เมียนอกสมรสยื่นฟ้อง  บัวขาว  เรียกค่าเลี้ยงดูลูกสาววัย5ขวบ พร้อมให้เซ็นรับรองบุตร ร่ำไห้ถาม บัวขาว ไม่คิดถึงลูกบ้างหรอ 

29 เม.ย. 64

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (29 เมษายน 2564) คุณเก๋ อัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์ ซึ่งเป็นภรรยาของ บัวขาว สมบัติ บัญชาเมฆ นักมวยชื่อดังระดับโลกของไทย ได้เดินทางมายังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พร้อมคุณอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เพื่อยื่นฟ้อง คุณบัวขาว ให้มีการเซ็นรับรองบุตร , จ่ายค่าเลี้ยงดู และขอให้ทางภรรยาเป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว

โดยคุณเก๋ ได้มีการนำเอกสารหลักฐานมายืนยันให้ทางสื่อมวลชนได้ดูด้วย ซึ่งก็จะมีรูปภาพ 3 คน ขณะทำกิจกรรมร่วมกัน ประกอบไปด้วย คุณเก๋ ผู้เป็นแม่ คุณบัวขาว ผู้เป็นพ่อ และเด็กหญิงพิมพ์ญาดา บัญชาเมฆ หรือ น้องมีตังค์ อายุ 5 ปี ผู้เป็นลูกของทั้งคู่ นอกจากนี้ก็ยังมีหลักฐานคือใบสูติบัตรของน้องมีตังค์ ที่มีการเขียนไว้ว่า คุณเก๋ คือมารดา และคุณบัวขาว คือบิดา นอกจากนี้ยังมีใบเปลี่ยนนามสกุลของน้องมีตังค์ จากนามสกุลของคุณเก๋ เป็นนามสกุลของคุณบัวขาว รวมถึงยังมีเอกสารทะเบียนบ้านที่ระบุว่า คุณเก๋ และ คุณบัวขาว อาศัยอยู่ด้วยกันอีกด้วย

ทั้งนี้ระหว่างการสัมภาษณ์ บางช่วงบางตอนคุณเก๋ ก็มีน้ำเสียงที่สั่นเครือ บางช่วงก็ร้องไห้ออกมา เพราะเจ้าตัวรู้สึกสงสารลูก ที่ต้องถูกสังคมมองว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ

โดย คุณเก๋ ได้เล่าถึงเรื่องราวตั้งแต่แรกให้ฟังว่า ตนและคุณบัวขาวคบหาดูใจกันมาตั้งแต่ปี 2556 และในปี 2558 ก็ได้ให้กำเนิดบุตร จากนั้นในปี 2559 ก็ได้มาซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน 3 คนพ่อแม่ลูก ซึ่งพวกตนอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส

โดยที่ผ่านมาตนเรียกร้องให้ทางคุณบัวขาว จดทะเบียนรับรองบุตร เจ้าตัวก็รับปาก แต่ถึงเวลาจริงๆก็เงียบเฉย จนตอนนี้ลูก 5 ขวบแล้ว ซึ่งตนรู้สึกสงสารลูกมาก ที่ไม่สามารถบอกใครได้ว่า เขาเป็นลูกของบัวขาว (เสียงสั่น) ตนมองว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไป น้องมีตังค์ ก็กลายเป็นเด็กมีปมด้อย เพราะเวลาไปไหนมาไหน เห็นครอบครัวอื่นมีครบพ่อและแม่ เขาก็จะหันมาถามตนว่า ทำไมเขาถึงไม่มีพ่อ คำถามนี้ทำเอาตนแทบร้องไห้ (น้ำตาคลอ)

คุณเก๋ เล่าต่อว่า หลังจากอยู่บ้านเดียวกัน 3 คน พ่อแม่ลูก เมื่อช่วงต้นปี 59 พอปลายปี 60 ทางคุณบัวขาว ได้ย้ายค่ายมวยไปอยู่ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็เริ่มห่างกับตน ทำให้ตน ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตนเป็นคนดูแล เพราะเมื่อทวงถามทางคุณบัวขาวไป เขาตอบกลับมาว่า ไม่มีเงิน

โดยตั้งแต่ปี 60 คุณบัวขาวก็มีไปๆมาๆบ้าง แต่ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เขาหายไปเลย ไม่มีการติดต่อกลับมา ลูกก็ถามตลอดว่า เมื่อไหร่พ่อบัวจะมา ซึ่งตนก็บอกคุณบัวขาวไปแล้วว่า ถ้าเขาไม่ยอมเซ็นรับรองบุตร เรื่องราวจะต้องถึงศาล

อย่างไรก็ตามตนขอยืนยันอีกครั้งว่าจุดประสงค์หลักที่มาวันนี้ไม่ได้ต้องการค่าเลี้ยงดู แต่เพื่อจิตใจของลูก เพราะเขารักพ่อมาก เขาเรียกคำว่าพ่อบัวได้ก่อนคำว่าแม่เสียอีก

ถามว่าสถานะตอนนี้ตนกับบัวขาวยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ไหม ตนตอบไม่ได้ชัดเจน เพราะก็ยังมีการติดต่อกันเรื่องลูกอยู่ อีกอย่างทะเบียนบ้านก็ยังมีชื่อเขาอยู่ ตนเคยถามเขาว่าทำไมไม่ย้ายออกถ้าจะไม่มาที่นี่อีก เขาก็ไม่ตอบ โดยใจตนยังอยากกลับมาอยู่ด้วยกัน 3 คนพ่อแม่ลูกเหมือนเดิม แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับคุณบัวขาว

สุดท้ายตนอยากจะฝากไปถึงคุณบัวขาวว่า “พี่บัวคิดถึงลูกบ้างหรือเปล่า น้องคิดถึงพี่นะ เขาจะดีใจมากที่ได้เห็นหน้าพ่อตามสื่อ แล้วน้องร้องเพลงพี่ได้ตั้งแต่วันแรกที่หนูเปิดให้เขาฟัง อยากให้นึกถึงความรู้สึกลูกบ้าง” (ร้องไห้)

ด้านทนายความเสริมว่า พวกตนไม่มีเจตนาจะทำลายชื่อเสียงของคุณบัวขาว แต่เพื่อจิตใจของเด็กคนหนึ่ง จะสามารถบอกกับทุกคนได้ว่า หนูเป็นลูกบัวขาวนะ โดยหลังจากนี้ศาลจะนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 9 สิงหาคม 2564 เวลา 9.00 น.

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม