดทุกปีจะมีน้องชมพู่มาอยู่เคียงข้างด้วย

ผู้สื่อข่าวได้นำภาพ ผบ.ตร. มาให้แม่น้องชมพู่ขอพร แต่แม่น้องชมพู่ บอกว่าตนได้ขอพรในใจแล้วส่วนเรื่องคดีปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

จากนั้นนายอนามัย ได้มอบเคียว 1 เล่ม และแหวนทองคำน้ำหนัก 1 สลึงให้กับแม่น้องชมพู่ เพื่อเป็นของขวัญ พร้อมกล่าวว่า สาเหตุที่เลือกเคียวมาเป็นของขวัญ เพราะเคียวแบบนี้แม่ชมพู่ไม่เคยมี ส่วนแหวน 1 สลึง ตนใช้เงินเก็บทั้งหมดที่มีซื้อให้ จากนั้นแม่น้องชมพู่ได้นำแหวนสวมตามนิ้วมือของตัวเอง 

พระอาจารย์บุญมา เจ้าอาวาสวัดป่าภูผากเเอก บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร หนึ่งในพยานที่เข้าเครื่องจับเท็จ ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีผบ.ตร. ออกมาให้ข้อมูลความคืบหน้าเกี่ยวปับคดีน้องชมพู่ ว่าจะมีผลเป็นที่น่าพอใจภายในเดือนมิ.ย.64 อาตมาก็เห็นว่าถ้าได้ตัวคนร้ายก็ถือเป็นเรื่องดี ส่วนการหาตัวคนร้ายอาตมาก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ อาตมาคิดว่าที่น้องชมพู่เสียชีวิตเป็นเรื่องของกรรม และคิดว่าน้องชมพู่เดินไปเสียชีวิตบนภูเหล็กไฟไม่ได้ คาดว่าน่าจะมีอย่างอื่นพาไป ซึ่งช่วงแรก ๆ ที่เป็นคดี อาตมาก็เคยให้ข่าวแบบนี้มาโดยตลอด

ส่วนเรื่องข้อมูลที่อาตมาเคยให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับไทม์ไลน์ของลุงพล และตอนที่ลุงพล บอกกับอาตมาว่า น้องชมพู่หายตัวไปก่อนส่งครูบารัตน์นั้น อาตมาก็ยืนยันคำให้การเดิมกับตำรวจ อย่างไรก็ตาม ถ้าตำรวจปิดคดีนี้ได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี จะได้ช่วยให้ชาวบ้านและคนทั้งประเทศสบายใจและหายสงสัย

เวลา 13.00 น. บรรยากาศลานพญานาคบ้านลุงพล เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ช่างเที่ยงลุงพล - ป้าแต๋น เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน หลังจากที่ออกไปทำธุระช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่ทันทีที่ทีมข่าวลงพื้นที่เก็บภาพบรรยากาศบริเวณลานพญานาค กลุ่มยูทูเบอร์ที่กระจายตัวกันอยู่ตามร้านค้า ตามที่พัก ก็พากันนำโทรศัพท์มือถือออกมาไลฟ์สด สังเกตการณ์การทำงานของทีมข่าว

เวลา 14.20 น. นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ได้ขับรถกระบะส่วนตัวออกจากบ้าน เพื่อเดินทางมาที่ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร ในฐานะที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคุณแพน หรือน.ส.อรุชิดา สุวรรณประไพร ในคดีหมิ่นประมาท กรณีที่คุณแพน ได้ไปออกรายการรายการหนึ่ง แล้วหมิ่นประมาทลุงพล

เมื่อมาถึงที่ สภ.กกตูม ลุงพลได้ให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยใช้ประมาณ 20 นาที พร้อมกับทนายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความส่วนตัว หลังจากให้ปากคำเสร็จ ทีมข่าวได้สอบถามถึงความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ แต่ลุงพลปฏิเสธให้ข้อมูล ทีมข่าวจึงได้สอบถามว่าช่วงนี้มีความเครียดหรือกังวลอะไรหรือไม่ ลุงพลได้ยิ้มออกมา ก่อนจะมียูทูเบอร์กันตัวลุงพลออกจากนักข่าว เพื่อขึ้นรถกระบะขับออกไปพร้อมกับทนายสมเกียรติ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ระบุว่า 4 สมมติฐาน ได้แก่ 1.คนร้ายต้องอยู่ในที่เกิดเหตุ 2.คนร้ายต้องเป็นคนที่สามารถอุ้มน้องชมพู่ได้โดยไม่ร้องไห้ขัดขืน หรือเป็นคนแปลกหน้าที่ใช้การบังคับ 3.คนร้ายต้องรู้จักภูเหล็กไฟ หรืออย่างน้อยต้องเคยเดินขึ้นไป และ 4.ต้องมีแรงจูงใจ 

สำหรับเทคนิคการตรวจ DNA ตามมาตรฐานในประเทศไทย การตรวจดีเอ็นเอจากเส้นผม หรือเส้นขนที่มีราก ไทยทำได้หลายสถาบัน เรียกว่า “STR อนาไลซิส” ส่วนเส้นขนที่ไม่มีรากเรียกว่า ตรวจแบบ “ไมโทคอนเดรีย DNA” สถาบันในไทยก็สามารถตรวจได้

ผู้หญิงในตระกูลน้องชมพู่ ใครเคยขึ้นเขาภูเหล็กไฟบ้าง หลังวันที่ 11-14 พ.ค.63 โดยนางสมพร นางสาวิตรี และนางจุไรภรณ์ ทั้ง 3 คน ยืนยันว่าไม่เคยขึ้นไปบนภูเขาดังกล่าว ส่วนอีก 1 คน น.ส.สายฝน ไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่าเคยขึ้นไปหรือไม่ 

นางนลิน เงินนาม หรือ ป้าถอน ชาวบ้านกกกอก เปิดใจว่า ส่วนตัวก็ลุ้นว่าเมื่อไรตำรวจจะจับคนร้ายในคดีนี้ได้ เพราะคดีเลยมากว่า 1 ปีแล้ว ตนยอมรับว่าตั้งแต่เกิดคดีของน้องชมพู่มา ตนและชาวบ้านก็รู้สึกกลัว ออกไปทำมาหากินด้วยความหวาดระแวง เพราะว่าหากคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ วันหนึ่งก็อาจจะเป็นอันตรายกับตัวเองได้

ทั้งนี้ รู้สึกดีใจที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุว่าจะมีคำตอบคดีน้องชมพู่ภายในเดือนมิ.ย.64 และดีใจกับกระแสข่าวที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับคนร้าย หากตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว และมีโอกาสได้พบหน้าคนร้าย อยากจะพูดอะไรกับคนร้ายว่า "ทำไมถึงเก่งจัง ไม่ทิ้งร่อยรอยและหลักฐานใด ๆ ไว้ให้ตำรวจ เสมือนเรียนจบดร.มา"

นอกจากนี้ ป้าถอน ยังจะถามด้วยว่า "ทำไมถึงทำกับเด็กวัยเพียงแค่ 3 ขวบได้" เด็กไปทำอะไรให้ ถ้าผู้ใหญ่ทะเลาะกันก็ว่าไปอย่าง อย่างไรก็ตาม น้องชมพู่จะไม่ยอมไปกับคนแปลกหน้าเด็ดขาด ขนาดตนที่เคยหยอกล้อกับน้องชมพู่ ก็ยังไม่ยอมให้ตนอุ้มเลย 

 

รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า เหตุผลจริง ๆ ตนก็ไม่รู้ว่าทำไมเจ้าหน้าที่ต้องส่งไปตรวจที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมาตรฐานในประเทศไทย ตรวจดีเอ็นเอจากเส้นผม หรือเส้นขนที่มีราก ไทยทำได้หลายสถาบัน เรียกว่า “STR อนาไลซิส” ส่วนเส้นขนที่ไม่มีรากเรียกว่า ตรวจแบบ “ไมโทคอนเดรีย DNA” สถาบันในไทยก็สามารถตรวจได้

 

 

กรณีนี้อาจเป็นข้อมูลเชิงลึก หรืออาจมีเทคนิคใหม่ ๆ ที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเพิ่มเติม จึงมีการส่งเส้นขน ไปตรวจที่ห้องแล็บประเทศสิงคโปร์ ขณะเดียวกันมีหลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมคดีน้องชมพู่ ผ่านมา 1 ปี เพิ่งจะมาพูดถึงเรื่องเส้นขน หากย้อนไปดูเรื่องวัตถุพยาน มีการพูดถึงเรื่องเส้นขนนานแล้ว ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ออกมาบอกว่า ตรวจดีเอ็นเอ 100 กว่าตัวอย่าง จากวัตถุพยาน จึงเป็นไปไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่เพิ่งจะมาตรวจเส้นขนเร็ว ๆ นี้

 

 

สิ่งที่สำคัญ คือ แม้จะเจอเส้นขนและตรวจออกมาจนรู้ว่าเส้นขนเป็นของใคร แต่สิ่งสำคัญจะต้องสืบต่อไปว่าเส้นขนไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ต้องเชื่อมโยงให้ได้ ไม่ใช่ตรวจว่าของใครแล้วจบ เพราะหลายคดีที่ผ่านมา มีการบนเปื้อนของวัตถุพยาน เช่นเดินไปแล้วเส้นขนไปตกอยู่ แล้วเจ้าของเส้นขนไม่ได้เกี่ยวกับคดี แต่แค่เดินผ่านไปเท่านั้น ซึ่งต้องไปหาหลักฐานอื่น ๆ มาประกอบ