ขสมก.แจงแล้ว! หนุ่มล้มตึงไม่เกี่ยววัคซีน แค่ลมชักกำเริบ เจ้าตัวยันปลอดภัยดี (คลิป)

29 พ.ค. 64

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปชายล้มลงไปนอนกับพื้น หลังจากไปฉีดวัคซีนออกมา โดยข้อความโพสต์บอกว่าเป็นหนุ่มโรงงานฉีดไปครึ่งชั่วโมง ลงไปนอนดิ้น หลังจากที่มีคนแชร์โพสต์ไปจำนวนมาก มีคนในโลกโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์คลิปออกไปเป็นจำนวนมากนั้น

197332

วันที่ 29 พ.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โดยบรรยากาศการฉีดวัคซีนคนที่เดินทางมาใช้บริการ ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานการเดินรถของ ขสมก. และพนักงานของส่วนงานต่าง ๆ เกี่ยวกับการคมนาคม บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

309684

นายชำนาญ อยู่สอาด อายุ 60 ปี รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ ขสมก. เปิดเผยว่า ตนต้องขออภัยกับคลิปภาพที่ออกไปทำให้เข้าใจผิดกัน และตกใจ ความเป็นจริงเรื่องนี้ตนเองได้สอบหาข้อเท็จจริงแล้ว ทราบว่าชายคนที่ปรากฏในคลิปเป็นพนักงาน ของขสมก. ชื่อนายอาทร ถิ่นรัตน์ อายุ 33 ปี พนักงานเก็บค่าโดยสาร ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล อาการปลอดภัยดีแล้ว แต่ยังคงต้องให้รักษาตัวอยู่ 2-3 วัน

666180

สำหรับอาการคือมีโรคประจำตัวคือชักกระตุก วันที่มาฉีดวัคซีนบอกว่ามั่นใจว่าตัวเองยังหนุ่มอยู่ ตื่นเต้นกับการฉีดวัคซีนตามภาษาวัยรุ่น จึงไม่ได้แจ้งกับทีมแพทย์ว่ามีโรคประจำตัว เบื้องต้นได้สอบถามกับแล้วได้ความว่าวันเกิดเหตุ หลังจากฉีดวัคซีนเสร็จก็เดินออกไป ที่ลาดจอดรถ อากาศร้อน ระหว่างเดินไปนึกได้ว่าลืมของจึงเดินกลับมาที่ประตูทางออกที่ 4 หลังจากนั้นก็ล้มลงไปชักที่พื้น ซึ่งจากการสอบถามถึงอาการของโรคประจำตัว ทราบว่านายอาทรลืมทายยาก่อนที่จะมาฉีดวัคซีนด้วย

257814376149

หลังจากนี้ ก็คงให้นายอาทรเข้ามาทำงานในส่วนงานอื่นที่ไม่ใช่เกี่ยวกับการเดินรถ เพราะถ้าไปล้มชักอีกระหว่างทำงาน จะทำให้เสียภาพลักษณ์ของ ขสมก. ส่วนประเด็นที่มีคนนำคลิปภาพไปแชร์กันและทำให้เข้าใจผิดหรือทำให้เสียหาย ตนได้พูดคุยกับท่าน ผอ.แล้วว่าจะไม่เอาเรื่อง แต่ขอให้ครั้งต่อไปเช็กข้อมูลให้ดีก่อนที่จะโพสต์หรือแชร์ข้อมูลออกไป

8oxh;p

นายอาทร พนักงาน ผู้ป่วย เปิดใจยืนยันว่า ตนมีชีวิตอยู่ อาการปกติดีแล้ว "ผมไม่ได้ชักเพราะการฉีดวัคซีน ผมมีโรคประจำตัวเอง ผมไม่ได้รับยามา 3-4 เดือน อาการมันก็เลยกำเริบ" ทั้งนี้ ขอขอบคุณหัวหน้าทุกท่านด้วยที่ช่วยเหลือ และขอโทษเพื่อนร่วมงานทุกคนด้วยที่ทำให้เป็นห่วง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส