จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Kim Signature โพสต์ภาพบันทึกวงจรปิดพร้อมระบุข้อความว่า เปิดคลิปลูก อบต. จอมกร่าง ที่มีข่าวบังคับกราบเท้าเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว กร่างไม่หยุด ลูกนายกอบต. ปราจีนฯ กลับมาอีกครั้ง รอบนี้เอาปืนตบหน้าผู้หญิง หน้าโรงงาน สาวโร่โพสตามหาผู้เห็นเหตุการส่งคลิปให้ที วันนี้ยกมากับพวก 5 คน มาดักทำร้ายและเอาปืนดักตบผู้หญิงที่หน้าโรงงาน ตอนเลิกงานเวลาประมาณ 16.40 น.
วันที่ 13 พ.ค. 64 นางยุพารัตน์ จุมพล อายุ 38 ปี ชาว ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เล่าว่า ตนกับคู่กรณีมีปัญหาส่วนตัวกันมานานแล้ว แต่วันนี้คู่กรณี พาพวกรวม 5 คน ดักรอหน้าโรงงาน ตนด้นำคลิปและผลการตรวจร่างกายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ และนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายเพราะหวั่นเรื่องความไม่ปลอดภัย เพราะผู้ที่ก่อเหตุเป็นถึงลูกนายก อบต.
ทั้งนี้ ปัญหาคือคู่กรณีมีเมีย จดทะเบียนสมรส มีลูกแล้ว มาคุยกับน้องสาวตนซึ่งมีลูกมีสามีเช่นเดียวกัน ขณะนั้นเป็นช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 ตนเองเห็นคู่กรณีมารับน้องสาวที่บ้าน ตนเองมองว่าไม่ใช่เรื่องดีจึงโทรไปด่าทั้งคู่ และมีปากเสียงกันทางโทรศัพท์ ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 64 คู่กรณีโพสต์ด่าตนเองทางเฟซบุ๊ก กล่าวหาว่าตนเองเลี้ยงลูกน้องสาวไม่ดี สั่งสอนหลานเอาความคิดสกปรกใส่หัว สร้างความไม่พอใจให้ตน จึงตัดสินใจโพสต์โต้ตอบ คาดว่าเจ้าตัวก็ร้อนตัวมาดักทำร้ายตนเองอย่างในคลิปวงจรปิด
อย่างไรก็ตามวันนี้ตนเองเอาคลิปวงจรปิดมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐานเอาผิด ให้ถึงที่สุด เบื้องตำรวจลงไว้ 2 ข้อหา คือทำร้ายร่างกาย และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ
นางยุพารัตน์ บอกว่า หลังจากเกิดเรื่องอดีตหญิงสาวที่ตั้งครรภ์และถูกลูกนายกฯ อบต. คนนี้ให้กราบเท้าทักมาบอกพฤติกรรม และยังมีญาติแท้ ๆ ของชายคนนี้ทักมาบอกพฤติกรรมไม่ดีของชายคนนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งตอนนี้ รปภ. ถูกข่มขู่ว่าให้จองโลงศพไว้ ตนเองก็เป็นห่วงเพราะถ้าไม่ได้ รปภ. มาช่วยไว้ ตนเองคงแย่แน่ ๆ
นายเต้ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า นางยุพารัตน์พูดไม่จริง การที่ตนเองไปตบ มีเรื่องราวมาจากการหมดความอดทนที่นางยุพารัตน์โพสต์ด่าตนเองมาเป็นระยะเวลากว่า 5 เดือน ตนเองไม่เคยโต้ตอบ ไม่เคยแต้งความหมิ่นประมาท ทั้งยังกล่าวหาว่าตนเองไปคบซ้อนกับน้องสาวของเขาไม่ใช่เรื่องจริง ความจริงคือตนเองกับน้องสาวนางยุพารัตน์คบหากันจริง โดยน้องสาวนางยุพารัตน์จดทะเบียนสมรสกับสามี และฟ้องหย่ากันอยู่ ส่วนตนเองมีเมียมีลูกจริง แต่เมียไม่ได้ข้องเกี่ยวกันนานแล้ว ตนเองยังงงว่าดูแลน้องนางยุพารัตน์อย่างดีแต่ทำไมเขามาด่าตนเอง
ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุตนเองยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจหรือยกพวกไปหาเรื่อง แต่ตนเองไปรับแฟนสาวที่เป็นน้องนางยุพารัตน์ ซึ่งทำงานอยู่ในนั้น แต่เป็นจังหวะที่เจอแฟนนางยุพารัตน์จึงพูดคุย อาจใช้กำลังบ้าง แต่เมื่อเห็นนางยุพารัตน์ก็โมโห จึงทำร้ายโดยใช้มือ ไม่มีปืน ส่วนคนอื่นไม่ได้ข้องเกี่ยว คนช่วยเหลือตนเพราะตนนรู้จักเยอะ ก็เข้ามาช่วยห้ามบ้างอะไรบ้างแค่นั้น
หลังเกิดเหตุตำรวจก็ล็อกตัวตนเองไปโรงพัก แต่มีผู้ใหญ่บ้านมาประกันตัว ตนเองเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่ได้มีอิทธิพลใด ๆ ส่วนกับพ่อตนเองไม่ได้ข้องเกี่ยวกัน เพราะพ่อไม่เอาตนนานแล้ว ต่างคนต่างอยู่ ตนเองก็รับเหมาหากินเอง สำหรับการที่ตำรวจตั้งข้อหาพกพาอาวุธปืน ตนเองปฏิเสธ เพราะไม่ได้พก ไม่ได้ใช้ตบ ถ้าตบนางยุพารัตน์คงไม่เจ็บแค่นี้แน่นอน
